รีวิว Yasuke - ยาสึเกะ ซามูไรแอฟริกา
สำหรับชาวญี่ปุ่น ถ้าเกิดถามว่า รู้จักซามูไรที่เป็นคนต่างชาติไหม ก็อาจจะงงๆ และถามกลับมาว่า มีด้วยเหรอ ถ้าเป็นคนที่เล่นเกม ก็อาจจะยกชื่อ William Adams หรือที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Miura Anjin หลังจากได้รับใช้ Tokugawa Ieyasu และมีบทบาทเป็นตัวเอกในเกม Nioh จนเป็นที่รู้จักกัน แต่ถ้าคนที่ชอบประวัติศาสตร์หรือเคยเล่นเกมชุด Nobunaga no Yabou ก็คงจะรู้จัก Yasuke ในฐานะหนึ่งในข้ารับใช้ของ Oda Nobunaga เจ้าเมืองคนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวเอกในเกม และในละครชุดประวัติศาสตร์ทางช่อง NHK ในปี 2014 เรื่อง ‘Gunshi Kanbei’ ก็มีช่วงที่ Yasuke มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องเช่นกัน รีวิว Yasuke - ยาสึเกะ ซามูไรแอฟริกา
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ Yasuke นักรบซามูไรคนแรกที่เป็นชาวแอฟริกา และหลังจากที่เขาได้สร้างชื่อเสียงจนกลายเป็นซามูไรที่แข็งแกร่งที่สุด ก็วางดาบแล้วหันไปใช้ชีวิตเงียบๆ แต่เพื่อปกป้องสาวน้อยคนหนึ่งจากพลังแห่งความมืด ก็ทำให้เขาต้องกลับมาจับดาบอีกครั้ง
ออริจินัลอนิเมะจาก Mappa ที่จะมาในแนวซามูไรแฟนตาซีในยุคเซ็นโกคุแบบมีเวทย์มนต์ ได้ถูก Netflix ประกาศว่าจะนำมันมาฉายให้ชมพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 29 เมษายน 2021 นี้
องครักษ์ของโนบุนางะที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เป็นฉบับแอ็กชั่นแฟนตาซี กราฟฟิก CG ฉากแอ็กชั่นเพียบ เดินเรื่องสไตล์ซามูไรพ่อลูกอ่อน ผลงานโดยสตูดิโอ Mappa ซึ่งเป็นสตูดิโอเดียวกับที่สร้าง Attack on Titan ss4
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของชายหนุ่มผิวสีร่างใหญ่จากแอฟริกาที่เดินทางมาในญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1579 พร้อมกับมิชชันนารีที่เข้ามาทำการเผยแผ่ศาสนาคริสต์และทำการค้าขายกับเหล่าไดเมียวในยุค “เซ็นโกคุ” ยุคสงครามกลางเมืองระหว่างแคว้นของเหล่าไดเมียวและซามูไร แล้วด้วยโชคชะตาเขาก็มีโอกาสได้พบกับ โอดะ โนบุนางะ ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลกว่าผู้อื่น
โนบุนางะประทับใจความสามารถและทัศนคติต่อเรื่องความมีเกียรติของชายผิวสีคนนี้มาก จึงได้ตั้งชื่อให้ว่า “ยาสึเกะ” แล้วด้วยความสามารถในการต่อสู้ และความแข็งแกร่งเหนือคนทั่วไปทำให้ยาสึเกะกลายเป็นองครักษ์คนสำคัญข้างกายโนบุนางะ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำสงครามหมายรวมประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นผู้วางรากฐานคนแรกด้วย
