top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

Zack Snyder's Justice League


ดูหนังออนไลน์

รีวิว Zack Snyder's Justice League

กระแส Zack Snyder's Justice League มาแรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริง ๆ หลังออกอากาศวันแรกก็มีกระแสโด่งดังทั่วโลก เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา มหากาพย์หนังฉบับเต็ม Justice League เวอร์ชั่นปี 2021 นี้เป็นผลงานการตัดต่อเองของ Zack Snyder ผู้กำกับภาพยนตร์ หลังจากที่ในปี 2017 แซคถอนตัวจากโปรเจคเพราะปัญหาส่วนตัว ทำให้ Justice League 2017 ได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบและไม่ได้รับผลตอบรับดีเท่าที่ควร ในเวอร์ชั่นปี 2021 หลังจากรอมานานถึง 4 ปี แฟน ๆ เหล่าฮีโร่จักรวาล DC ต่างสมหวังกับการรอคอย รีวิว Zack Snyder's Justice League


เรื่องย่อ


เรื่องราวของกลุ่มฮีโร่ในจักรวาลดีซี ประกอบด้วย แบทแมน วันเดอร์วูแมน อควาแมน ไซบอร์ก และแฟลช เหล่าฮีโร่ต้องรวมตัวกันเพื่อปกป้องโลกจาก ผู้บุกรุกต่างดาว Steppenwolf ที่กำลังต้องการตามหากล่องพลังงาน Mother Box ทั้งสามกล่องที่ซ่อนอยู่ในที่สามแห่ง เพื่อที่จะรวมกล่องเข้าด้วยกันแล้วทำลายล้างโลก สำหรับเหล่าฮีโร่นับเป็นงานที่ยากและหินมากในวันที่โลกไม่มีซูเปอร์แมนแล้ว


 

หนังฟอร์มยักษ์ที่เคยฉายไปแล้วจากผลงานผู้กำกับ จอสส์ วีดอน ของมาร์เวลที่เข้ามารับหน้าที่ตัดต่อเก็บงานจาก แซ็ก สไนเดอร์ ผู้กำกับและคนคุมโปรเจ็กต์นี้ทั้งหมดกับภรรยา เดเบอร์รา สไนเดอร์ แต่เกิดเหตุลูกสาววัย 20 ปีฆ่าตัวตายจากโรคซึมเศร้า


ด้วยสภาพจิตใจที่รับไม่ไหว ทั้งคู่จึงถอนตัวจากงานสร้างเรื่องนี้ทั้งๆ ที่ถ่ายทำไปเสร็จเกือบหมดแล้วเหลือแค่ตัดต่อ และผลลัพธ์ที่ออกมาก็กลายเป็นโทนสดใสตามสไตล์ของ จอสส์ วีดอน ที่กำกับ Avengers มาก่อนสองภาค


ซึ่งกระแสตอบรับไม่ดีนัก รายได้ก็ไม่ดีนัก ทั่วโลก 657.9 ล้านเหรียญ (เป้าคือพันล้านเหรียญขึ้น) จึงเป็นที่มาของเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ และทางแซ็คเองก็อยากกลับมาทำงานนี้ตามวิสัยทัศน์ของเขาให้สำเร็จ

ในที่สุดค่ายวอร์เนอร์ที่เป็นเจ้าของ HBO Max ด้วยก็ตัดสินใจอนุมัติงานสร้างเวอร์ชั่นนี้ขึ้นมาลงในระบบสตรีมมิ่ง (อีกเหตุผลก็คือโควิด 19 ทำให้ไม่มีหนังใหญ่ฉายโรงได้ด้วย) ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่มีหนังฟอร์มยักษ์ถูกนำมาตัดต่อใหม่คนละผู้กำกับ


จนน่าจะเป็นตำนานบทหนึ่งของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ด และก็เป็นใบเบิกทางไปสู่การฉายเพื่อวัดผลเกรดหนังโรงฟอร์มยักษ์มาลงสตรีมมิ่งก่อนโรงภาพยนตร์ว่าจะได้รับการตอบรับดีแค่ไหนกลับมาด้วย

