รีวิว Mare of Easttown - แมร์แห่งเมืองอีสต์ทาวน์
ซีรีส์เรื่องนี้ได้คะแนนสูงมากในต่างประเทศ จาก IMDB คือเฉลี่ย 8.6 ซึ่งหลักๆ คือการกลับมาแสดงเต็มตัวของเคต วินสเลต ที่แฟนๆ รอคอยการกลับมาของเธอแบบเต็มๆ เพราะก่อนหน้านี้ที่เธอมักแค่ให้เสียงพากย์กับงานต่างๆ ไม่ได้แสดงเองเป็นหลัก มีแค่เรื่อง Ammonite ของปีก่อนแต่ก็ไม่ได้ดังมาก เพราะเป็นหนังอินดี้เล็กๆ ที่โดนผลกระทบจากโควิดทำให้ไม่ได้ฉายวงกว้างไปด้วย นอกจากนี้โลเกชั่นของเรื่องคือเมืองเล็กๆ ใน รัฐเพนซิลเวเนีย บ้านเกิดของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนล่าสุด ก็เหมือนแรงบวกให้คนติดตามชื่นชมเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก รีวิว Mare of Easttown
เรื่องย่อ
อีสต์ทาวน์เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ทุกหัวมุมถนนแทบรู้จักกันหมด แมร์ (Mare) ตำรวจหญิงผู้ผ่านบาดแผลแห่งชีวิตมาอย่างโชกโชนเองก็เป็นเหมือนศูนย์กลางของชุมชนแห่งนี้ และวันหนึ่งเมื่อเด็กสาวคุณแม่ลูกอ่อนที่อนาคตอีกยาวไกลเกิดตายลงอย่างเป็นปริศนา
ทั้งคดีเด็กสาวที่หายสาปสูญไปก่อนหน้านี้ก็ยังเป็นชนักคาใจชาวชุมชนอีก แมร์จึงต้องคลี่คลายคดีให้ทันก่อนจะมีเหยื่อรายต่อไป พร้อม ๆ กับการรักษาความสัมพันธ์ของคนในชุมชนและแก้ปัญหาชีวิตส่วนตัวมากมายที่เปลี่ยนเธอเองไปไม่ต่างจากคนไร้หัวใจ
ซีรีส์เรื่องนี้ได้คะแนนสูงมากในต่างประเทศ จาก IMDB คือเฉลี่ย 8.6 ซึ่งหลักๆ คือการกลับมาแสดงเต็มตัวของเคต วินสเลต ที่แฟนๆ รอคอยการกลับมาของเธอแบบเต็มๆ เพราะก่อนหน้านี้ที่เธอมักแค่ให้เสียงพากย์กับงานต่างๆ ไม่ได้แสดงเองเป็นหลัก มีแค่เรื่อง Ammonite ของปีก่อนแต่ก็ไม่ได้ดังมาก
เพราะเป็นหนังอินดี้เล็กๆ ที่โดนผลกระทบจากโควิดทำให้ไม่ได้ฉายวงกว้างไปด้วย นอกจากนี้โลเกชั่นของเรื่องคือเมืองเล็กๆ ใน รัฐเพนซิลเวเนีย บ้านเกิดของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนล่าสุด ก็เหมือนแรงบวกให้คนติดตามชื่นชมเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก
ที่ต้องเกริ่นมาแบบนี้เพราะหลักๆ แล้วผู้เขียนอยากให้เข้าใจว่า คะแนนกับหลายๆ อย่างของเรื่องนี้ค่อนข้างเฟ้อเกินไปมาก เมื่อเทียบกับแนวสืบสวนด้วยกัน เอาแค่ใน HBO เทียบแนวเดียวกันก็ยังรู้สึกแมร์ถูกให้คะแนนบวกเพิ่มเกินจริงไปเยอะ
ที่บอกแบบนี้ไม่ใช่แมร์ไม่ดี เพราะผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าซีรีส์เรื่องนี้มีหลายส่วนที่ทำออกมาดีมาก แต่ก็ต้องบอกกันตรงๆ ให้เข้าใจกันก่อนว่า สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูและคาดหวังว่า แนวสืบสวนต้องระทึก ตื่นเต้น ลึกลับซับซ้อน อารมณ์พวกนี้ไม่ได้เป็นองค์ประกอบหลักของเรื่องนี้เลย