แต่แล้วในปี ค.ศ. 1582 โนบุนางะ กลับถูกอาเคจิ มิตสึฮิเดะ ทรยศ บุกโจมตีที่วัดฮอนโนจิ โนบุนางะจึงได้ทำฮาราคีรีตนเอง โดยมียาสึเกะรับคำสั่งเป็นผู้ลงมือบั่นศีรษะ ซึ่งถือว่าเป็นคำสั่งสุดท้ายที่เขาได้รับ แม้ว่านั่นจะเป็นหน้าที่ทรงเกียรติตามคติของซามูไร แต่มันกลับกลายเป็นฝันร้ายของยาสึเกะผู้ภักดีต่อเจ้านายยิ่งชีพ
จากนั้น 20 ปีต่อมา หลังจากประเทศญี่ปุ่นถูกดูหนังออนไลน์รวมเป็นหนึ่งได้แล้วภายใต้การนำของ โทกุงาวะ อิเอยาสึ แล้วตั้งรัฐบาลโชกุนขึ้นมาปกครองประเทศ ไม่มีสงครามเกิดขึ้นอีก ยาสึเกะ ซึ่งหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง
ใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับการดื่มสุรา การทำอาชีพจับปลา และช่วยเหลือผู้คนในหมู่บ้าน เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน กระทั่งวันหนึ่ง สองแม่ลูก อิจิกะ และซากิ ได้ขอร้องให้ยาสึเกะช่วยเป็นคนคุ้มกันพาซากิที่ล้มป่วยหนักเดินทางขึ้นเหนือไปหาหมอวิเศษ
แม้ว่ายาสึเกะจะไม่เห็นด้วยก็ตาม อีกทั้งเขาในระหว่างคุ้มกันสองแม่ลูก เขายังพบตราสัญลักษณ์ที่ทำให้เขาหวนนึกถึงสหายเก่าคือ “นัตสึมารุ” ซามูไรหญิง หรือที่เรียกว่า อนนะบูเกอิชา ซึ่งพวกเขาเคยอยู่ในสังกัดของโนบุนางะด้วยกัน
แต่แล้วยาสึเกะก็พบว่า ซากิ มีความลับพิสดารซุกซ่อนไว้ และกำลังถูกกลุ่มคนที่มีพลังร้ายกาจตามล่าตัวอยู่ด้วยนั่นทำให้เขาถูกลากเข้ามาพัวพันกับการต่อสู้ที่ทำให้เขาต้องปลุกจิตวิญญาณนักรบกลับมา เพื่อการปกป้องชีวิตของผู้หญิงและเด็กอีกครั้งหนึ่ง
การเป็นซามูไรผิวสีคนแรก
การผจญภัยในญี่ปุ่นของ Yasuke เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาเดินทางมาพร้อมกับมิชชันนารีนิกายเยซูอิตชาวอิตาเลียนชื่อ Alessandro Valignanoในปี 1579 ซึ่งญี่ปุ่นกำลังอยู่ในยุคเซ็งโกคุ หรือยุคไฟสงครามที่ขุนศึกแต่ละเมืองก็ต่างสะสมกำลังเข้ารบกันเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
จุดกำเนิดของเขาไม่ชัดเจนนักว่ามาจากประเทศไหน แต่เดิมก็เชื่อกันว่าเขามาจากโมซัมบิกที่เป็นอาณานิคมของโปรตุเกส แต่ก็มีการวิเคราะห์เพิ่มเติมว่าเขาน่าจะเป็นชาว Habshi จากเอธิโอเปีย
ซึ่งชื่อเดิมของเขาก็น่าจะเป็น Yisake ในภาษาถิ่น ที่มาจาก Isaqueในภาษาโปรตุเกส (ที่ก็มาจาก Isaac ชื่อตามตำราคริสต์อีกที) แล้วพอมาญี่ปุ่นก็ค่อยเพี้ยนเป็น Yasuke
การพบกันครั้งแรกกับ Oda
ตอนที่ได้พบกันครั้งแรก Oda ก็ไม่เชื่อเรื่องสีผิว ขนาดที่เขาพยายามขัดผิวของ Yasuke เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นสีของหมึกหรือไม่ จนสุดท้ายก็ยอมรับว่าเป็นสีผิวจริงๆ และด้วยความถูกใจ Oda ก็ได้ให้เงินกำนัลกับ Yasuke ก่อนที่ Yasuke จะออกเดินทางตามบาทหลวงไปยังจังหวัดอื่นๆ แล้วค่อยกลับมาเกียวโต