โอกาสครั้งที่ 2 สำหรับบางคนไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไรก็ไม่มีวันหวนกลับมา แต่สำหรับผู้กำกับ แซ็ก สไนเดอร์ เวลาเพียง 4 ปี ก็เกินพอ เพราะโอกาสครั้งที่ 2 ของเขา อาจหมายถึงโอกาสครั้งสำคัญของจักรวาลหนังซุปเปอร์ฮีโร่สาย DC


ที่หวังกู้วิกฤติศรัทธาของแฟนๆ ให้กลับคืนมา ด้วยการกลับมาสานงานต่อให้จบกับสิ่งที่เขาได้เริ่มต้นไว้ในชื่อ Zack Snyder's Justice League หรือบางคนจะคุ้นเคยกับชื่อ Justice League ฉบับ Snyder Cut


เนื้อเรื่องในภาคนี้


เนื่องจากเวอร์ชั่นนี้มีส่วนถ่ายทำเพิ่มเสริมเนื้อเรื่อง กับส่วนที่ถูกตัดออกไปในเวอร์ชั่นก่อนเพิ่มเข้ามารวมแล้ว 2 ชั่วโมง รวมแล้ว 4 ชั่วโมง 2 นาที แต่เวลาใน HBO Go จะ 3 ชั่วโมง 52 นาที สั้นกว่านิดๆ เพราะเฟรมเรตที่มากกว่าฉายโรงทำให้เวลาหดลง


โดยที่เนื้อหายังคงเดิมทั้งหมด โดยใช้อัตราส่วน 4:3 มีขอบดำซ้ายขวาเพื่อทดแทนขนาดภาพจากกล้องไอแม็กซ์แบบที่ฉายในโรง ซึ่งเป็นสิ่งที่แซ็คต้องการ แต่โครงเรื่องหลัก เส้นเรื่องก็ยังคงเป็นไปตามเวอร์ชั่นก่อน ซึ่งก็ต้องบอกว่าถ้าใครไม่ชอบโครงเรื่องภาคก่อนเอามากๆ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องดูเวอร์ชั่นนี้ก็ได้


เพราะหลักๆ ก็ยังเป็นแบบไปแบบเดิมคือ ทีมจัสติกลีกก่อตั้งครั้งแรกจากแบทแมน แล้วก็ชุบซูเปอร์แมนที่ตายในภาค Batman v Superman: Dawn of Justice ขึ้นมาต่อกรกับ Steppenwolf ที่ลงมานำร่องยึดโลกให้เจ้านายดาร์คไซด์แบบเดิม


และตัวเรื่องก็ยังคงให้ซูเปอร์แมนแข็งแกร่งสุดๆ ขนาดตบ Steppenwolf ที่เก่งมาตลอดเรื่องลงได้อย่างง่ายดายเช่นเดิม แต่ถ้ากลั้นใจดูเวอร์ชั่นนี้ใหม่นี้อีกครั้ง อะไรหลายๆ อย่างที่เพิ่มเข้ามาและตัดออกไป กลับทำให้หนังเรื่องนี้ดูกลมกล่อมขึ้นมาก และก็เป็นดูหนังออนไลน์ในสไตล์ DC มืดหม่น แอบติดตลกนิดๆ ไม่ได้สดใสยิงมุกตลกบ่อยๆ แบบมาร์เวล ซึ่งนี่คือสิ่งที่แฟน DC ตัวจริงต้องการมากกว่าแบบที่มาร์เวลเป็น


ไซบอร์ก หรือ วิกเตอร์ สโตน


สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องที่เพิ่มเข้ามาคือ บทของไซบอร์ก จากที่เหมือนแค่ตัวแถมประกอบเรื่อง ไม่มีคนสนใจ ไม่เด่น จนทำให้ดาราอย่าง เรย์ ฟิชเชอร์ เองก็มีปัญหากับบทนี้ และน่าจะถอนตัวออกไปจากงานสร้างหลังจากนี้เรียบร้อยแล้ว


