top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

Bloodride


ดูหนังออนไลน์

รีวิว Bloodride - เส้นทางเลือดโชก

ซีรีส์สยองขวัญประเภทจบในตอนจำนวน 6 ตอนที่ถูกนำมาร้อยเรียงผ่านเที่ยวโดยสารรถบัสมรณะที่ดูลึกลับเป็นปริศนา ก็เป็นงานซีรีส์ประเภทสยองขวัญที่ดูไม่ยากมากและเป็นที่นิยมในหลาย ๆ ชาติ เพราะจบในตอนและที่สำคัญมักนำเสนอพลอตที่แปลกประหลาดน่าติดตาม สำหรับซีรีส์ชุด Bloodride ก็เป็นคราววิสัยทัศน์ของทีมงานจากนอร์เวย์ที่ทำมาอวดสายตาชาวโลกผ่านทางเน็ตฟลิกซ์บ้าง รีวิว Bloodride


เรื่องย่อ


บนรถบัสลึกลับคันหนึ่งที่วิ่งฝ่าความมืดมีผู้โดยสาร 6 กลุ่มกระจายกันนั่งอยู่ทั้งคัน บ้างก็เป็นครอบครัว บ้างมาคนเดียว บ้างก็เป็นกลุ่มเพื่อนร่วมงาน และทุกครั้งที่สัญญาณสีแดงตรงคนขับรถสว่างขึ้น เราจะเข้าไปดูชีวิตแสนพิศวงของผู้โดยสารแต่ละกลุ่มกัน บ้างสยองขวัญ บ้างสั่นประสาท และบ้างก็ไม่อาจคาดเดา


 

ซีรีส์สยองขวัญประเภทจบในตอนจำนวน 6 ตอนที่ถูกนำมาร้อยเรียงผ่านเที่ยวโดยสารรถบัสมรณะที่ดูลึกลับเป็นปริศนา ก็เป็นงานซีรีส์ประเภทสยองขวัญที่ดูไม่ยากมากและเป็นที่นิยมในหลาย ๆ ชาติ เพราะจบในตอนและที่สำคัญมักนำเสนอพลอตที่แปลกประหลาดน่าติดตาม


อย่างเช่นงานสยองคลาสสิกอย่าง Tales from the Crypt งานไซไฟสยองแบบ Black Mirror หรืออย่างในไทยก็มีอย่าง ยายกะลา ตากะลี เป็นต้น สำหรับซีรีส์ชุด Bloodride ก็เป็นคราววิสัยทัศน์ของทีมงานจากนอร์เวย์ที่ทำมาอวดสายตาชาวโลกผ่านทางเน็ตฟลิกซ์บ้าง


เนื้อเรื่อง


ตอนที่ 1 Ultimate Sacrifice (การเสียสละขั้นสุดยอด)

ครอบครัว 2 พ่อแม่ลูกพึ่งย้ายจากในเมืองใหญ่มาสู่ชนบท โดยที่ผู้เป็นแม่ไม่เห็นด้วยกับการต้องมาอยู่ชนบทนัก แต่พวกเขาจำเป็นด้วยขัดสนเรื่องเงิน จนกระทั่งเธอได้พับกับพฤติกรรมสุดแปลกของเหล่าเพื่อนบ้าน ต่อสัตว์เลี้ยงที่พวกเขามี ความลับของเมืองที่เธอบังเอิญถูกพบจะเปลี่ยนความคิดของเธอที่มีต่อเมืองนี้


การดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วอาจด้วยความเป็นหนังสั้น ทำให้ขาดรายละเอียดจนทำให้ไม่สามารถปะติปะต่อได้บางอย่าง แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างเข้าใจได้ ตอนจบที่หักมุม แต่เนื้อเรื่องช่วงอื่นก็เดาง่ายสำหรับใครที่ดูหนังแนวสยองขวัญบ่อย สำหรับผู้เขียนแล้วขอยกให้อยู่ในอันดับ 2 จาก 6 เรื่อง เนื่องจากผู้สร้างยกออกมาเป็นเรื่องแรกในซีรีส์ มันก็เลยมีความประทับใจแรกมากพอสมควร


ตอนที่ 2 Three Sick Brothers (สามพี่น้องสุดวิปริต)

เอริกชายหนุ่มอดีตคนไข้แผนกจิตเวช หลังจากที่เข้ารับการบำบัด 3 เดือนจนได้ออกจาโรงพยาบาล ก็ตัดสินใจขับรถไปที่กระท่อมเก่าของครอบครัวอีกครั้งพร้อมกับพี่ชายอีก 2 คน เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อมีหญิงสาวแปลกหน้ามาร่วมในครั้งนี้ด้วย