ซึ่งซีรีส์ใน HBO หลักๆ คือแนวสืบสวนที่มีสูตรสำเร็จใช้บริการดาราดังยุคเก่ามาเล่นแทบทุกเรื่อง แล้วก็ต้องมีความโหดของคดีฆาตกรรมกับจุดหักมุมเป็นไฮไลท์สำคัญ แต่กับแมร์ไม่ใช่อารมณ์แบบนั้นเลย มีแค่การได้นักแสดงดังรุ่นเก่าเคทมาเล่น ซึ่งก็เป็นส่วนดีสุดของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
เนื้อเรื่อง
ว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ซีรีส์ Mare of Easttown ผลงานสร้างของแบรด อิงเกลสบี กำกับโดย เครก โซเบิล ก็จัดอยู่ในแนวสืบสวนสอบสวน ลึกลับตื่นเต้น เทือกๆ เดียวกับ Mindhunter, American Crime Story, Big Little Lies ฉากหลังได้แก่ชุมชนเล็กๆ
ที่ดูขมุกขมัวและซอมซ่อของเมืองฟิลาเดลเฟีย ที่ผู้คนในชุมชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางระดับล่างโยงใยกันแน่นหนา ไม่ว่าจะในฐานะญาติสนิทมิตรสหายหรือคนที่ไม่ชอบขี้หน้า
จุดปะทุของเรื่องมาจากเหตุการณ์ที่เด็กสาวแม่ลูกอ่อนชื่อเอรินถูกฆ่าตายอย่างอุจาดบนโขดหินกลางลำห้วยท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น และเมื่อคำนึงว่าตำรวจสืบสวนของเมืองอีสต์ทาวน์ยังคงไม่มีคำตอบให้กับการหายตัวไปอย่างลึกลับของเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน
เมื่อราวหนึ่งปีก่อนหน้านั้น ความเดือดดาลและโกรธแค้นก็ยิ่งพุ่งพรวดและลุกลาม ประเด็นก็คือ ระหว่างแมร์ ในฐานะผู้รับผิดชอบทั้งสองคดี กับแม่ของเด็กสาวคนหลัง ก็เป็นเพื่อนร่วมทีมบาสเกตบอลชุดครองแชมป์สมัยมัธยม
และภาวะเพื่อนเก่าที่มองหน้ากันไม่ติด ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ ตัวอย่างที่อธิบายความเป็นไปของชุมชนแห่งนี้ ที่ความวุ่นวายแทบทุกเรื่องล้วนแล้วมีความสัมพันธ์ส่วนตัวเข้าไปเพิ่มเติมดีกรีความยุ่งยาก
ขณะที่เส้นเรื่องหลักของซีรีส์ดูหนังออนไลน์ขับเคลื่อนด้วยการที่แมร์ และ คอลิน เซเบิล (เอฟเวน ปีเตอร์ส) นักสืบจากเมืองใหญ่และมีสถานะเป็นคนนอกสมบูรณ์แบบ ช่วยกันคลี่คลายเงื่อนงำและปมปริศนาของเหตุฆาตกรรม ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมเนียมของเรื่องแนวนี้ นั่นคือไม่มีอะไรเป็นอย่างที่ปรากฏเบื้องหน้าของผู้ชม
อีกทั้งบรรดาผู้คนมากหน้าหลายตาที่เกี่ยวข้องกับคดีอุกฉกรรจ์นี้ไม่โดยตรงก็โดยอ้อมก็แทบจะไม่ได้พูดความจริงอย่างสิ้นซาก และมันโยงใยกลับไปสู่ประเด็นความเป็นชุมชนปิดที่ทุกคนล้วนเก็บงำหรืออมพะนำความลับบางอย่างของกันและกัน ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา
