รีวิว Mad for Each Other - พบรักไว้พักใจ
ซีรีส์เกาหลีที่ไม่ได้เป็นละครฉายทีเกาหลีตามปกติ แต่เป็นซีรีส์ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของเกาหลีอย่าง KakaoTV และเน็ตฟลิกก็ซื้อเรื่องนี้มาในระบบฉายพร้อมกัน อาทิตย์ละ 3 ตอน ทุกวันจันทร์-พุทธ หลังหนึ่งทุ่มไป ตอนละประมาณ 30 นาที มีทั้งหมด 13 ตอน ซึ่งด้วยความที่เป็นซีรีส์นอกระบบทีวีปกติก็เลยรูปแบบตอนแตกต่างจากปกติ รวมถึงเนื้อหาของเรื่องที่ดูบ้าๆ เพราะเกี่ยวกับคนบ้าผู้ป่วยจิตเวชมาเจอกัน ซึ่งแม้จะดูเป็นซีรีส์ฉายออนไลน์ไม่ได้ลงทุนมาก แต่ขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องก็เหมือนจับจุดได้ว่าจะเล่นสเกลเล็กๆ ยังไงให้โดดเด่นน่าติดตาม รีวิว Mad for Each Other
เรื่องย่อ
อดีตสายสืบโนฮวีโอเป็นโรคภาวะระเบิดอารมณ์ชั่วคราวคือเค้าไม่สามารถจัดการกับอารมณ์โกรธหรือโมโหของตัวเองได้ ทำให้เค้าต้องออกจากงานที่ทำ ส่วนนางเอกของเราเป็นเพื่อนบ้านของเค้า เธอชื่ออีมินกยอง เธอเป็นโรคหลงผิดมีความเครียดหลังพบอุบัติเหตุเกิดอาการย้ำคิดย้ำทำ ถ้าได้รู้ถึงเหตุการณ์ที่มาของโรคที่เป็นอยู่แล้วจะสงสารเธอมากๆ
มินกยองเธอเข้าใจผิดคิดว่าฮวีโอจะมาทำร้ายเธอ เธอเลยแจ้งความที่สถานีตำรวจ ส่วนฮวีโอสำหรับเค้าแล้วมินกยองคือตัวกระตุ้นอารมณ์โกรธชั้นดีที่ทำให้อารมณ์ของเค้าถูกกระตุ้นตลอดเวลา สองคนนี้เป็นเพื่อนบ้านกันแถมยังมีจิตแพทย์คนเดียวกันอีก ความบันเทิงก็เลยเกิดขึ้น
ซีรีส์เกาหลีที่ไม่ได้เป็นละครฉายทีเกาหลีตามปกติ แต่เป็นซีรีส์ในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของเกาหลีอย่าง KakaoTV และเน็ตฟลิกก็ซื้อเรื่องนี้มาในระบบฉายพร้อมกัน อาทิตย์ละ 3 ตอน ทุกวันจันทร์-พุทธ หลังหนึ่งทุ่มไป ตอนละประมาณ 30 นาที มีทั้งหมด 13 ตอน
ซึ่งด้วยความที่เป็นซีรีส์นอกระบบทีวีปกติก็เลยรูปแบบตอนแตกต่างจากปกติ รวมถึงเนื้อหาของเรื่องที่ดูบ้าๆ เพราะเกี่ยวกับคนบ้าผู้ป่วยจิตเวชมาเจอกัน ซึ่งแม้จะดูเป็นซีรีส์ฉายออนไลน์ไม่ได้ลงทุนมาก แต่ขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องก็เหมือนจับจุดได้ว่าจะเล่นสเกลเล็กๆ ยังไงให้โดดเด่นน่าติดตาม
เนื้อเรื่อง
