รีวิว Black Summer - ปฏิบัติการนรกเดือด
ปัจจุบันนี้มีหนังหรือซีรีย์แนวซอมบี้ แนวเอาตัวรอด ออกมามากมายหลายเรื่อง ซึ่งซีรีย์ที่ดังๆ ตอนนี้ก็จะมี The Walking Dead, i-Zombie, Z-Nation, Fear The Walking Dead และซีรีย์ซอมบี้เกาหลี Kingdom ที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด ซีรีย์เรื่องนี้จาก Netflix เป็นซีรีย์ซอมบี้อีกเรื่องหนึ่งที่สนุกแทบหยุดหายใจ ด้วยความแตกต่างด้านการเล่าเรื่อง ทำให้หลายคนให้คะแนนซีรีย์เรื่องนี้ค่อนข้างสูง รีวิว Black Summer
เรื่องย่อ
การเอาชีวิตรอดของคนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่ง จุดหมายของพวกเขาคือสนามกีฬาที่พวกเขาเชื่อว่าปลอดภัยจากเหล่าคนตายคืนชีพ โดยเนื้อเรื่องหลัก จะเป็นเรื่องของครอบครัวหนึ่งที่ต้องพลัดพรากจากลูกสาวขณะที่กำลังตรวจคนเพื่อขึ้นรถ
ด้วยสถานการณ์คับขัน ทำให้ลูกสาวได้ขึ้นรถไปเพียงลำพังกับกลุ่มทหารและคนแปลกหน้า ฝั่งคุณแม่ตะโกนบอกให้ลูกสาวรอเธอที่สนามกีฬาแล้ว ส่วนเธอจะพยายามเดินทางไปหาลูกเอง
วันหยุดอยู่บ้านใครเหงา ว่าง ไม่มีอะไรทำ หรืออยากหาซีรีย์หรือหนังสนุกๆ ดูสักเรื่องนึงแต่นึกไม่ออกว่าจะดูอะไรดี!? วันนี้ผมมีซีรีย์เรื่องนึงมาแนะนำของทาง NETFLIX ครับผม.. แต่ขอบอกเลยว่าสำหรับคนที่อยากได้อะไรฮาๆ ตลกๆ นี่ข้ามไปได้เลยครับ
เพราะซีรีย์เรื่อง BLACK SUMMER ความยาวทั้งหมด 8 ตอน ที่ผมจะมาเขียนรีวิวให้ได้อ่านกันนั้น เครียดและลุ้นระทึกแทบทั้งเรื่องเลย แต่ถ้าหากใครมาทางสายนี้อยู่แล้ว แล้วยิ่งชอบอะไรที่เกี่ยวกับซอมบี้ด้วยนี่ อือหืออออ !! ต้องดู !!
ถือเป็นซีรีส์ดูหนังฟรีที่สร้างโดย Netflix ที่เกี่ยวกับซอมบี้อีกเรื่องและผมคิดว่ามันสนุกใช้ได้เลยทีเดียวครับ แม้ว่าในความเป็นจริงไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรใหม่เลย ถ้าคุณเป็นแฟนหนังซอมบี้และดูมาเยอะ
ปฏิบัติการนรกเดือด นี้นำเอาไอเดียจากหนังซอมบี้หลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น 28 Days Later, The Walking Dead และ World War Z แถมมีกลิ่นอายของ Fear the Walking Dead อยู่ด้วย
สำหรับเรื่อง BLACK SUMMER นั้นเป็นเรื่องราวก่อนซีรีย์เรื่อง Z nation แต่ไทม์ไลน์ของทั้ง 2 เรื่องถือว่าห่างกันมากๆ จะดูเรื่องอะไรก่อนก็ได้ไม่งงเนื้อเรื่องแน่นอนครับ
เนื้อเรื่อง
โลกได้เกิดเหตุการณ์ที่ราวกับเป็นวันโลกาวินาศ เหล่าผู้คนได้ติดเชื้อจนกลายเป็น ซอมบี้ ไล่กัดกินกันเอง แถมความน่ากลัวของซอมบี้ในเรื่องนี้ต่อให้ไม่ถูกกัดแค่คุณตายไปร่างกายของคุณก็จะฟื้นขึ้นมากลายเป็นซอมบี้
และพร้อมที่จะหาเหยื่อมากัดกินแพร่เชื้อต่อไป โดยผู้ที่รอดชีวิตจะต้องอพยพไปยังสนามกีฬา โดยเรื่องราวจะเล่าผ่านตัวละครหลายๆ คนจนกระทั้งทุกคนมาบรรจบกัน
โรส หญิงสาวที่เสียสามีไปเพราะทหารไม่ให้ขึ้นรถอพยพไปด้วย เพราะสามีของเธอติดเชื้อ แต่ทว่าลูกสาวของเธอดันติดรถทหารไปยังสนามกีฬาก่อนแล้ว ทำให้เธอต้องมุ่งหน้าไปเพื่อเจอลูกสาวของเธออีกครั้งนึง
การดำเนินเรื่อง
ความสนุกของเรื่องหนังออนไลน์มันเริ่มต้นตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่คลิปเข้าไปดูหนังเลยครับ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ส่วนมากจะถ่ายเป็น LONGTAKE บ่อยมาก ทำให้บรรกาศที่หนังนำพาเราไปรู้สึกสมจริง และคอยลุ้นไปตามเหตุการณ์ในแต่ละซีน
โดยหนังจะเล่าผ่านเหตุการณ์ของแต่ละบุคคล สถานที่ แล้วให้เราจับต้นชนปลายกันเองว่า คนนี้มาได้ยังไง แล้วซีนนี้มันเกิดขึ้นตอนไหน หมอนี่เป็นใครทำอะไรมาก่อน เลวรึเปล่า ความต้องการของเค้าคืออะไร?!
