top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

Van Helsing


ดูหนังออนไลน์

รีวิว Van Helsing - แวน เฮลซิง: นักล่าแวมไพร์

เรื่องนี้เป็นซีรีส์สัญชาติอเมริกาและมีผู้กำกับน้อยใหญ่มากฝีมือหลายท่านมาร่วมกำกับ อาทิ Jonathan Scarfe, Michael Nankin และ David Winning ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนักแสดงฝีมือดีที่มาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง ถือว่าเป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งเลยที่ใช้นักแสดงเปลืองมาก โดยซีซั่นที่ 1 ได้ออกอากาศครั้งแรกเมื่อปี 2016 ปัจจุบันก็เดินมาถึงซีซั่นที่ 4 แล้วที่ปล่อยลงจอให้ได้ชมกันและกำลังดำเนินการสร้างซีซั่นที่ 5 อีกด้วย โดย Van Helsing ฉบับซีรีส์นี้เป็นการร่วมมือกันผลิตระหว่าง Echo Lake Entertainment และ Nomadic Pictures โดยมีผู้จัดจำหน่ายหลายเจ้าด้วยกันและหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั่นก็คือ Netflix นั่นเอง รีวิว Van Helsing


เรื่องย่อ


เล่าเรื่องราวในโลกที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ที่ส่งผลให้เกิดละอองฝุ่นขนาดหนาทึบบดบังแสงอาทิตย์ จากนั้นเหล่าแวมไพร์ที่แอบซ่อนอยู่ในสังคมมนุษย์ได้ออกมาอาละวาดกัดและดูดกินเลือดมนุษย์ จนคนที่ถูกกัดส่งเชื้อต่อแล้วกลายเป็นแวมไพร์ผีดิบกันต่ออย่างรวดเร็ว โลกจึงเข้าสู่กลียุคที่ประชากรส่วนหนึ่งกลายเป็นผีดิบ ขณะเดียวกันความเจริญและอารยธรรมในโลกก็พังทลายลงไปด้วย ในที่สุดโลกก็ถูกยึดครองโดยเหล่าแวมไพร์


ห้าปีต่อมา หญิงสาวคนหนึ่งคือ วาเนสซ่า ได้ลืมตาตื่นขึ้นในห้องพยาบาลแห่งหนึ่ง เธอถูกเฝ้าอารักขาจากทหารนาวิกโยธินคนหนึ่งที่ได้รับคำสั่งให้เฝ้าดูแลเธอเป็นภารกิจหลัก แม้ว่าสังคมโลกจะเข้าสู่การล่มสลายแล้วก็ตาม ส่วนวาเนสซ่าก็พบว่าเธอไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป เมื่อเหล่าผีดิบมากัดเธอ เลือดของเธอกลับทำให้พวกมันกลับคืนสู่การเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง แล้วเธอยังมีความสามารถในการต่อสู้และพละกำลังกับการฟื้นตัวที่รวดเร็วผิดธรรมดาอีกด้วย


วาเนสซ่า ต้องออกค้นหาดีแลน ลูกสาวของเธอที่ไม่ได้พบกันนานห้าปี ระหว่างนั้นก็ได้ร่วมทางกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่แต่ละคนก็มีเบื้องหน้าเบื้องหลังแตกต่างกันไปอย่างคาดไม่ถึง จนในที่สุดวาเนสซ่าก็ได้พบกับดีมีทรี หัวหน้าของแวมไพร์ที่มีอายุมานานหลายร้อยปี ได้เปิดเผยว่า ที่จริงแล้ววาเนสซ่าก็คือสายเลือดของ เอบราฮัม แวนเฮลซิ่ง นักล่าแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกผู้ที่เคยต่อสู้กับเคาน์ดราคูล่ามาแล้วในอดีต


นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นการออกเดินทางค้นหาความลับของสายเลือดแวนเฮลซิ่ง ความลับของแวมไพร์ และปริศนาดำมืดต่างๆท่ามกลางโลกที่ถูกเหล่าแวมไพร์ยึดครองไปแล้ว


 

เรื่องนี้เป็นซีรีส์สัญชาติอเมริกาและมีผู้กำกับน้อยใหญ่มากฝีมือหลายท่านมาร่วมกำกับ อาทิ Jonathan Scarfe, Michael Nankin และ David Winning ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนักแสดงฝีมือดีที่มาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง ถือว่าเป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งเลยที่ใช้นักแสดงเปลืองมาก


โดยซีซั่นที่ 1 ได้ออกอากาศครั้งแรกเมื่อปี 2016 ปัจจุบันก็เดินมาถึงซีซั่นที่ 4 แล้วที่ปล่อยลงจอให้ได้ชมกันและกำลังดำเนินการสร้างซีซั่นที่ 5 อีกด้วย