ตัวเอกสองคน อีมินกยอง (รับบทโดย Oh Yeon-Seo) กับ โนฮวีโอ (รับบทโดย Jung Woo) ทั้งคู่มาเจอกันโดยบังเอิญหลายครั้งในสถานการณ์เพี้ยนๆ ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่ที่มันเพี้ยนแล้วเป็นได้แบบนั้นเพราะทั้งคู่กำลังมีอาการทางจิตคนละแบบ ในรายของโนฮวีโอ
พระเอกของเรื่องคืออาการควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้ เรียกว่าปรี๊ดง่ายของขึ้นสติแตกบ่อยครั้ง แต่ดันมาเจอกับเพื่อนบ้านสาว อีมินกยอง นางเอกของเรื่องที่เป็นโรคตื่นตกใจง่าย ขี้ระแวง ขี้มโน ชอบคิดว่าคนที่มาเจอกับเธอเป็นนั่นเป็นนี่ในแง่ร้ายเสมอ แล้วทั้งคู่ก็ต้องไปหาหมอคนเดียวกัน ทางเดียวกัน กลับบ้านก็เจอกัน ทำอะไรก็มีเหตุบังเอิญให้เจอกันหมด
คนหนึ่งชอบยั่วโมโหคนอื่นแบบไม่ตั้งใจ มาเจอกับคนปรี๊ดแตกกับอะไรง่ายๆ มันก็เลยกลายเป็นซีรีส์หนังใหม่เต็มเรื่องที่เต็มไปด้วยการทะเลาะเบาะแว้งแผดเสียงแสบแก้วหูใส่กันทั้งเรื่อง ซึ่งรับประกันความฮาได้เลยกับพล็อตที่ครีเอทให้คนบ้ามาเจอคนบ้าแบบนี้
นักแสดง
จองอู รับบทเป็น โนฮวีโอ
นักสืบสายอาชญากรรม ที่ต้องเข้ารับการบำบัดโรคระงับความโกรธไม่ได้ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในขณะที่เข้าจับกุมพ่อค้ายา ทำให้เพื่อนร่วมทีมได้รับบาดเจ็บสาหัส และหลังจากภารกิจนั่น โนฮวีโอก็ถูกพักงานตำรวจ
โอยอนซอ รับบทเป็น อีมินคยอง
สาวสวยที่ถูกสังคมเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นมือที่สาม ทำให้เธอต้องเข้ารับการบำบัดโรคไม่เชื่อใจใคร เธอเป็นคนที่ย้ำคิดย้ำทำ และระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา ภายนอกเธออาจจะดูเหมือนคนบ้า แต่จริงๆแล้วเธอกำลังพยายามรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้นในจิตใจจากการกระทำของแฟนเก่าเธอ
อีซูฮยอน รับบทเป็น ซูฮยอน
เด็กพาร์ทไทม์ที่ทำงานแทบจะทุกงานในเขตฮงจิน ไม่ว่าจะเป็นแคชเชียร์ร้านสะดวกซื้อ ร้านเครื่องสำอาง ร้านเครื่องดื่มและงานในบาร์ รวมทั้งเธอยังร้องเพลงเพราะมากๆอีกด้วย
อันอูยอน รับบทเป็น ซังยอบ
โปรแกรมเมอร์อัจฉริยะและยังเป็นเพื่อนบ้านของโนฮวีโอและอีมินคยอง และเขาก็ยังเป็นบุคคลที่ลึกลับและมีความลับที่ยังซ่อนอยู่
การดำเนินเรื่อง