ในเวอร์ชั่นเขาคือคนที่เด่นที่สุด เป็นหัวใจและคีย์สำคัญของเรื่องไม่แพ้แบทแมน โดยสิ่งที่เพิ่มมาคือพาร์ทครอบครัว พ่อลูกที่มีปัญหากันและเมื่อเกิดอุบัติเหตุจนเกือบเสียลูกชายไป เขากลับชุบลูกขึ้นมาในร่างไซบอร์ก แต่ลูกกลับคิดว่าตัวเองรูปลักษณ์ผิดปกติไปเหมือนแฟรงเกนสไตน์


ทำให้ไม่กล้าออกไปใช้ชีวิตในสังคมอีกครั้ง และเฝ้าแต่โทษว่าพ่อคือตัวการทั้งหมดที่ทำให้แม่ตายและเขากลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งพาร์ทของไซบอร์กที่เพิ่มเข้ามาเป็นแรงผลักดันให้ทั้งตัวเองและคนในทีมได้ทำภารกิจนี้ร่วมกัน


โดยต้องฝากความหวังไว้ที่เขา เพราะเป็นคนเดียวที่จะหยุดมาเธอร์บ็อกซ์ สิ่งประดิษฐ์จักกลโบราณที่เป็นได้ทั้งหายนะและความหวังตามแต่ผู้ใช้ต้องการ ต้องบอกเลยว่าเว็บดูหนัง พาร์ทของไซบอร์กนี้ใส่หัวใจลงไปให้ตัวละครนี้อย่างมาก


อีกทั้งการแสดงของเรย์ก็เหมาะเจาะลงตัวกับบทที่มีหัวใจนี้ ทำให้ตัวเรื่องดูนุ่มนวล แอบซึ้ง ไม่แข็งกระด้างทื่อๆ แบบเวอร์ชั่นก่อนที่รวบรัดตัดเรื่องราวของเขาไปจนหมด และรู้สึกอยากให้เรย์กลับมาเล่นต่อ อยากให้มีภาคแยกเรื่องราวต่อไปของเขาจริงๆ ขึ้นมาเลยครับ


เดอะแฟลช


ตัวโจ๊กประจำทีมในเวอร์ชั่นก่อน มาเวอร์ชั่นนี้ก็ยังมีมุกตลกแบบเดิมอยู่อย่างฉากถามแบทแมนว่าพลังพิเศษคืออะไร แล้วแบทแมนตอบว่าความรวย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของต้นฉบับแฟลชดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือฉากเปิดตัวเข้าช่วยนางเอกคู่รักของแฟลช Iris West เล่นโดย Kiersey Clemons นักแสดงหญิงผิวสีที่มีเสน่ห์มากพอตัวเลย


แม้ฉากนี้จะออกมาแค่นิดเดียว แต่ก็เหมือนเป็นการโชว์ของเพื่อหนังแฟลชเดี่ยวในโอกาสต่อไป และแฟลชในเวอร์ชั่นนี้จะได้รับบทเด่นสุดในการกู้วิกฤติสุดท้ายของเรื่อง ที่เป็นการเปลี่ยนฉากไคลแม็กซ์ตอนจบใหม่ให้ดูดีกว่าเดิมมาก


ทุกตัวละครจะมีบทบาทเผด็จศึกมากกว่าเดิม ไม่ได้อยู่แค่ซูเปอร์แมนเพียงคนเดียวอีกต่อไป ซึ่งรับรองเลยว่าฉากแฟลชวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดกว่าที่เคยมีมาก่อนในระดับสปีดฟอร์ซในตอนนี้คือลุ้นมาก และก็เป็นท่าไม้ตายโชว์ของให้คนที่ไม่เคยรู้ว่าจริงๆ แล้วแฟลชทำอะไรได้เทพสุดให้ชมกันครับ