โดย Van Helsing ฉบับซีรีส์นี้เป็นการร่วมมือกันผลิตระหว่าง Echo Lake Entertainment และ Nomadic Pictures โดยมีผู้จัดจำหน่ายหลายเจ้าด้วยกันและหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั่นก็คือ Netflix นั่นเอง


เนื้อเรื่อง


เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อภูเขาไฟเยลโล่สโตนประทุเป็นเหตุให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลให้เกิดละอองฝุ่นหนาทึบบดบังแสงอาทิตย์ เหล่าแวมไพร์ที่เคยหลบซ่อนตัวแฝงอยู่ในสังคมร่วมกับพวกมนุษย์ได้ออกมาอาละวาดดูดกินเลือดมนุษย์อย่าบ้าคลั่ง


ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อกลายเป็นแวมไพร์แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ความหวังในการรอดชีวิตเริ่มลดลงเรื่อย ๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังจะถูกแทนที่ด้วยเผ่าพันธ์ุที่แข็งแกร่งกว่าและเป็นผู้ล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร


5 ปีให้หลังหญิงสาวนามว่า วาเนสซ่า ได้ตื่นขึ้นในห้องพยาบาลแห่งหนึ่งเธอถูกเฝ้าอารักขาจาก จ่าแอ็กเซล มิลเลอร์ ทหารนาวิกโยธินที่ได้รับคำสั่งให้เฝ้าดูแลเธอให้มีชีวิตรอดปลอดภัย แม้ว่าเมืองทั้งเมืองจะตกอยู่ในมือของพวกแวมไพร์แต่เขาก็ยังคงปกป้องวาเนสซ่ามาโดยตลอด


และในที่สุดวาเนสซ่าก็ค้นพบวิธีรักษาพวกผีดิบ เธอพบว่าเธอไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไปเลือดของเธอเปลี่ยนพวกมันให้กลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีพละกำลังแข็งแกร่งและร่างกายของเธอยังฟื้นตัวได้ไวจากอาการบาดเจ็บอีกด้วย


วาเนสซ่าพยายามออกตามหาลูกสาวของเธอที่หายไปจนเธอได้มาพบกับ ดีมีทรี หัวหน้าแวมไพร์ที่มีชีวิตมาแล้วหลายร้อยปี มันบอกกับเธอว่าที่จริงแล้ววาเนสซ่าคือสายเลือดของ อับราฮัม แวนเฮลซิ่ง นักล่าแวมไพร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกดูหนังออนไลน์ ผู้ที่เคยต่อสู้กับเคาน์แดร็กคูล่ามาแล้วในอดีต


ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจออกเดินทางค้นหาความลับของตระกูลที่เธอไม่เคยล่วงรู้มาก่อน การเดินทางของเธอครั้งนี้จะจบลงอย่างไร และเธอจะสามารถช่วยมนุษย์ให้เหลือรอดจากโลกที่ถูกพวกแวมไพร์ปกครองได้หรือไม่


ตัวละคร


วาเนสซ่า แวนเฮลซิ่ง

เธอเป็นทายาทตระกูลนักล่าแวมไพร์ที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เธอใช้ชีวิตก่อนเกิดเหตุแวมไพร์ออกอาละวาดยึดครองเมืองอยู่ที่ซีแอตเติลร่วมกับลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอ Dylan โดยทำอาชีพเป็นตำรวจ


จ่าแอ็กเซล มิลเลิอร์

หนึ่งในหน่วยทหารนาวิกโยธินที่มาเฝ้าอารักขารักษาความปลอดภัยให้กับ วาเนสซ่า ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง


ด็อกเตอร์ซาร่า

ผู้ซึ่งเคยกลายเป็นแวมไพร์และถูกคืนร่างกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งโดย วาเนสซ่า ด็อกมั่นใจมาโดยตลอด 5 ปีว่าเลือดวาเนสซ่าพิเศษ


แซม

หนุ่มที่ใช้ภาษามือในการสื่อสาร 1 ในผู้รอดชีวิตที่เข้ามาอาศัยในโรงพยาบาลที่เดียวกับ วาเนสซ่า อยู่


จูเลียส

ผู้นำแวมไพร์ตัวเป้งที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับวาเนสซ่า และพยายามกำจัดเธอให้สิ้นซากแต่ภายหลังเขาก็กลายมาเป็นทีมของ วาเนสซ่า


แฟลช

ลูกน้องของจูเลียสเขาถูกจูเลียสส่งมาให้ทดลองกัดวาเนสซ่า เพื่อดูว่าเลือดของเธอสามารถเปลี่ยนแวมไพร์ได้จริงหรือไม่