แต่ช้าก่อนนี่ไม่ใช่ซีรีส์ตลกเพียงอย่างเดียว ตัวเรื่องค่อยๆ ลำดับความเป็นมาของอาการทางจิตทั้งคู่ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ซึ่งในรายของโนฮวีโอแม้บุคลิกจะดูเพี้ยนๆ ตกงาน แต่ที่จริงเขาเป็นตำรวจมือปราบมาก่อน แต่โดนพักงานและอาจจะไม่ได้กลับไปในกรม จากคดีบางอย่างซึ่งเป็นเมนเรื่องหลักของตัวละครนี้ที่ทำให้เขากลายมาเป็นแบบนี้
และคดีนี้เองก็ไม่ได้จบปิดเคส แต่ยังตามมากวนใจเขาตลอด ซึ่งเรื่องราวที่เขาต้องพบจิตแพทย์กับว่างงานนี้ก็กลายมาเป็นเขาต้องแอบทำคดีลับๆ ต้นตอของเรื่องนี้ไปด้วย และไอ้การทำคดีลับๆ นี้เองก็เป็นฉากฮาๆ ของเรื่องอีกทาง ที่รับรองว่าฮาไม่แพ้ช่วงที่เขาต้องทะเลาะกับนางเอกเลย (อันนี้เรื่องตั้งใจครีเอทฉากให้ฮาสุดๆ ทุกครั้ง)
ในส่วนของนางเอก อีมินกยอง เบื้องหลังการป่วยนี้เป็นดราม่าที่หนักหนาสาหัสกว่าพระเอกหลายเท่า พาร์ทย้อนอดีตของเธอนี่คือส่วนดราม่าสะเทือนใจ ตัวเรื่องหนังออนไลน์สร้างที่มาของเหตุการณ์อาการทางจิตของนางเอกได้อย่างโหดร้ายกับเธอมาก
เรียกว่าเจอ 1 2 3 ความโหดร้ายติดต่อกันจนทำให้จากพนักงานออฟฟิสปกติกลายมาเป็นผู้ป่วยจิตเวชจริงๆ ต่างกับของพระเอกยังเป็นแค่การควบคุมอารมณ์ และเรื่องสะเทือนใจนี้ก็ยังไม่จบ ตามติดเธอมาถึงช่วงเวลานี้
แนวตลก ดราม่า หรือโรแมนติก?
ถึงเรื่องจะเป็นแนวตลกผสมดราม่า แต่ว่าหัวใจของเรื่องจริงๆ คือแนวโรแมนติก เป็นเรื่องราวของ การพบรักไว้พักใจ ตามชื่อเรื่องภาษาไทยเลย (ตั้งชื่อได้ลงตัวมาก) ซึ่งช่วงแรกๆ ตัวเรื่องซัดแนวตลกเข้ามามากมายเพื่อปูไปสู่การที่ผู้ป่วยทางจิตสองคนต่างเยียวยาอาการของกันและกัน ก่อนพบรักกันในที่สุด
ฟังดูพล็อตคุ้นๆ เลย เพราะจริงๆ เรื่องนี้คือแนวเดียวกับซีรีส์ดัง It’s Okay To Not Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน) นั่นเลยครับ แต่เป็นเวอร์ชั่นตลกนำแค่นั้น และก็มีความเบาๆ ของเรื่องราว ไม่ดาร์ค ไม่ติดเว่อร์ อะไรแบบเรื่องนั้น
ซึ่งจากที่ดูถึงตอนนี้ 6 ตอน ตัวเรื่องเริ่มขมวดเข้าถึงช่วงนี้แล้ว และก็มีจุดพลิกผันตามมาขัดขวางความสุขของทั้งคู่ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมา ซึ่งตัวเรื่องในส่วนโรแมนติกนี้ทำออกมาได้ธรรมดาแต่น่ารัก มีความบ้านๆ ยกตัวอย่างฉากที่นางเอกเริ่มรู้สึกดีๆ กับพระเอก
