รีวิว The Penthouse - เพนท์เฮาส์
ซีรีส์ทริลเลอร์ดราม่า รวมนักแสดงรุ่นใหญ่ฟาดฟันกันอย่างถึงพริกถึงขิงของช่อง SBS ทำเรตติ้งเปิดตัวทั่วประเทศไปที่ 6.7, 9.2 และ 9.1 ในอีพีแรก และทำเรตติ้ง 8.2, 9.8, 10.1 ในอีพีที่ 2 ซึ่งนับว่าไม่ธรรมดาทีเดียวสำหรับซีรีส์คืนวันจันทร์และอังคาร โดยล่าสุดด้วยความที่เนื้อเรื่องมีความรุนแรงเหมาะกับผู้ใหญ่ ตัวซีรีส์จึงถูกปรับให้อยู่ในเรต 19+ ตั้งแต่อีพีที่ 4 ที่จะออกอากาศในวันที่ 3 พฤศจิกายนเป็นต้นไป รีวิว The Penthouse
เรื่องย่อ
เพนต์เฮาส์คือสถานที่ที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากจะอาศัยอยู่ สถานที่ที่ตั้งอยู่ในย่านที่มั่งมีที่สุดของโซล และมีแต่ผู้อยู่อาศัยที่ร่ำรวยที่สุด แม่สามคนในละครเรื่องนี้เผยให้เห็นเจตนาแอบแฝงต่าง ๆ กันไปที่อยากจะยกระดับชีวิตของตัวเอง ซูรยอนทำทุกวิถีทางเพื่อแก้แค้นพวกผู้ใหญ่ที่ทำลายชีวิตวัยเด็กของเธอ ซอจินอาจประสบความสำเร็จด้านอาชีพการงานในฐานะนักร้องเพลงคลาสสิก
แต่ลูกสาวของเธอดูจะบกพร่องในหลาย ๆ อย่าง ยุนฮีไม่ต้องการให้ลูกสาวมีชีวิตที่ยากจนแบบตัวเอง เธอทำทุกวิถีทางเพื่อย้ายไปอยู่ที่เพนต์เฮาส์ให้ได้ ละครเรื่องนี้ว่าด้วยการเดินทางของแม่ทั้งสามคนที่ต่างแข่งขันกันถีบตัวเองขึ้นไปโดยมีความโลภและแรงปรารถนาเป็นแรงผลักดัน
ฟาดมากจ้ะเรื่องนี้ ตอนแรกเห็นหน้าหนังแล้วคิดว่าจะออกมาแนว ๆ Sky castle โอ้โนววว ไม่ใช่แฮะ ถึงจะเป็นเรื่องราวของบรรดาพ่อแม่ ในของวงสังคมไฮโซชั้นสูงที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกก็จริงอยู่ มีเรื่องราวฆาตกรรมซ่อนปมเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนกัน แต่มันฉีกแนวไปอีกทาง แล้วสิ่งที่ฟาดอีกทางนึงก็คือเรตติ้งเปิดตัวในโซลสูงถึง 10.5% และยังทะยานขึ้นเรื่อย ๆ ซะด้วยสิ
เนื้อเรื่อง
เฮราพาเลซ หรือ เดอะ เพนต์เฮ้าส์ เป็นอพาร์ตเมนต์หรู 100 ชั้น ที่ติดอันดับราคาแพงที่สุดในโซล คราคร่ำไปด้วยไฮโซในแวดวงสังคมชั้นสูงระดับ 1% ของเกาหลี ชอนซอจิน (คิมโซยอน) เป็นนักร้องโซปราโนชื่อเสียงโด่งดัง การันตีด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ บรรดาไฮโซแถวหน้าต่างเข้าคิวเพื่อให้ลูกหลานได้มาเรียนร้องเพลงกับเธอ แต่งงานกับ ฮายูนชอล (ยูนจองฮุน) หัวหน้าศัลยแพทย์มือดีที่รับรักษาเฉพาะคนไข้ VIP
เพื่อนบ้านในตึกหรูแห่งนี้รวมตัวกันตั้งชมรม เฮราคลับ เพื่อสังสรรค์ยิ้มหวานตามประสาไฮโซผู้มีอันจะกินและประสบความสำเร็จถึงขีดสุด เริ่มตั้งแต่ ประธานจูดันแท (อึมกีจุน) นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการเฮราพาเลซ สามีของ ชิมซูรยอน (อีจีอา) สตรีที่เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นสูง จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นควีนออฟเฮรา
ครอบครัวของ โกซังอา (ยูจูฮี) อดีตผู้ประกาศข่าวที่เคยโด่งดัง เจ้าของรางวัลลูกสะใภ้ดีเด่น กับ อีกยูจิน (บงแทกยู) สามีไฮโซลูกแหง่ติดแม่ ที่สืบต่อธุรกิจบริษัทกฎหมายจากพ่อโดยไม่ได้มีความสามารถสมฐานะ และ คังมารี (ชินอึนกยอง) แม่ที่ตามใจลูกสาวจนเสียนิสัย อยู่ที่เพนต์เฮาส์แห่งนี้กับลูกสาว