แม้ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า Yasuke กลายมาเป็นข้ารับใช้ของ Oda Nobunaga ได้อย่างไร แต่ก็คาดว่าไม่ทางมิชชันนารีเสนอตัวเขาให้เป็นของกำนัลเพื่อผลประโยชน์ ก็เป็น Oda เองที่ขอตัว Yasuke มารับใช้ตรงๆ เพื่อเข้าคอลเลกชั่นของเขา
เมื่อเข้ามารับใช้ Oda ตัว Yasuke เองก็ได้เรือนพักของตัวเอง ซึ่งก็น่าจะเป็นชีวิตที่ดีกว่าชีวิตทาสแบบเดิมแน่นอน (ซึ่ง ‘ทาส’ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แปลกสำหรับชาวญี่ปุ่นในยุคนั้น)
และเขาก็ยังได้รับดาบสั้น Koshigatana พร้อมทั้งได้รับตำแหน่งผู้ถืออาวุธ จะว่าไปก็คงคล้ายกับบอดี้การ์ดส่วนตัวของ Oda ที่เขาก็ชอบพา Yasuke ไปไหนมาไหนด้วย และยังได้ร่วมมีบทบาทในการรบอีกด้วย
จุดที่น่าสนใจ
คือ Oda Nobunaga ถูกใจเขาขนาดที่มอบสิ่งต่างๆ ให้ จนมีนักประวัติศาสตร์บางส่วนก็มองว่า หาก Oda มีชีวิตยืนยาวกว่านี้ Yasuke อาจจะได้รับปราสาทของตัวเองเสียด้วยซ้ำ และก็น่าสนใจว่า ในหลักการนับว่าใครเป็นซามูไรหรือไม่
ก็มักจะมองว่าได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการหรือไม่ และได้รับผลตอบแทนเป็นข้าวตามศักดินาหรือไม่ (แทนเงินเดือน) ซึ่งใน Wikipedia ส่วนภาษาอังกฤษจัดให้เขาเป็น ชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ครองดาบและมีดสั้นเท่านั้น
แต่ในส่วนภาษาญี่ปุ่น เขาถูกจัดให้เป็นซามูไรชาวต่างชาติคนแรก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ในส่วนของภาษาอังกฤษอาจจะยึดว่า จะเป็นซามูไรได้ต้องได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็เป็นระบบที่มีขึ้นในยุคของ Togugawa ในภายหลังนั่นเอง
ด้านคุณภาพของเรื่อง
งานสร้างดีเยี่ยม
จุดเด่นสำคัญของอนิเมะเรื่องนี้คือ โปรดักชั่น และ งาน CG กราฟฟิก ที่อยู่ในระดับดี การันตีผลงานโดยสตูดิโอดังอย่าง Mappa ที่มีผลงานอย่าง Attack on Titan ss4 และ Jujutsu no Kaisen
เพียงลักษณะของอนิเมชั่น เป็นการสร้างในสไตล์ ญี่ปุ่น+ตะวันตก ดังนั้นภาพรวมของงานดีไซน์คาแรคเตอร์ งานภาพและโมชั่นเคลื่อนไหวจึงดูมีความแข็งในแบบอนิเมชั่นตะวันตกอยู่บ้าง แต่ก็ดูเหมือนว่าเป็นความจงใจของทีมสร้างที่ต้องการให้ออกมาในสไตล์นี้
ฉากแอ็กชั่นและดนตรีประกอบ
ถือว่าเป็นจุดเด่นของเรื่อง แม้ฉากฟันดาบและฉากต่อสู้ในเรื่องจะไม่ถึงระดับสุดยอด แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ดีโดยเฉลี่ย รวมถึงความดิบ โหด เลือดสาด ดูแบบเน้นความสะใจ โดยเฉพาะในสองตอนสุดท้ายที่จัดเต็มด้านกราฟฟิกและฉากต่อสู้ทั้งในแบบปะทะกองทัพ
และปะทะกับบอสใหญ่ที่ทรงพลัง ซึ่งตัวยาสึเกะไม่ได้มีพลังพิเศษใดๆ แต่อาศัยพละกำลังที่แข็งแกร่งว่าคนทั่วไปและความเชี่ยวชาญในวิชาดาบและการต่อสู้เข้าปะทะกับเหล่าศัตรูที่มีพลังเหนือมนุษย์
การวิพากษ์ประวัติศาสตร์ในเรื่อง