เรื่องราวดราม่าชีวิต
สิ่งที่แมร์เน้นหนักมากคือ เรื่องราวดราม่าชีวิตต่างๆ ของเธอที่ต้องไปพัวพันกับคนในชุมชนที่อาจจะเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีที่เธอกำลังสืบ ซึ่งแค่ไปแตะเค้นสืบใครก็กลายเป็นการทำร้ายคนรู้จักในชุมชนไปซะทั้งหมด
นอกจากนี้ช่วงเวลาที่เกิดคดี เธอก็ยังมีปัญหาทางบ้าน ทั้งความไม่เข้าใจกันกับลูกสาว แม่ก็มีปัญหาไม่ลงรอยกันมาตลอด หลานก็กำพร้าเพราะลูกชายคนโตฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอในห้องใต้หลังโดยไม่รู้สาเหตุ ลูกสะใภ้ก็ติดยาทำให้เลี้ยงลูกไม่ได้
แต่ก็ยังพยายามขอสิทธิไปเลี้ยงดูแลเอง ซึ่งแมร์เองก็ไม่ยอมปล่อยหลานคนนี้ไป จนถึงขั้นต้องทำเรื่องผิดกฎหมายเพื่อจัดการลูกสะใภ้ตัวเอง แค่นี้ยังไม่พอ จากการตายของลูกชายทำให้เธอมีปมซึมเศร้าตลอดเวลา จนคบหาใครไม่ได้
แม้จะมีคนใหม่ๆ พยายามเข้ามาในชีวิตของเธอก็ตาม แถมสามีที่พึ่งเลิกกันไปก็เตรียมแต่งงานใหม่กับสาวในเมืองที่อยู่หลังบ้านเธอนี่เอง ต้องเจอหน้าทั้งคู่กันทุกวัน กลายเป็นปมซ้ำให้เธอไม่มีความสุขในชีวิตมากเข้าไปอีก
ต้องบอกเลยว่าตัวเรื่องดราม่าเหล่านี้กินเวลาของเรื่องเว็บดูหนังมากกว่าส่วนของสืบสวนมากมาย ขนาด 70/30 กลายเป็นซีรีส์ดราม่าหลัก สืบสวนคือน้อยนิด และยิ่งฉากไล่ล่าอะไรแบบนี้แทบไม่มีเลย (มีแค่สั้นๆ ช่วงกลางเรื่องนิดนึงเท่านั้น) ตัวซีรีส์เอาเวลาแทบทั้งหมดจมลึกลงไปกับปัญหาดราม่าต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ก็แทบไม่เกี่ยวข้องกับคดีเลย
มีเพียงความเชื่อมโยงน้อยนิดบางอย่างภายหลังเท่านั้น ซึ่งจุดนี้ถ้าใครคาดหวังการแกะปมตามรอยสืบสวนเข้มๆ ต้องบอกเลยว่าหาแทบไม่ได้ในเรืองนี้ แม้แต่ไคลแม็กซ์ของเรื่องแนวนี้ที่ควรจะมีฉากลุ้นระทึกกับฆาตกร แต่แมร์ก็ไม่ได้เป็นไปตามสูตรสำเร็จแบบนั้นเลย
จุดประสงค์หลักของซีรีส์
แต่ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจเพิ่มว่า จุดประสงค์หลักที่ซีรีส์เรื่องนี้ใส่ดราม่าเข้ามามากมายเพื่อให้เดินเรื่องไปในธีมสมจริงของแนวสืบสวนในเมืองเล็ก ที่แมร์เป็นประหนึ่งฮีโร่ชุมชนที่คนคาดหวังเสมอ แต่ตัวแมร์เองคือปถุชนคนธรรมที่ไม่ได้คิดว่าตัวเองพิเศษอะไรแบบนั้น
ยิ่งดูจากดราม่าชีวิตของเธอก็รู้เลยว่า มีทั้งดำทั้งขาวหรือเทาๆ ปนกันไปหมด แม้ตัวแมร์เองจะเป็นผู้รักษากฎหมาย แต่ก็ไม่ได้ซื่อตรงไปซะทั้งหมด ซึ่งบทของซีรีส์แนวสืบสวนส่วนใหญ่ก็มักจะเขียนบทมาให้มีเรื่องราวเว่อร์ๆ รุนแรง น่าติดตามเกินจริง