โดยที่ ประธานยู สามีของเธอทำธุรกิจก่อสร้างอยู่ที่ดูไบ ทั้งหมดมีชีวิตที่แตกต่างกับ โอยุนฮี (ยูจีน) คุณแม่เลี้ยงเดียวฐานะยากจน มีชีวิตแบบปากกัดตีนถีบ เลี้ยงดู แบโรนา (คิมฮยอนซู) ลูกสาวที่มีพรสวรรค์ด้านร้องเพลงมาเพียงลำพัง เธอต้องการถีบตัวเองให้ทัดเทียมกับบรรดาไฮโซทั้งหลายในเฮราพาเลซ ด้วยความคับแค้นจากอดีตที่ต้องทิ้งความฝันในการเป็นนักร้องเพลงคลาสสิกและมีข่าวอื้อฉาว ว่าเธอทำร้ายตัวเองด้วยการปาดคอ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเหมือน ๆ กันก็คือ การผลักดันให้ลูก ๆ ของพวกเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยดนตรีชั้นนำเพื่อเป็นนักร้องเพลงคลาสสิกที่มีชื่อเสียงให้ได้ ไม่ว่าการได้มาด้วยความสำเร็จของลูก ๆ จะต้องแลกมาด้วยวิธีการใดก็ตาม
พล็อตของเรื่อง
พล็อตคือชีวิตของคนรวยกับคนจนที่ฟ้าดินไม่ได้เป็นตัวกำหนด เป็นการนำความต่างของชีวิตแบบสุดขั้วมาเจอกัน เกี่ยวพันกันแบบพลิกชะตา น้ำเน่าสุด ๆ แบบตั้งใจเน่ากันเลยทีเดียว ว่าบทฟาดแล้วแต่ตัวแสดงฟาดใส่บทได้หนักเข้าไปอีก
จากบทที่เกินเบอร์เหนือความเป็นมนุษย์ มีอารมณ์สุดขั้วที่ระเบิดออกมาเมื่อพลาดหวัง มีผลสะท้อนของการเลี้ยงดูแบบผิด ๆ ให้เห็นชัดจนน่าใจหาย เป็นซีรีส์สีหม่นจนถึงดำสนิทชนิดที่เห็นความต่างกันอย่างชัดเจน
ถึงชีวิตที่บัดซบแล้วบัดซบอีกของตัวละครบางตัวและความเลวแบบสุดขั้วของตัวละครอีกตัวหนึ่งได้อย่างขั้วตรงข้าม แต่เรื่องราวดูหนังฟรีเหล่านั้นถูกคลุมเอาไว้ด้วยความเยือกเย็น ผ่อนคลาย ทรงด้วยเพลงคลาสสิกระดับโซปราโน
คนเขียนบทเรื่องนี้ แรงไม่ใช่เล่นเลย ผูกปมได้แน่นหนึบแต่ไม่มีความเรียลใดใด เป็นการสื่อสารแบบฉีกอก มีความเป็นละครอย่างชัดเจน เหมือนเราเดินเข้าไปในงานศิลปะงานหนึ่งที่โคตรวิจิตร แต่พอแหวกม่านเข้าไปแล้วชิ้นงานแต่ละชิ้นเสนอความปลอมออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นการสื่อสารแบบดาร์ก ๆ ที่ใช้ความงดงาม หรูหราอลังการเป็นสื่อ
บทเป็นการเล่นใหญ่ไฟกะพริบแต่นักแสดงสามารถทำให้ดูเป็นธรรมชาติน่าเชื่อได้ จนหนังใหม่ชนโรงคิดว่าถ้าชีวิตต้องคลุกคลีกับคนพวกนี้ ก็ต้องอยู่แบบระแวงหน้าระแวงหลัง ดูเพลิน ๆ ไปกับอินเนอร์ตัวละครจนลืมสังเกตได้ว่าหลาย ๆ ฉากใช้ CG เป็นส่วนใหญ่
จุดนี้เนียนเอามาก ๆ คอสตูม พร็อป หรูหรามีระดับ สมกับความเป็น The Penthouse ส่งให้รู้สึกถึงความจอมปลอม คือมันมีความฉีกสันดานกันแบบถึงแก่น ในบท ในอินเนอร์ตัวแสดง ในส่วนประกอบฉากอื่น ๆ อยู่มาก ๆ
ตัวละครหลัก
ชิมซูรยอน (รับบทโดย อีจีอา)
เป็นหญิงสาวที่มีฐานะดีมาตั้งแต่เกิด จนสร้างให้ปัจจุบันเธอเป็นสาวไฮโซที่มีความทระนง เพราะเธอเปรียบเหมือนเป็นราชินีแห่งเพนท์เฮาส์สูงเสียดฟ้าแห่งนี้ และสามีของเธอก็เป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จ
ซอนซอจิน (รับบทโดย คิมโซยอน)
เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยมีฐานะ จึงทำให้เธอมีความหยิ่งยโส สามีของเธอเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และเป็นผู้ชายที่มีความทะเยอทะยาน
โอยุนฮี (รับบทโดย ยูจีน)
ด้วยความที่พื้นเพครอบครัวของเธอนั้นยากจน เธอทำงานหนักเพื่ออนาคตของลูก และที่เธออยากเป็นไฮโซก็เพื่อลูกของเธอ ?