นอกจากนี้ยังมีความพยายามตีความเรื่องของวัฒนธรรมซามูไรของญี่ปุ่นกับเหล่านักรบในประวัติศาสตร์ยุคเซ็นโกคุอีกแง่มุมหนึ่ง และหลายประเด็นมีความร่วมสมัยกับโลกยุคปัจจุบันอย่างมาก ทำให้อนิเมะเรื่องนี้มีการแฝงนัยยะของการวิพากษ์และจิกกัดสังคมโลกเข้ามาด้วย
แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้เอาแต่วิพากษ์สังคมเป็นหลัก ส่วนหนึ่งที่อนิเมะทำได้ดีก็คือ การนำเสนอภาพ “ประวัติศาสตร์สงคราม” ในยุคเซ็นโกคุ โดยเฉพาะยุทธการศึกเทนโช ที่โนบุนางะบุกโจมตีพวกนินจาอิงะ ไปจนถึงภาพความขัดแย้งระหว่างโนบุนางะ
และเหล่าบริวารส่วนใหญ่ที่ยังคงยึดถือคติเก่าของเหล่าซามูไร ซึ่งกลายเป็นชนวนความขัดแย้งที่ทำให้โนบุนางะถูกต่อต้านจากผู้คนทั่วไปในยุคนั้น โดยเรื่องราวในส่วนนี้จะถูกเล่าผ่านสายตาของยาสึเกะ ที่เป็นเสมือนพยานของประวัติศาสตร์
ทำไมโนบุนางะจึงถูกมิตสึฮิเดะทรยศ
การพยายามอธิบายสาเหตุว่าทำไม โนบุนางะ จึงถูกมิตสึฮิเดะ ทรยศที่วัดฮอนโนจิ โดยในอนิเมะตีความเรื่องความขัดแย้งทางความคิดของคนทั้งสอง ที่โนบุนางะต้องการเปลี่ยนแปลงสังคม ให้โอกาสผู้หญิงเช่นนัตสึมารุและคนนอกอย่างยาสึเกะให้ได้เป็นซามูไร ซึ่งปกติแล้วสงวนไว้ให้ผู้ชายญี่ปุ่นและมักต้องให้คนชั้นสูงเท่านั้น
(ที่จริงแล้ว อนนะบูเกอิชา หรือ ซามูไรหญิง เป็นที่สิ่งที่มีมานานแล้วในสังคมญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีคนที่ได้ตำแหน่งเหล่านี้ไม่มากนัก แต่หลายคนมีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์)
รสนิยมทางเพศของโนบุนางะ กับ LGBT
การนำเสนอประเด็น LGBT ในเรื่องเว็บดูหนังที่โนบุนางะหลงรัก โมริ รันมารุ คนสนิทหนุ่มหน้าตาดีของตนเอง คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ผู้สร้างอนิเมะพยายามนำเสนอว่า ทำไมโนบุนางะถึงอยากทำลายวิถีเก่าทิ้ง เพราะเขาต้องการสร้างสังคมใหม่ที่ผู้คนสามารถปลดปล่อยตนเองและทำในสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่ต้องถูกวิถีเก่าผูกมัดไว้
แต่ที่จริงแล้วในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น วัฒนธรรมที่ซามูไรหลับนอนกับซามูไรด้วยกันไม่ใช่เรื่องแปลกพิสดารแต่อย่างใด เพราะในวัฒนธรรมซามูไรก็มีพิธีชูโด ที่ให้เด็กหนุ่มที่กำลังจะเป็นซามูไรต้องมาร่วมหลับนอนกับซามูไรอาวุโส นอกจากนี้ในระหว่างการทำสงคราม ก็เป็นเรื่องยากที่ไดเมียวผู้นำทัพจะนำผู้หญิงเข้ามาในกองทัพได้ เมื่อต้องทำสงครามเป็นเวลานาน การให้คนสนิทที่เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีร่วมหลับนอนด้วย และรับหน้าที่องครักษ์ไปด้วย จึงเป็นเรื่องปกติในยุคสงครามของญี่ปุ่น
ตรงนี้เข้าใจว่าผู้สร้างต้องการนำเสนอในแง่มุมที่ โนบุนางะต้องการแสดงออกเรื่องรสนิยมทางเพศของตนเองอย่างเปิดเผยไปเลย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้บริวารอย่างมิตสึฮิเดะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการตีความที่น่าสนใจ