ปูทางเนื้อเรื่องมาดีมากแทบไม่สะดุดหรือเอะใจเลย เรื่องนี้ไม่ได้มีเงื่อนงำอะไรมากมาย ไม่ได้ต้องคิดตามอะไรเยอะ ในหนังมีคำตอบแบบโจ่งแจ้ง เป็นเรื่องเดียวที่มีคำตอบกระจ่างที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ขอจัดให้อยู่ในอันดับ 3 จาก 6


ตอนที่ 3 Bad Writer (นักประพันธ์โฉด)

ตอนนี้เป็นตอนเกี่ยวกับวัยรุ่นสาวบ้านรวยคนหนึ่งเธอมีความฝันที่จะเป็นนักเขียนนิยาย วันหนึ่งเธอไปฟังการแนะแนวเขียนนิยาย และได้พบกับชายคนหนึ่งซึ่งเขาก็มาฟังเหมือนกัน แต่เมื่อเธอค้นพบความจริงเกี่ยวกับชายคนนี้ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาล


ยกให้เป็นอันดับ 1 จาก 6 เรื่อง สำหรับความชอบส่วนตัว ในส่วนของการดำเนินเรื่องหักมุมจนแทบตามไม่ทัน ลุ้นระทึกที่สุดจากทุกเรื่องในซีรีส์ ให้ข้อคิด 1 อย่างว่าควรแยกโลกจริงกับโลกจินตนาการให้ออก อย่าคิดไปเองคนเดียว


ตอนที่ 4 Lab Rats (หนูในห้องทดลอง)

เรื่องราวเกี่ยวกับบริษัทยาขนาดใหญ่ ที่เพิ่งค้นพบสูตรยาชนิดใหม่ ประธานบริษัทได้ทำการเชิญพนักงานและภรรยาของเขามาร่วมงานเลี้ยงฉลอง แต่วงการยานั้นอยู่ยาก เมื่อยาต้นแบบที่พึ่งถูกค้นพบถูกขโมยไป ทั้งที่ในบ้านมีเพียงแขกไม่กี่คน


รวมถึงการ์ดและภรรยาของเขา กระบวนการสอบสวนและจับขโมยจึงได้เริ่มต้นขึ้น เขาได้จับให้ทุกคนเข้าไปในห้องทดลองและเปิดแก๊สอัดลงไป พร้อมกับตั้งรหัสในห้องทดลองเป็นรหัสเดียวกับตู้เซฟที่เก็บยาเอาไว้ หากใครเป็นหัวขโมยก็จะสามารถออกมาจากห้องได้นั่นเอง


อันดับ 5 จาก 6 ปูทางเรื่องมาดีมากแต่เสียดายที่ดูหนังออนไลน์รวบเรื่องจนทุกอย่างรวดเร็วมาก ถ้าให้เทียบกับหนังแนวคล้ายกันเรื่องนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แอบหวังว่าจะมีเงื่อนงำมากกว่านี้แต่พอเฉลยแล้วก็แล้วเลย เฉยๆไปหน่อย แต่แอบมีสะใจตอนท้ายเล็กน้อย


ตอนที่ 5 The Old School (โรงเรียนเก่า)

คุณครูสาวที่พึ่งย้ายมาสอนที่โรงเรียนในชนบทแห่งหนึ่งที่เคยปิดตัวไปถึง 40 ปี เสียงประหลาดภายในโรงเรียนทำให้เธอสงสัยเกี่ยวกับโศกนาฎกรรมที่ไม่เคยถูกเปิดเผย ตอนนี้เป็นตอนที่เกี่ยวกับผีโดยตรงเลย และมีฉากตกใจพอสมควร


แปลกแยกที่สุดในซีรีส์ก็ว่าได้ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่มีวิญญานเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีเหตุการณ์เกิดไปก่อนที่ตัวละครจะมาเจออยู่แล้ว ส่วนอีก 5 เรื่องนั้นเป็นแบบตัวละครพึ่งจะพบเจอ เนื้อเรื่องเนือยๆไม่มีอะไรมาก เหมือนหนังผีทั่วไป แต่ไม่น่ากลัว เพราะความที่มันเป็นแค่ตอนสั้นๆ ไม่สามารถทำให้ขนหัวลุกได้มากมายอะไร


ตอนที่ 6 The Elephant in the Room (ปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครอยากพูดถึง)

เรื่องราวของการถูกกลั่นแกล้งในบริษัท และมีงานเลี้ยงฉลองบริษัท ที่มีธีมให้ทุกคนแต่งตัวเป็นสัตว์ แต่สองสามีภรรยาในบริษัทนั้นก็ได้ทำการสืบค้นการกลั่นแกล้งในบริษัทภายในงานเลี้ยงฉลอง ทำให้นำไปสู่การนองเลือด