คังมารี (รับบทโดย ชินอึนกยอง)
อยู่ที่เพนต์เฮาส์แห่งนี้กับ เจนนี่ ลูกสาวคนเดียว โดยที่ ประธานยู สามีของเธอทำธุรกิจก่อสร้างที่กำลังไปได้ดีที่ดูไบ เธอจึงใช้เวลาเต็มที่ไปกับการตามใจลูกสาวจนเสียนิสัย
โกซังอา (รับบทโดย ยุนจูฮี)
ผู้ประกาศข่าวที่เคยโด่งดัง เจ้าของรางวัลลูกสะใภ้ดีเด่น แม้ว่าแม่สามีจะเป็นเชฟและนักธุรกิจด้านอาหารชื่อดัง แต่ก็ไม่เคยมองเธอในฐานะสะใภ้ดีเด่นอย่างที่สังคมเข้าใจ โกซังอาพยายามผลักดันลูกชายให้เป็นนักร้องโซปราโน ขณะที่สามีสืบต่อธุรกิจบริษัทกฎหมายจากพ่อ โดยที่สังคมมองว่าเขาคงสถานะนี้ได้เพราะพ่อแม่ที่สร้างทุกอย่างไว้ให้
สังคมของคนชั้นสูง..
บทมีความเป็นละครสูงมาก เรียกว่าห่างชั้นจากความเป็นจริงไปกว่าครึ่งแต่เล่นลูกคอนทราสต์ ไปที่การตั้งใจจิกกัดวงสังคมชั้นสูงอย่างหนักหน่วง สปอตไลต์ดวงใหญ่ฉายชัดไปที่ความมีอภิสิทธิ์เหนือชนชั้น ยอมทำทุกอย่างด้วยความรัก โลภ โกรธ หลง ไม่สนสี่สนแปดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของใครบ้าง ทำทุกอย่างเพื่ออำนาจ ชื่อเสียงเงินทอง
และความต้องการฝ่ายต่ำของตัวเองเท่านั้น จนหันหลังให้กับคำว่าศีลธรรมได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา เริ่มเรื่องมาด้วยความหรูหราแต่หมาไม่ทันจะเห่าก็มีเสียงกรี๊ดด้วยความตกใจของ ชิมซูรยอน (อีจีอา) เมื่อเห็น มินซอลอา (โชซูมิน) ตกตึกลงไปตายต่อหน้าต่อตา
เนื้อเรื่องจะเล่าย้อนไปสองอาทิตย์ก่อน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เปิดเผยให้เห็นความฟอนเฟะของวงสังคมชั้นสูงที่ต่างใส่หน้ากากเข้าหากันอย่างจงใจ มีชีวิตอยู่บนกองผลประโยชน์ที่ต่างตอบแทน จนไม่จำเป็นต้องเรียกร้องหาความจริงใจต่อกันแม้แต่สามีภรรยา เพราะมันไม่มี
ปูพื้นถึงความสัมพันธ์ของครอบครัว ที่หน้าตาชื่อเสียงและเงินเป็นตัวขับเคลื่อน จนกลายเป็นต้นไม้พิษที่ให้กำเนิดผลไม้พิษสู่สังคมอย่างร้ายกาจ ความรักที่ผิดทางทำให้ผ้าขาวบริสุทธิ์แปดเปื้อน บอบช้ำ เนื้อเรื่องดำเนินไปด้วยแวดวงของสังคมไฮโซแห่งวงการเพลงคลาสสิก
ความใฝ่ฝันของพ่อแม่ที่จะให้ลูก ๆ ประสบความสำเร็จจากการเป็นนักร้องเพลงคลาสสิกที่มีชื่อเสียง บ่งบอกค่านิยมของความฟุ้งเฟ้อ และคิดว่ารสนิยมเลิศหรูคือการเชิดหน้าชูตา จนลืมหัวใจของดนตรีไปเสียสิ้น จิกกัดไปถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมว่าความฝันสวยงาม มีที่นั่งสำหรับคนระดับเดียวเท่านั้น เก่งมาจากไหนก็จะต้องพ่ายแพ้ให้กับอำนาจบารมีของคนมีเงิน