ก่อนดูซีรีย์เรื่องนี้ก็พอจะได้ยินมาหน่อยนึงแล้วว่าจะเป็นแบบนี้ ก็กลัวว่าดูๆ ไปแล้วจะไม่เข้าใจเหตุการณ์ แต่ไม่เลย ผิดคาดมาก!! หนังเล่าได้อย่างชาญฉลาดทำให้เราเข้าใจได้โดยไม่ยากเลย
และยังความสมจริงของซอมบี้เรื่องนี้ ผมจัดว่าดีระดับนึงเลย เพราะถ้าเป็นซอมบี้จริงผมว่ามันตายยากอย่างนี้แหละถูกแล้ว เพราะเอาจริงๆ เราจะเห็นบางเรื่องซอมบี้โดนหวดนิดหน่อยก็ตายแล้ว
ทั้งๆ ที่ความจริงร่างกายของมนุษย์นั้นแข็งมาก การจะตีกระโหลกให้แตกทีเดียวเอาไม่อยู่แน่ๆ ซีรีย์ก็เก็บรายละเอียดตรงนี้ค่อนข้างดี และอีกจุดนึงที่ผมทั้งชอบและก็ไม่ชอบเลยไปพร้อมๆ กันก็คือทำไมตัวละครในเรื่องถึงไม่ชอบยิงหัวซอมบี้กันเลย
ทั้งๆ ที่รู้ว่าจุดอ่อนมันอยู่ที่หัว แต่ในอีกแง่นึงก็คือชอบตรงนี้แหละ เพราะเอาเข้าจริงๆ ในสถานการณ์แบบนั้น ระยะห่างขนาดนั้น กับจำนวนกระสุนที่ไม่ได้มีเหลือเฟือ ก็คงจะกดดัน เพราะการเล็งยิงหัวของใครสักคน ถ้าไม่ใช้ ฮอว์คอาย คงทำกันไม่ได้ง่ายๆ (ฮา)
จุดที่ชอบ
จุดที่ผมชอบคือความกดดันของการนำเสนอที่แทบไม่ให้เราพักหายใจ ตรงนี้ทำให้ซีรีส์มีแค่ 8 ตอนเพราะตัดความยืดเยื้อออกไป แถมบางตอนสั้นแค่ 20 นาทีและสิ่งที่ทำให้ผมงุนงงคือ บางตอนควรจับมารวมกันแทนที่จะแยก เพราะว่าในช่วงเริ่มแรกนั้น ตอนนึงจะยาวประมาณ 35-40 นาทีครับ เป็นไปได้ว่าโดนตัดลงเพื่อให้กระชับ
ซีรีส์ใช้มุมกล้องตามหลังนักแสดงในหลายๆฉากและมีการเคลื่อนไหวของกล้องเยอะและไว ตรงนี้อาจจะทำให้บางคนเวียนหัวได้นะครับ ยิ่งถ้าใครดูบนรถด้วยไม่ควรอย่างยิ่ง มุมกล้องแบบนี้ช่วยเพิ่มอารมณ์ความตื่นเต้นและด้วยความที่ซีรีส์มีฉากแอ็คชั่นเยอะ เราจะได้เห็นมุมกล้องแบบนี้ค่อนข้างบ่อย
ซอมบี้มีความดุดเดือดและค่อนข้างฉลาดกว่าซอมบี้เรื่องอื่นๆ ที่สำคัญพวกมันวิ่งไวมากแถมตามกัดไม่เลิกด้วยนี่สิ แถมกลายร่างไวมาก เรียกว่าไม่ทันตั้งตัว (คุ้นๆไหมครับ) ส่วนสิ่งที่ต่างกับซอมบี้ที่เราคุ้นเคยคือความเละ ซอมบี้ใน Black Summer จะดูไม่เละแหวะมากนักแต่อาจจะเป็นเพราะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเกิดเรื่อง
การเล่าเรื่อง คือจุดเด่นของเรื่องนี้