อควาแมน


อีกหนึ่งตัวละครที่มีหนังเดี่ยวไปแล้วอย่าง อควาแมน (Aquaman) หรืออาร์เธอร์ เคอร์รี เจ้าสมุทรนักบู๊ผู้มาพร้อมกับตรีศูลก็ได้รับการบอกกล่าวมากขึ้่นแต่ข้อมูลที่อยู่ในหนังอาจจะไม่ได้ใหม่แล้ว เนื่องจากเราได้ดู ‘Aquaman’ ไปตั้งแต่ปี 2018 แล้วเพียงแต่เมื่อเทียบกับ ‘Justice League’ ที่เป็นเวอร์ชันของวีดอนเราจะพบว่าฉบับของแซ็ก สไนเดอร์มีการปูพื้นเบื้องต้นว่าเหตุการณ์ในหนังจะคาบเกี่ยวกับหนังเดี่ยวของ ‘Aquaman’ จริง ๆ


โดยในเวอร์ชันนี้แม้จะยังไม่ได้เห็นคิงออร์ม ตัวละครของเจสัน แพตทริก (Jason Patrick) แต่จากการบอกเล่าของ วัลโก (Vulko) ตัวละครของวิลเลม เดโฟ (Willem Dafoe) ก็มีการกล่าวอ้างถึงการใฝ่อำนาจบาตรใหญ่ของน้องต่างบิดาของอาร์เธอร์อย่างชัดเจนจะมีขัดใจบ้างก็แค่สีผมของมีร่า(Mera) ที่แสดงโดยสุดสวย แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard)ไม่ได้แดงสะใจแม้อยู่ใต้น้ำเหมือนเวอร์ชันของเจมส์ วาน (James Wan)เท่านั้นแหละ


ซูเปอร์แมน


ส่วนใครรอการมาของซูเปอร์แมนในเวอร์ชันนี้แล้วหวังเห็นมุมอื่นที่ต่างจากเดิมก็ขอบอกว่ามันไม่ได้ชัดเจนเหมือนกรณีไซบอร์ก เดอะแฟลชหรืออควาแมนขนาดนั้นแต่เป็นงานดีไซน์ชุดที่เปลี่ยนไปชัดเจนและฉากบู๊ที่มีให้เห็นเยอะกว่าเดิมแต่โครงเรื่องนอกจากการชุบชีวิตแล้วก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นครับ

สำหรับซูเปอร์แมนในมุมมองของแซ็กอาจจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมาก เพราะเป็นแค่ตัวปิดเรื่องราวแบบเดิม ฉากที่ออกมาหลักๆ ก็แบบเดิม มีเพิ่มฉากสู้ตอนท้ายมานิดหน่อยเท่านั้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนเลยคือ เวอร์ชั่นนี้ใส่ชุดดำผ้าคลุมดำทั้งตัว


โดยที่ไม่ได้เป็นโหมดดาร์ค และก็เพิ่มฉากในฝันของแบทแมนเข้ามาให้ชัดเจนขึ้นว่าซูเปอร์แมนต่อไปต้องกลายเป็นตัวร้าย แต่ชุดในฝันตอนท้ายนั้นก็ยังเป็นชุดเดิมสีฟ้าผ้าคลุมแดง ไม่ใช่สีดำแบบในเวอร์ชั่นนี้ครับ


วันเดอร์วูแมน


อันนี้ไม่ได้ต่างจากเวอร์ชันเดิมมากนักเพียงแต่มีการปรับจังหวะการเล่าเรื่องและเพิ่มความยาวของแต่ละฉากที่ปรากฎตัวของตัวละครจุดขายอยู่แล้ว ในกรณีวันเดอร์วูแมนต้องยอมรับว่าต่อให้เพิ่มความยาวฉากของนางมาแค่ไหนคนดูก็พร้อมปาดขี้ตาดูล่ะเพราะความสวยของ กัล กาดอต (Gal Gadot) นั้นเกินต้านสุด ๆ และยิ่งมีฉากกุ๊กกิ๊กเล็ก ๆ กับบรูซ เวย์น (Bruce Wayne) ของ เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) แล้วยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เธอเข้าไปใหญ่


การปรากฎตัวของโจ๊กเกอร์!