มีฉากหักมุมเว่อร์ๆ ในการสืบสวน ทำนองคนร้ายซ่อนตัวเองอย่างแยบยล แต่กับเรื่องนี้คือมาในแนวเดียวกับซีรีส์ ทรูดีเทคทีฟของ HBO เองที่ขึ้นหิ้งแนวสืบสวนไปแล้วใน SS1 (แต่ทรูเองก็ยังมีฆาตกรกรต่อเนื่องที่เว่อร์วังกว่าความเป็นจริง) ซึ่งการสืบสวนของแมร์คือเป็นไปตามที่ควรจะเป็นจริงทุกอย่าง
เริ่มจากการปะติดปะต่ออะไรเล็กๆ น้อยๆ จากการไล่ถามผู้คน ตรวจสอบข้อสงสัยต่างๆ ไปจนเจอคนร้ายโดยบังเอิญอย่างไม่ตั้งใจ และก็มีจุดที่หักมุมสำคัญอยู่กลางเรื่อง เชื่อมโยงกับดราม่าความรักของเธอที่พึ่งก่อตัวขึ้นมา ซึ่งถ้าใครดูมาถึงจุดนี้ได้ที่ EP5 หลังจากนี้คือช่วงที่ซีรีส์เริ่มเดินเครื่องในแนวสืบสวนที่ดีขึ้นมาก
แต่ก็ยังไม่ได้หวือหวาอะไร แต่เชื่อว่าผู้ชมที่มาถึงจุดนี้จะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ความธรรมดาเรียบๆ ของเรื่องนี้คือการเดินเรื่องแบบแนวสืบสวนเรียลๆ สมจริง เพราะตัวเรื่องไม่ได้พยายามเว่อร์อะไรมากไป แต่เล่นเรื่องสืบสวนแบบพอดีๆ ลงตัวเหมาะสมกับธีมของเรื่องที่เป็นคดีฆาตกรรมในเมืองเล็กที่คนรู้จักกันดีหมด
ตัวคดีในเรื่อง
ตัวคดีนี้ในเรื่องนี้แบ่งเป็นสองทาง นั่นคือคดีฆาตกรรมเด็กสาวในตอนจบ EP1 โดยที่ระหว่างนั้นเราจะได้รับรู้ว่าแมร์ไขคดีเด็กสาวหายตัวไปเมื่อปีก่อนไม่ได้ และก็เป็นความกดดันซ้ำสองเพราะคนในเมืองเริ่มไม่เชื่อในการทำงานของตำรวจ
ตัวเรื่องจะค่อยๆ สืบคดีฆาตกรรมไปเรื่อยๆ จนมาบรรจบกับคดีเด็กสาวหายตัวไปในเส้นทางหนึ่ง แล้วก็ไปต่อกันกับคดีที่เหลือ พร้อมทั้งการตามปิดข้อสงสัยทั้งหมดตามแบบนักสืบที่ละเอียดรอบคอบของแมร์ โดยมีข้อสังเกตุจากหมอจิตวิทยาที่เธอปรึกษาอยู่ว่า
การที่เธอหมกหมุ่นสืบคดีแบบนี้เพื่อให้ลืมความเจ็บปวดจากที่เธอเสียลูกชายไป และใน EP สุดท้ายมีการหักมุมใหญ่สุดของเรื่อง แต่ก็ยังเป็นไปแบบเรียบๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ให้อารมณ์สอดรับกับดราม่าปัญหาการสืบคดีในชุมชนที่คนรู้จักกันหมดเป็นอย่างดี
ด้านนักแสดง
ตัวเคท วินสเลตเองในวัย 46 ปีแม้จะมีริ้วรอยบนใบหน้าเพิ่มขึ้นมาก แต่เธอก็ยังเป็นนักแสดงที่สวยดูดี มีเสน่ห์ล้นเหลือแบบดารารุ่นใหญ่ และจุดนี้เองคือความเหมาะเจาะในการรับบทแมร์ ที่ต้องเป็นนักสืบสาวเนื้อหอม
มีคนมาจีบมาชอบพอสองคนคือ ริชาร์ด ไรอันนักเขียนหนังสือดังในช่วงสูงวัยและย้ายมาอยู่อาศัยที่เมืองนี้ (เล่นโดย Guy Pearce )กับอีกคนคือนักสืบหนุ่ม เซเบล ที่ถูกส่งมาจากเมืองใหญ่เพื่อช่วยเธอไขคดี และก็กลายมาเป็นคู่หูที่แอบมีใจให้แมร์ (เซเบลเล่นโดย Evan Peters นักแสดงที่เล่นบทคลิกซิลเวอร์ใน X-Men)