แต่ดันไปกวนตรีนเขามาตลอด ก็เลยสั่งอาหารออนไลน์ให้ไปส่งห้องข้างๆ ที่เป็นของพระเอก อ้างว่าสั่งมาเยอะให้ถึงขั้นต่ำแล้วแบ่งให้ ต่อด้วยมุกซอสแบ่งกันไม่ได้ ก็เลยต้องไปกินด้วยกันในบ้าน ซึ่งความจริงเป็นแผนจีบพระเอกนี่แหละ
และนางเอกก็ชอบคิดมุกจีบเนียนๆ ตลอด ตัวเรื่องจากขำๆ มาตลอด พอมาถึงช่วงรักๆ ก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันเลย เพราะมันเป็นการจีบกันแบบบ้านๆ โดยที่ทั้งคู่ก็ยังไม่ได้หวยป่วยจิตด้วย ก็เลยมีอะไรฮาๆ ตามมาในฉากโรแมนติกไปพร้อมกัน ซึ่งทำออกมาดีมากจริงๆ
ความเก๋อีกอย่างของเรื่องคือชื่อตอนที่กวนแบบขำๆ อย่าง พอฝนตก คนบ้าแถวนี้จะโผล่มา /หมาตัวใหญ่ชอบเห่า แต่ไม่กัดผู้หญิง ซึ่งชื่อตอนก็เป็นประโยคแดกดันกัดตัวละครในเรื่องเอง และทุกตอนจะมีฉากเอนด์เครดิตแปลกๆ โผล่มาประกอบ ซึ่งเป็นแนวเบื้องหลังเล็กๆ ชวนขำปิดท้ายตอนได้อีกหน่อย
ตัวละครเพศทางเลือก
และที่ไม่รู้ว่าเพราะลงสตรีมรึเปล่า ตัวเรื่องจึงมีฉากของตัวละครเพศทางเลือกเป็นบทสมทบสำคัญในเรื่อง ต่างจากซีรีส์เกาหลีปกติที่ไม่พยายามใส่มา และเรื่องก็พยายามเน้นย้ำตัวละครนี้ในแบบที่มีแง่มุมดีๆ อย่างการที่คนอื่นในสังคมยังตั้งแง่รังเกียจไว้ก่อน
แต่พระเอกกลับพูดให้ทุกคนเข้าใจว่า รสนิยมแต่งหญิงหรือการเป็นเพศทางเลือกในเกาหลี ไม่ได้ผิดกฎหมาย และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แถมยังมีฉากที่พระเอกเองก็ต้องไปใช้บริการแต่งหญิงกับเขาด้วย โดยที่ไม่ได้เป็นมุกแบบล้อเลียนให้ตลกเต็มที่ แต่เป็นฉากต่อเนื่องที่ปูความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในแบบเพื่อน และแอบมีชวนจิ้นนิดๆ อีกด้วย
ด้านการแสดง
นักแสดงอย่าง Jung Woo รับบทพระเอกขี้โมโหได้สุดๆ ไปเลย และนี่เป็นการกลับมาเล่นซีรีส์อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานกว่า 7 ปีจากบทใน Reply 1988 แม้ดูหน้าตาจะไม่ใช่แนวหล่อ แต่ต้องบอกว่ามันใช่กับบทบ้านๆ แบบนี้ และยังเป็นฮีโร่เล็กๆ ในชุมชน คือถ้าตัวละครนี้หล่อใสแบบพระเอกเกาหลีปกติทั่วไปมันคงไม่ใช่ ไม่เหมาะกับบทเอามากๆ เรียกว่าเหมาะเจาะกับบทนี้ที่สุดแล้ว
ส่วนนางเอก Oh Yeon-Seo อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้ LUV และกลายมาเป็นนักแสดงซีรีส์ประจำ แต่อาจจะไม่ได้คุ้นหน้ามาก เพราะหลายเรื่องไม่ได้ดังในบ้านเรา แต่เธอในบทผู้ป่วยจิตอย่างรุนแรงกับน่ารักสุดๆ ไปพร้อมกันนี่ใช่เลย