ตามที่ได้มีข่าวมาก่อนหน้านี้ว่าหนึ่งในฉากที่ถูกถ่ายทำใหม่มีการปรับลุ๊กโจ๊กเกอร์ (Joker) ของ จาเร็ด เลโท (Jared Leto) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยตอนเห็นข่าว แต่ถามว่ามีความสำคัญกับเรื่องแค่ไหน หากตอบแบบเลี่ยงสปอยล์สุด ๆ ก็คงต้องบอกว่าเป็นเพียงน้ำจิ้มและของขวัญพิเศษแก่แฟน ๆ ดีซีเสียมากกว่า ซึ่งคงต้องรอในอนาคตล่ะนะว่าทางวอร์เนอร์จะสานต่อตัวละครโจ๊กเกอร์ของเลโทยังไง

ดาร์คไซด์ (Darkseid)


ตัวร้ายคู่ปรับใหญ่สุดของจัสติสลีก ที่เป็นหัวหน้าของ Steppenwolf มีลูกน้องอีกสองคนมือซ้ายกับมือขวาตามประกบ ซึ่งทั้งหมดจะโผล่ออกมาให้เห็นกันหลายฉากจากที่เวอร์ชั่นก่อนไม่ได้เห็นหน้าตาอะไรเลย โดยการปรากฎตัวจะผ่านแท่งหินที่แปรสภาพเป็นร่างจำลองคุยสั่งงานกับ Steppenwolf ทุกครั้งที่มีความคืบหน้า และก็มีฉากต่อสู้ในอดีตที่มาโลกครั้งแรก

รีวิว Zack Snyder's Justice League

โดยรวม


โดยภาพรวมแล้วต้องบอกว่า ‘Zack Snyder’s Justice League’ ถือว่าเติมเต็มจุดบกพร่องและช่องโหว่ของเรื่องราวได้ดีทีเดียวแม้บทหนังของ คริส เทอริโอ (Chris Terrio) จะยังมีช่องโหว่ตรงการเฉลี่ยน้ำหนักให้ตัวละครแต่ละตัวอยู่บ้างหรือบทสรุปที่หนังก็เลือกจะปลายเปิดไว้เพื่อรอหนังภาคต่อไปหรือหนังในจักรวาลมาสานต่อจนบางประเด็นยังไม่เคลียร์อยู่บ้าง


แต่อย่างน้อยการที่พ่อและแม่ตระกูลสไนเดอร์กลับมาสานต่อเรื่องราวโดยยังคงหัวใจของประเด็นครอบครัวพร้อมบทสรุปที่หนังตั้งชื่อว่า ‘ได้เป็นพ่อถึงสองครั้ง’ ก่อนจะจบด้วยตัวอักษรแด่ ออทัมน์ สไนเดอร์ (For Autumn) แล้วก็คงยากที่เราจะไม่คารวะหัวใจของ แซ็ก สไนเดอร์ และ เดบอราห์ สไนเดอร์


สรุป


สำหรับแฟนหนัง DC นี่คืองานที่แสดงพลังของเหล่าแฟนคลับที่พร้อมสนับสนุนฮีโร่ที่พวกเขารัก ส่งต่อเสียงทั้งด้านบวกและลบ จนเขาได้ดูผลงานที่คู่ควรต่อความรักที่พวกเขามี สมการรอคอยตลอด 4 ปี สำหรับสตูดิโอ Warner Bros นี่คืองานที่ช่วยกอบกู้วิกฤติศรัทธาของแฟนๆ


และแสดงให้เห็นว่าแนวคิดทางธุรกิจไม่ควรเข้าไปแทรกแซงแนวคิดทางศิลปะมากจนเกินไป สำหรับวงการภาพยนตร์ นี่คือเรื่องราวมหัศจรรย์บนประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นว่าพลังของภาพยนตร์นั้นมีมากมายแค่ไหน


แม้ว่ารูปแบบการนำเสนอจะไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันมาตลอดหลายสิบปีก็ตาม และสุดท้ายสำหรับคนดูหนังทั่วไป นี่คือโอกาสที่ 2 ที่เราจะได้ดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ดีๆ เรื่องหนึ่ง

ดู 66 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

It Chapter Two

The Nun

Don’t Listen

Comentários


bottom of page