(ที่จริงแล้วโนบุนางะก็มีภรรยาและมีอนุภรรยาที่เขารักมากอยู่ด้วย นั่นคือ เจ้าหญิงโนะ และ คิตสึโนะ ซึ่งเป็นมารดาของเหล่าบุตรชายโนบุนางะทั้งหลาย)
มาถึงจุดด้อยกันบ้าง
เป็นที่น่าเสียดาย เพราะนี่คือการเล่าสังคมญี่ปุ่นและวิถีซามูไรด้วยสายตาของชาวตะวันตกก็ว่าได้ เพราะแม้ว่าการนำเสนอประเด็นเรื่อง “เกียรติ” เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงแทบจะตลอดทั้งเรื่องโดยมีตัวยาสึเกะเป็นคนที่พร่ำพูดออกมาหลายครั้ง
รวมถึงซามูไรคนอื่นๆ ในความทรงจำของเขา แต่การพูดถึงเรื่องเกียรติในอนิเมะเรื่องนี้ค่อนข้างลอยๆ แต่ก็มีประเด็นที่หนักแน่นอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการปกป้องผู้หญิงและเด็กที่ยาสึเกะย้ำตั้งแต่ตอนแรก
แต่ส่วนที่เหลือนอกนั้น ดูเหมือนจะใช้คำว่าเกียรติออกจะพร่ำเพรื่อมากไปสักหน่อย เช่นเดียวกับการพร่ำเรื่องวิถีเก่าของมิตสึฮิเดะและเหล่านักรบคนอื่นๆซึ่งก็ดูเลื่อนลอยเช่นกัน กระทั่งดูจนจบแล้วก็ยังยากจะบอกให้คนทั่วไปเข้าใจได้ว่า
วิถีเก่าและเกียรติในความหมายที่อนิเมะเรื่องนี้ต้องการนำเสนอขึ้นมา มันคืออะไรกันแน่ นี่ถือว่าเป็นข้อด้อยเลยก็ว่าได้ เพราะอนิเมะมีความพยายามด้อยคุณค่าของวิถีเก่าของซามูไรมากเกินไปโดยไม่ได้อธิบายแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับความหมายของวิถีเก่าเลย
จนเรื่องทำให้ดูเหมือนพวกซามูไรเหล่านั้นเป็นพวกคร่ำครึและเป็นตัวร้ายต่อความคิดแบบเสรีนิยมไปซะหมด ทั้งที่ตัวเรื่องเองก็ไม่ได้นำเสนอให้เราเห็นกระจ่างถึงความหมายโดยกว้างของวิถีเก่า โดยเฉพาะในครึ่งหลังของเรื่องประเด็นเหล่านี้กลับเบาบางลงไปเรื่อยๆจนแทบจะไม่ได้มีความสำคัญกับแก่นหลักของเรื่องอีก
อีกจุดที่ด้อยคือ การนำเสนอภาพของพวกนินจา ราวกับเป็นนักรบแนวหน้า ซึ่งอันนี้คือภาพลักษณ์ที่คนตะวันตกมองชัดๆ และขัดกับความเป็นจริง เพราะพวกนินจาไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่จะถือดาบออกมาสู้รบกับซามูไรกลางสมรภูมิ
และคนกลุ่มนี้ไม่ได้สนใจเกียรติของซามูไรด้วย เพราะวิถีคิดแตกต่างกัน ทำให้ฉากที่ยาสึเกะต้องมาบุกพวกอิงะกลายเป็นฉากต่อสู้ที่ดูขัดสายตามากๆ
โดยรวม
เรื่องราวของ ยาสึเกะ ซามูไรแอฟริกา องครักษ์ของโนบุนางะที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สร้างโดยสตูดิโอ Mappa เป็นแบบแอ็กชั่นแฟนตาซี กราฟฟิก CG ฉากแอ็กชั่นเพียบ เดินเรื่องสไตล์ซามูไรพ่อลูกอ่อน
สรุป
นี่เป็นอนิเมะน้ำดีแบบ Original Netflix ที่ควรค่าได้รับชม ความยาว 6 ตอนจบ ซีซันแรก สำหรับคนที่ชอบแนวซามูไร แอ็กชั่นมันส์ๆผสมแฟนตาซีเวอร์ๆ ในแบบเตะเหตุผลทิ้งออกไป สามารถรับชมได้เลยครับ
Comments