ปมดราม่าและการฆาตกรรม
“คนในโลกนี้จะฟังเสียงของคนมีอำนาจเท่านั้น ใครจะฟังเสียงของผู้หญิงจน ๆ อย่างเธอ” เมื่อมินซอลอาทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดและรับไม่ได้ว่าจะเป็นเธอ การต่อต้าน การแสดงความรังเกียจชนิดที่มนุษย์ไม่ควรทำกับมนุษย์ด้วยกันก็เกิดขึ้น
จนเป็นเหตุให้เธอต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้าบนรูปปั้นในเฮราพาเลซ คือเปิดมาสาวน้อยผู้น่าสงสารก็ตายเลย แต่…ใครฆ่ามินซอลอาล่ะ และมินซอลอาเป็นใครทำไมมาตายที่เฮราพาเลซสุดหรูแห่งนี้ ep1-4 จะค่อย ๆ บอกมาทีละเปลาะ มีการเปิดเผยเรื่องบางเรื่องอย่างไม่คาดฝัน
เรียกได้ว่าบทเดาไม่ได้จนกว่าจะถึงจุดที่ใกล้เฉลย ปมดราม่าซับซ้อนกับชีวิตของตัวละครยังไม่พอ ซีรีส์เพิ่มปมฆาตรกรรมที่ต้องคิดว่า ใครวะที่เป็นมือผลักหรือคนสั่งการให้ทำกับเด็กสาวที่ไร้ทางสู้ หรืออาจจะเป็นความบังเอิญ พลาดพลั้งแบบไม่ได้ตั้งใจ เป็นได้แม้กระทั่งเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ หลงผิด สติเลอะเลือนของใครสักคนที่คาดไม่ถึง ทุกคนยกเว้น ชิมซูรยอน สามารถเป็นฆาตกรได้หมด
การแสดงของดารารุ่นใหญ่
ในเรื่องนี้เราจะเห็นการแสดงของดารารุ่นใหญ่ กับฝีมือของดารารุ่นเล็กที่ถึงพริกถึงขิง เขาไม่ได้ฟาดฟันข้ามรุ่นกันนะ แต่อินเนอร์ตัวละครส่งออกมาจนสัมผัสได้ว่า โอ้โห…ชีวิตนี้ช่างไม่คลาสสิกเหมือนกับเพลงที่ร้องเอาซะเลย
มันช่างบีบคั้น เก็บกด การจะได้มาซึ่งความสำเร็จอย่างที่ฝันของคนระดับล่างจะต้องต่อสู้แย่งชิง จนบางครั้งอาจทำให้ศีลธรรมหดหาย และการได้มาของชนชั้นที่เหนือกว่ามีใบผ่านทางเป็นฐานะที่ร่ำรวยสบาย ๆ แต่ก็หาความสุขในชีวิตที่ควรจะเป็นชีวิตจริง ๆ ไม่ได้เลย
โดยรวม
ถ้าเปรียบเป็นงานศิลปะ ซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นงานอาร์ตสายดาร์กที่ใช้เพลงเป็นสื่อและเคล้าอารมณ์ได้คอนทราสต์มาก ๆ ดีงามค่ะ คล้าย ๆ กับคนเขียนบทพยายามที่จะบอกกับเราว่า ภายนอกที่สวยงาม หรูหราและรุ่มรวยความสุนทรีย มันอัดแน่นไปด้วยความฟอนเฟะของเนื้อในที่น่าขยะแขยง
มาดูเถอะ มาเห็นสันดานของคนพวกนี้ที่อยุติธรรมอย่างร้ายกาจ เพื่อตัวเองและคนที่ตัวเองรัก พวกเขาทำได้ทุกอย่าง จนเห็นชีวิตอื่นไม่เป็นชีวิตและหาความคลาสสิกไม่ได้เลย 4ตอน ที่ดูมาได้มาเท่านี้เลย และได้ข่าวว่าจะพีกขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตั้งแต่ Ep4 เป็นต้นไปจะถูกปรับให้อยู่ในเรต 19+ กันเลยจ้ะ
Comments