การดำเนินเรื่อง


ซีซั่นที่ 1

การดำเนินเรื่องและการลำดับเรื่องราวพอใช้จะมีอืดอาดบ้างเล็กน้อย ใส่ประเด็นดราม่าเข้ามาบ่อยและค่อนข้างเยอะเกินไปในช่วงต้น ๆ พล็อตเรื่องน่าสนใจแต่ปูพื้นตัวละครสมทบที่ตายไปน้อยเลยไม่อินกับความสูญเสียสักเท่าไหร่ ปูพื้นตัวละครวาเนสซ่าได้น่าสนใจชวนให้ติดตาม เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย


ซีซั่นที่ 2

สนุกมากเนื้อเรื่องเริ่มซับซ้อนชวนติดตามและมีการปล่อยตัวละครใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ อาทิ สการ์เล็ต บทน้องสาวของวาเนสซ่าซึ่งเป็นตัวละครโปรดที่สุด และยังได้รับความนิยมจากแฟนซีรีส์เยอะมากและอีกตัวละครโปรด อย่างจูเลียสก็มีบทบาทน่าสนใจมากขึ้น ตัวละครสมทบตัวอื่น ๆ ก็บทดีเกือบทุกคน มีฉากแอคชั่นเจ๋ง ๆ มาให้ได้ชมกันมากขึ้น


ซีซั่นที่ 3

โดยส่วนมากซีรีส์ที่ทำหลายซีซั่นจะเจอปัญหาการออกทะเลบ้าง เนื้อหาจำเจบ้าง แต่ซีซั่นที่ 3 ของ Van Helsing ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร โดยการดำเนินเรื่องในซีซั่นที่ 3 นี้เน้นไปที่ต้นกำเนิดของ วาเนสซ่า ถือว่าทำออกมาดีไม่จำเจไอเดียแปลกใหม่ดี มีบางจุดที่ออกทะเลไปนิด ๆ หน่อย ๆ มีความแฟนตาซีมากกว่าสองซีซั่นก่อน ทุกอย่างดีหมดแต่มาพังเพราะตอนจบ กล้าพูดได้เต็มปากว่าเกลียดตอนจบซีซั่นนี้มาก


ซีซั่นที่ 4

ซีซั่นนี้ก็ปล่อยตัวละครใหม่ออกมาเพิ่มเยอะเช่นเดียวกับซีซั่นที่แล้ว โชว์ความโรคจิตของตัวร้ายที่มากันยกทีม มีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันบ้างแต่ก็ยังทำออกมาไม่สุดเรารู้สึกว่าสามารถทำออกมาได้ดีกว่านี้ การดำเนินเรื่องโดยรวมถือว่าดีมีประเด็นใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ ความแฟนตาซีจัดหนักจัดเต็มเลยซีซั่นนี้

รีวิว Van Helsing

ด้านนักแสดง


นักแสดงแทบทุกคนเข้าถึงบทบาท พัฒนาการตัวละครค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ บทของแซมตัวร้ายโรคจิตที่ค่อยๆพัฒนามาเป็นตัวร้ายระดับบอส แสดงความโรคจิตได้สมจริงมาก ๆ จนเวลาดูเขาแล้วรู้สึกหลอนขึ้นมาจริง ๆ


ส่วนบทนางเอกของเรื่อง Kelly ก็แสดงออกมาได้ดีทำให้บทนี้โดดเด่นไม่ดร็อปสามารถดึงดูดความสนใจให้ผู้ชมโฟกัสไปที่เธอได้ จุดเด่นของตัวละครในแต่ละตัวที่ ขอชมทีมผู้สร้างเว็บดูหนังเลยคือการพลิกผันบทจากตัวดีไปตัวร้าย จากตัวร้ายไปตัวดีทำออกได้ค่อนข้างถูกใจเลย


ด้านคุณภาพงาน


เครื่องแต่งกายเหมาะสม การแต่งหน้าคือสมจริงมากยอมรับทีม Make up พวกคราบเลือดแห้งกรังหรือแม้กระทั่งใบหน้าของแวมไพร์ที่ถูกปลุกขึ้นมาจากโลง การแต่งหน้าของตัวละครแซมตอนที่กลายเป็นผู้อาวุโสแล้วสมจริงราวกับว่ามันมีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่จริง ๆ บนโลกนี้


บรรยากาศและโลเคชั่นสมจริงมาก ๆ รังพวกผีดิบก็ทำออกมาได้น่าขยะแขยงจริง ๆ มีฉากหนึ่งที่เมียของแฟลชถูกจับไปขังกรงที่โรงงานชำแหละมนุษย์คือมันสมจริงมาก มีเศษชิ้นส่วนมนุษย์เกลื่อนคือดูแล้วมันกระอกกระอ่วนขยะแขยงจนอยากจะอ้วกตามไปด้วย