อันดับ 4 จาก 6 ค่อนข้างคาดหวังกับเรื่องสุดท้ายนี้มากว่ามันจะต้องเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนไม่มีใครอยากยุ่ง มีเบื้องหลังเบื้องลึก แบบหนังเกรดเอ แต่ปรากฎว่าก็ไม่ได้นำพานัก จัดอยู่ในระดับกลางๆ ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ว้าวมาก อารมณ์ดูแล้วก็ได้แต่หัวเราะ หึๆ

รีวิว Bloodride

ด้านงานสร้าง


ว่าด้วยงานสร้างต้องยอมรับว่าทีมงานสร้างทั้งครีเอเตอร์ คนเขียนบท ผู้กำกับ ตลอดจนนักแสดง ก็เป็นชาวนอร์เวย์แบบที่ดูชื่อเราก็ไม่รู้จักผลงานก่อนหน้ามาก่อนเลย เป็นโอกาสดีอีกครั้งที่ได้ดูงานนอร์เวย์เพียว ๆ แบบนี้


โปรดักชันก็มีความก้ำกึ่งระหว่างงานหนังเว็บดูหนังกับงานละคร แต่ให้ความรู้สึกหนักไปทางละครโทรทัศน์มากกว่า ทั้งมุมกล้อง เทคนิคการถ่ายทำ การแสดง และวิธีการเล่าเรื่อง มีฉากจำที่ติดตาจริง ๆ ไม่มากนัก


บางตอนทำได้ดีแต่บางตอนก็ดูดรอปลงไปเยอะทั้งที่มีผู้กำกับสับเปลี่ยนกันแค่ 2 คน ยิ่งฉากหักมุมที่เป็นจุดพิฆาตในหนังแนวนี้ก็ต้องบอกว่ายังไม่สุดเท่าไหร่ เหมือนน่าจะทำให้สะดุดใจมากกว่านี้ได้ ติดตามากกว่านี้ได้


แต่ก็ไปไม่ถึงอย่างน่าเสียดาย และอีกอย่างที่คาดหวังว่าน่าจะมีคำอธิบายมากขึ้นคือฉากในรถบัสที่เป็นอินโทรของทุกเรื่อง หวังเอาไว้ว่าพอถึงตอนสุดท้ายน่าจะมีเฉลยว่ารถบัสนี้คืออะไร แต่สุดท้ายก็จบไปแบบนั้นเลย


โดยรวม


โดยรวมก็ต้องบอกว่าเป็นงานจากทีมงานนอร์เวย์ที่ยังไม่ค่อยคุ้นชื่อในเวทีนานาชาตินัก ตัวซีรีส์มีแก่นกลางว่าด้วยความสยองความตายและการหักมุม อันเป็นสูตรเรื่องสั้นสมัยใหม่ที่เข้าถึงคนดูได้ง่าย หลาย ๆ ตอนมีส่วนผสมของหนังหรืองานเขียนในแนวเดียวกันหลาย ๆ เรื่อง


มาผสมกลมกล่อมให้เป็นเนื้อใหม่ แม้จะชวนให้นึกถึงเรื่องนั้นนี้อยู่บ้าง แต่ก็มีรายละเอียดที่ทำให้มีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ทั้งนี้เมื่อมองในฐานะคนที่ชื่นชอบหนังหรือเรื่องเล่าแนวสยองหักมุมแล้ว ก็ยังไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นแปลกใจตรึงใจมากนัก


เป็นความเพลิดเพลินแบบดูสนุกในตอนนั้น ๆ แล้วจบไป ไม่ได้คิดจะเอามาเล่าถกกับเพื่อนหรือแนะนำใครเป็นพิเศษ ถ้าเบื่อ ๆ ต้องกักตัว 14 วัน ดูได้จบในตอนไม่ค้างคา เสียเวลาไม่นานต่อตอนประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงแล้วให้ความบันเทิงได้พอสมควร ก็แนะนำเลยครับ


สรุป


รวมหนัง 6 เรื่อง 6 รสชาติในซีรีย์เดียว ไม่จำเป็นต้องดูเรียงลำดับ สามารถเลือกดูเฉพาะตอนที่สนใจได้ หนังสั้นตอนละประมาณ 25-30 นาที เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาจะดูเรื่องยาว ซีรีส์นี้ได้รวมความสนุกมาให้คุณแล้ว แต่อาจจะขัดใจที่พอมันเป็นหนังสั้น มันทำให้ไม่เต็มอิ่มในส่วนของการคลายปม มองอีกมุมก็คือฝากให้ไปคิดต่อเอาเอง

ดู 64 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Search WWW

The Crowned Clown

You Are My Spring

Comments


bottom of page