ผมบอกเลยว่าผมชอบวิธีการเล่าเรื่องของเรื่องนี้เอามาก ๆ ด้วยการตั้งชื่อซีนแต่ละซีนเอาไว้ มันทำให้ผมคิดว่าเออ ถ้าตั้งชื่อซีนอย่างนี้มันควรจะเป็นแบบนี้ แต่ที่ไหนได้! บางซีนเล่าได้กวนมาก แถมวิธีการถ่ายวิดิโอแบบ Long Take(ถ่ายฉากยาว ๆ กล้องไม่ตัด), Handheld (ใช้มือถ่าย) บ่อย ๆ ก็เป็นอะไรที่ผมชอบมาก
ทำให้อารมณ์ไม่ค่อยสะดุดรู้สึกเหมือนอินและเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มีการถ่ายมุมมองของแต่ละตัวละครว่าคนนี้เห็นอะไรไม่เห็นอะไร ถ่ายจากด้านหลังติดตามตัวละครให้ลุ้นระทึก คือติดตามแม้กระทั่งมุมมองของซอมบี้! ว่าจะไปไล่กัดคนยังไง คือมันดูแปลกและสนุกดีนะ
จุดที่ไม่ค่อยชอบ
ก็พูดถึงจุดที่ชอบไปพอสมควรแล้ว ก็มาพูดกันถึงจุดที่ไม่ค่อยชอบบ้างดีกว่า ก็มีหลายจุดอยู่เหมือนกัน จริงอยู่ที่ว่าซีรีย์นี้เปิดตัวได้น่าดูมาก เพราะตัวละครที่ซีรีย์นี้นำเสนอเป็นคนแรกๆ ล้วนมีสตอรี่กับคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจ
บวกกับการแสดงที่ดี แต่พอเรื่องดำเนินมาเรื่อยๆ นั้นเราจะพบจุดที่น่าหงุดหงิดของตัวละครบางตัวที่แบบอะไรของเอ็งงงง !!! ทำไมไม่มีเหตุผลเอาซะเลย บางคนก็ไม่ฉลาด ไอเรื่องยิงหัวซอมบี้ยากพอเข้าใจ แต่มันจะมีพวกหนีๆ หลบๆ ซอมบี้อยู่ แต่ก็ไม่ปิดประตูครับ ทั้งๆ ที่ปิดล็อคก็รอดแล้วแท้ๆ
ทั้งยังสตอรี่กลางเรื่องช่วงอยู่โรงเรียนเด็กก็ค่อนข้างจะเนือย แล้วงงเล็กน้อยว่า ไอเด็กที่อยู่ในโรงเรียนความต้องการของมันคืออะไร สนุกเหรอ เอาตัวรอดเหรอ แล้วมันเก่งเกินเด็กไปหน่อยรึเปล่า แต่พอพ้นช่วงนั้นเนื้อเรื่องก็กลับมาระทึกเหมือนเดิมครับ แต่ก็นะบางคนอาจจะชอบในจุดที่ผมไม่ชอบ หรือไม่ชอบในจุดที่ผมชอบก็ได้ ก็แล้วแต่คนๆ ไป
โดยรวม
โดยรวมผมยกให้ซีรีส์นี้เป็นอีกเรื่องจาก Netflix ที่แฟนซอมบี้ไม่ควรพลาดครับ แม้ว่าในซีซั่นแรกจะมีการนำเสนอที่อาจจะน่าหงุดหงิดไปนิด เพราะกระโดดไปกระโดดมา เพื่อเป็นการแนะนำตัวละครและพยายามช่วยเราปะติดปะต่อเรื่อง แต่ผมรู้สึกว่ามันกระโดดถี่เกินไปนิด น่าจะตัดทอนให้มันดูต่อเนื่องมากกว่านี้
Comments