แม้ว่าในเรื่องส่วนใหญ่จะให้ตัวละคร อีมินกยอง ใส่แว่นดำใหญ่ๆ ปิดตา เสียบดอกไม้ทัดหูเหมือนคนบ้า (จริงๆ เป็นความต้องการของเธอเองที่ให้คนมองว่าบ้า จะได้ไม่มายุ่งด้วย) หน้าตาก็ไม่ได้มีแต่งเมคอัพอะไร เรียกว่าหน้าสดแทบทั้งนั้นเท่าที่เห็น คือไม่ใช่คนสวยแบบที่ใครเห็นต้องเหลียวหลัง
แต่สวยแบบบ้านๆ พร้อมความบ้าบอแบบน่ารัก ตอนที่มีอาการทางจิตหวาดระแวงก็น่าสงสาร ดูแล้วอยากเอาใจช่วยให้เธอหลุดพ้นจากเรื่องร้ายๆ ยิ่งตอนจีบกับหึงพระเอกนี่ทั้งขำกับน่ารักไปพร้อมกันอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ
จุดด้อย
จุดด้อยของเรื่องหลักๆ ยังไม่เห็น แต่มีแค่จุดด้อยจากงานสร้างลงสตรีมเท่านั้นที่ดูเป็นซีรีส์บ้านๆ ฉายทางออนไลน์ ตัวละครก็เลยน้อยมาก เรื่องราวก็อยู่ในวงแคบไปๆ มาๆ แค่ในห้องพัก 7-11 สถานีตำรวจ ไม่ได้มีฉากอะไรใหม่ๆ มากนัก แต่ถ้ามองข้ามความทุนต่ำของเรื่องไปได้ก็ไม่มีปัญหาในการรับชมอะไร
เพราะเรื่องเดินไว ลื่นไหล เน้นฮา และก็ไม่ได้เป็นการเขียนบทต่อตอนด้วย ซึ่งเรื่องวางกับถ่ายทำไว้หมดแล้ว ดังนั้นปัญหาเรื่องบทแปลกๆ ช่วงหลังไม่น่าจะเจอแบบในซีรีส์ลงทีวีตามปกติครับ (เพราะไม่ได้อิงเรตติ้งเปลี่ยนบทไปมาด้วย)
โดยรวม
ก่อนชมคิดว่าคงเป็นซีรีส์เพี้ยนๆเรื่องราวไม่น่าสนใจเท่าไร แต่พอดูไป 2-3 ตอนแรก ก็ดูยาวๆไปเลย สนุกกว่าที่คิดมาก เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวผู้ป่วยจิตสองคนที่ต้องมาช่วยเยียวยาซึ่งกันและกัน ความป่วยจิตของทั้งคู่เวลาเจอกันทั้งตลกและฮา ออกแนวเพี้ยนๆบ้าๆ มีความสนุกสนานแบบบ้าๆแต่แอบซ่อนความสะเทือนใจไว้ด้วย แต่โดยรวมทั้งเรื่องสนุกครบรสดี มีเสน่ห์แบบบ้านๆ มีทั้งหมด 13 ตอน ตอนละ 30นาที ชวนให้ลุ้นทุกตอน
สรุป
นี่เป็นซีรีส์ฟอร์มเล็กที่ขอเชียร์ให้ดูเลย เรื่องราวอาจจะไม่ได้มีอะไรมาก แนวผู้ป่วยจิตสองคนมาพบกันเยียวยากันแบบ It’s Okay To Not Be Okay ในเวอร์ชั่นตลกโรแมนติก แนวบ้านๆ ไม่มีพล็อตหวือหวาเร้าใจอะไร แต่เรื่องกลับทำให้ผู้ชมอมยิ้ม ขำ ฮาหนัก โรแมนติก สะเทือนใจ ครบรสได้เลย ตอนนึงก็สั้นๆ แค่ 30 นาที ไม่เสียเวลาอะไรมากครับ ไม่ถึงกับห้ามพลาด แต่มีเสน่ห์แบบบ้านๆ ชวนให้ลองพิสูจน์ดูครับ
Comments