ซึ่งบทเซเบลเองเรียบๆ แต่มีเสน่ห์มากจากการพยายามทำความเข้าใจแมร์ที่ต่อต้านการเข้ามาของเขาในตอนแรก เพื่อช่วยเธอสืบคดีแบบไม่ต้องการผลงาน แต่ก็แอบชอบแมร์และพยายามจีบนุ่มๆ อยู่ตลอดเวลา แต่แมร์เองกลับอยู่ในช่วงที่ไม่สามารถรักใครได้
แม้จะพยายามเปิดใจให้แล้วก็ตาม ซึ่งเคทแสดงได้อย่างไร้ที่ติ เรียกว่าเธอเป็นทุกอย่างของแมร์โดยสมบูรณ์แบบทำให้คนดูเชื่อสนิทใจ ในบทที่โดนดราม่ารุมเร้าชีวิต แต่ก็ยังต้องพยายามไขคดีในชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ให้ได้
ในเรื่องจะไม่ได้เห็นเธอยิ้มเลยจนกระทั่งเรื่องราวทั้งหมดคลี่คลายลง ซึ่งคนดูเองถ้าอินกับชีวิตของแมร์ก็จะชอบเรื่องนี้มากๆ เหมือนเป็นคนเอาใจช่วยให้เธอพบกับความสุขสมหวัง
ซึ่งเรื่องราวดราม่าทั้งหมดที่ปูมาจะถูกคลี่คลายลงทั้งหมดอย่างสวยงาม แม้จะไม่ใช่แฮปปี้ทั้งหมด แต่คนดูเองก็ต้องรู้สึกว่าตัวเรื่องจบได้แบบอิ่มเอมลงตัวมากจริงๆ ซึ่งนี่เป็นจุดแข็งของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
โดยรวม
หากไม่นับเรื่องความไม่ฉับไวในการเล่าเรื่องที่เป็นความจงใจแล้วนั้น อาจต้องบอกว่าบีตของการเล่านั้นอาจดูวูบวาบไปตามบทดราม่ามากไปเสียกว่าบทของการสืบสวน แต่เมื่อเข้าส่วนของการสืบสวนก็เข้มข้นอยู่ไม่น้อย
อย่างในตอนที่ 5 ของซีรีส์ก็สนุกและน่าตื่นเต้นในการพลิกผันของตัวละครอย่างมากขนาดที่ว่าทำคะแนนรีวิวของ IMDb ได้สูงที่สุดของทุกตอนที่ 9.4/10 ดังนั้นจะว่าไม่ตื่นเต้นเร้าอารมณ์ก็ไม่ได้เสียทีเดียวนัก แต่ที่คงต้องมีข้อเสียให้บ้างก็ตรงที่ว่าตอนสุดท้ายของซีรีส์นั้น บีตของการเล่ามันเปลี่ยนค่อนข้างไว
เหตุการณ์พลิกผันกันหลักนาทีได้เลย เมื่อมองความละเมียดทางอารมณ์ที่ผ่านมาก็จะรู้สึกเครื่องมันเร่งไปนิด แต่ก็ติงไม่ได้มากเพราะอย่างที่กล่าวมาแล้วว่าแม้จะเร่งจบเร่งเฉลย แต่บทมันแน่นจนไม่มีรูโหว่ให้รู้สึกไม่ดีเลยจริง ๆ
สรุป
ซีรีส์แนวสืบสวนที่เน้นหนักดราม่าเต็มๆ มากกว่าสืบสวน โดยใช้เคท วินสเลต นางเอกดังมาดึงดูดผู้ชม และเธอก็แสดงในบทแมร์เจ้าของชื่อเรื่องได้ดีมากจนเหมือนเป็นตัวละครนี้จริงๆ ไปเลย ซึ่งบทก็เขียนมาให้เธอโดนดราม่าชีวิตรุมเร้าทุกทาง
ในขณะที่ต้องสืบคดีถึงสองคดีไปพร้อมกัน แม้ส่วนของสืบสวนจะน้อย แต่ตัวเรื่องก็ถูกวางไว้เป็นแนวสืบสวนแบบสมจริง เป็นการไขคดีในแบบที่ไม่หวือหวา แต่ดีในตัวของมันเอง และยังจบแบบเคลียร์หมดทุกปมดราม่าและปมสืบสวนทั้งหมดได้อย่างลงตัวมากๆ
Comments