โดยรวม


เอาเป็นว่า วาเนสซ่า คือตัวแบกเรื่องให้น่าดูพอสมควรเลยครับ ต่อมาจึงมีตัวละครที่ชวนให้ลุ้นขึ้นมาเพิ่มอีกบางคน สำหรับแนวทางของเรื่อง เสมือนกับเป็นการเอา Walking Dead มายำรวมกับแนวพลังพิเศษแบบ X-Men


แต่มันออกมาไม่ได้สนุกเท่าไรนัก แม้ว่าจุดเด่นมันก็มีอยู่ แถมเป็นความพยายามฉีกแนวจากเรื่องโลกพินาศ ดิสโทเปีย สู้กับซอมบี้ เปลี่ยนมาเป็นผีดิบแทน แถมยังนำเสนอคาแรคเตอร์วาเนสซ่าได้ดีระดับหนึ่ง รวมถึงตัวละครรองๆที่น่าสนใจเช่น แอ็กเซล สการ์เล็ต จูเลียส โมฮัมหมัด รวมถึงการสร้างตัวร้ายสไตล์โรคจิตแบบ แซม ขึ้นมาได้


แต่ซีรีส์กลับมีความยืดยาดในการเดินเรื่อง แทนที่จะโฟกัสในส่วนที่น่าสนุก กลับไปเล่นประเด็นดราม่าบางอย่างที่น่ารำคาญ แถมในช่วงครึ่งแรกของซีซันแรกคือตอน 1-6 ช่วงที่ติดในโรงพยาบาล เป็นพาร์ทที่ดราม่าตัวละครเข้าขั้นแย่ครับ ตัวละครรองๆที่ถูกฆ่าในช่วงแรกไม่มีใครน่าจดจำ ไม่มีความอินหรือน่าสงสารอะไรเลย


กว่าเรื่องจะมาสนุกจริงๆคือตอนท้ายของซีซันแรก ที่เริ่มเฉลยปริศนาพลังของนางเอก ส่วนเรื่องสายเลือดของ เอบราฮัม แวนเฮลซิ่ง จากในตำนานดราคูล่าต้นฉบับในนิยายของ บราห์ม สโตรกเกอร์


ก็ไม่ได้ดูลึกลับอะไร คนดูเดาออกอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ถ้าเปรียบเทียบกับซีรีส์ Dracula ตอนที่เฉลยว่า แม่ชีอกาธา คือ แวนเฮลซิ่ง ยังชวนตะลึงกว่าอีก แถมไม่ได้ใช้เวลาปูเรื่องนานขนาดเรื่องนี้ด้วย


ช่วงสนุกต่อมาคือในซีซันสอง ตั้งแต่เปิดตัว สการ์เล็ต ซึ่งถือว่าเป็นน้องสาวของนางเอกเรา เป็นตัวละครที่เชื่อได้เลยว่าเปิดตัวคนชอบเยอะ แถมยังมีเคมีกับนายทหารนาวิกอย่างแอ็กเซลแรงมาก อีกตัวละครคือจูเลียส


ที่ตอนแรกเปิดตัวมาเป็นหนึ่งในกลุ่มแวมไพร์ตัวร้าย แต่หลังจากกลายเป็นมนุษย์แล้วมาเป็นฝั่งนางเอก ก็เป็นตัวละครที่น่าเชียร์มาก รวมถึงการสร้างปมให้กับตัวร้ายสายโรคจิตที่ค่อยๆพัฒนามาเป็นระดับบอสอย่างแซม ก็ทำได้ดี


ในซีซันสาม สเกลเรื่องก็ขยายขึ้น เริ่มไปเจาะเรื่องราวฝั่งแวมไพร์มากขึ้น รวมถึงหนทางปราบพวกแวมไพร์ แต่ตอนจบของซีซันสามกลับทำได้เลวร้ายมาก เอาเป็นว่าตอนจบซีซันสองของ Titans แย่แค่ไหน เรื่องนี้ก็พอกันเลยครับ ที่สำคัญคือตัดบทตัวละครตัวหนึ่งที่คนดูชอบออกไป แต่กลับเก็บตัวละครที่คนดูอยากให้ตายไปซะทีเอาไว้


สรุป


ซีรีส์เรื่องนี้โดยรวมทุกอย่างถือว่าดีเลย ไอเดียดีกว่าซีรีส์ล่าผีดิบทั่ว ๆ ไป อาจจะมีการใส่ประเด็นดราม่าประปรายมาบ้างและทำตอนจบออกมาฆ่าคนดูบ้าง แต่สำหรับผมแล้วถือคุ้มค่าที่จะดูซ้ำ ตัวซีรีส์มีเนื้อหาที่รุนแรง มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมและมีเนื้อหาเรื่องเพศบ้างไม่เหมาะสำหรับเด็กนะ หากท่านใดเป็นคอซีรีส์แวมไพร์หรือแนวเอาชีวิตรอดแล้วล่ะก็ต้องถูกใจแน่นอน

ดู 1,051 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page