top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

Yes Day


ดูหนังฟรี

รีวิว Yes Day - เยสเดย์ วันนี้ห้ามเซย์โน

เยสเดย์ วันนี้ห้ามเซย์โน หนังครอบครัวที่ว่าด้วยเรื่องของคุณแม่จอมเฮี้ยบที่โดนลูกๆ เกลียดชัง จนเธอต้องขอเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยการให้วันพิเศษแก่ลูก ที่วันนี้เธอจะไม่ปฏิเสธสิ่งที่ลูกต้องการทุกอย่าง หนังครอบครัวเบาๆ ของเน็ตฟลิกซ์ที่พล็อตมาจากวิธีการเลี้ยงลูกแบบพิเศษ ด้วยการให้ลูกมีอภิสิทธิ์เหนือพ่อแม่ 1 วัน เป็นรางวัลให้กับลูกที่อาจจะรู้สึกว่าพ่อแม่ตีกรอบชีวิตของเด็กมากไป ซึ่งก็เป็นจิตวิทยาการเลี้ยงลูกแบบหนึ่ง ตัวหนังเรื่องนี้จึงเอามาใช้เป็นพล็อตเรื่อง รีวิว Yes Day


เรื่องย่อ


อลิสัน คุณแม่สมัยสาวๆ กับคนเป็นพ่ออย่าง คาร์ลอส ทั้งคู่ต่างเป็นคนสบายๆ นึกจะทำอะไรก็ทำ มีอิสระตลอด แต่เมื่อมีลูก 3 ในปัจจุบันกลับเป็นอะไรตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง แม่กลายมาเป็นสาวเฮี้ยบที่เข้มงวดลูกทั้งสามแบบจุกจิกเอามากๆ ต่างกับพ่อที่เล่นบทแสนดีให้ลูกได้หมด


จนกลายเป็นปัญหาครอบครัวเมื่อลูกรู้สึกกดดันจนเอาไประบายผ่านการเรียน จนครูประจำชั้นต้องเรียกทั้งคู่มาทำความเข้าใจ และก็กลายมาเป็นทางออกให้ทั้งคู่ทดลองเลี้ยงลูกแบบใหม่โดยมีวันเยสเดย์ที่จะไม่ปฏิเสธสิ่งที่ลูกขอตลอดวัน โดยมีกฎห้ามบางอย่างไว้นิดหน่อยเท่านั้น


 

เยสเดย์ วันนี้ห้ามเซย์โน หนังครอบครัวที่ว่าด้วยเรื่องของคุณแม่จอมเฮี้ยบที่โดนลูกๆ เกลียดชัง จนเธอต้องขอเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยการให้วันพิเศษแก่ลูก ที่วันนี้เธอจะไม่ปฏิเสธสิ่งที่ลูกต้องการทุกอย่าง

หนังครอบครัวเบาๆ ของเน็ตฟลิกซ์ที่พล็อตมาจากวิธีการเลี้ยงลูกแบบพิเศษ ด้วยการให้ลูกมีอภิสิทธิ์เหนือพ่อแม่ 1 วัน เป็นรางวัลให้กับลูกที่อาจจะรู้สึกว่าพ่อแม่ตีกรอบชีวิตของเด็กมากไป ซึ่งก็เป็นจิตวิทยาการเลี้ยงลูกแบบหนึ่ง ตัวหนังเรื่องนี้จึงเอามาใช้เป็นพล็อตเรื่อง


เนื่อเรื่อง


เล่าเรื่องราวของแอลลิสัน (เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์) หญิงสาวผู้มองโลกในแง่บวก รักการผจญภัย เธอมักจะมองสิ่งต่างๆรอบตัวเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า ดังนั้นเธอจึงมักจะตอบรับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตด้วยคำว่า “โอเค ใช่ เอา ตกลง” (Yes) อยู่เสมอ


จนกระทั่งเธอได้พบกับชายหนุ่มที่ชื่อคาร์ลอส (เอ็ดการ์ รามิเรซ) หนุ่มหล่ออารมณ์ดีแต่แอบขี้กลัว ทั้งสองตกหลุมรักกันและแต่งงานในที่สุด แต่แล้วเมื่อทั้งสองคนมีลูกด้วยกันถึง 3 คน จากชีวิตที่เชย์เยสกันมาตลอด แอลลิสันและคาร์ลอสก็ต้องเชย์โนกันแทบไม่ว่างเว้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกหรือเรื่องงาน

วันเวลาผ่านไป แอลลิสันกลายเป็นคนเครียดและดูเป็นมารร้ายประจำบ้าน ในขณะที่คาร์ลอสซึ่งเป็นพนักงานดูหนังฟรีฝ่ายกฎหมายของบริษัทไอทีก็ต้องคอยห้ามปรามเพื่อนร่วมงานไม่ให้ทำอะไรสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง


จนกระทั่งวันหนึ่งทางโรงเรียนได้เรียกแอลลิสันและคาร์ลอสไปประชุมผู้ปกครองเพื่อแสดงให้เห็นปัญหาว่า ตอนนี้ลูกๆของพวกเธอมองแอลลิสันเป็นคุณแม่จอมเผด็จการ แม้จะเสียใจอยู่ลึกๆ


ไม่นานนักทั้งสองได้พบกับมิสเตอร์ดีคอน (แนท ฟาซอน) ที่แนะนำให้ทั้งสองให้รางวัลกับลูกๆด้วยการกำหนดวัน Yes Day ขึ้นมาเพื่อตอบตกลงในสิ่งที่ลูกๆพวกเขาจะขอในวันนั้น ซึ่งห้ามปฏิเสธพวกเขาโดยเด็ดขาด


เพื่อเป็นการเชื่อมสายสัมพันธ์ของครอบครัวกลับมา แอลลิสันและคาร์ลอสจึงตอบตกลงกับลูกๆให้มีวัน Yes Day แต่แน่นอนว่าวันดังกล่าวจะต้องนำมาซึ่งเรื่องราวอันแสนโกลาหล อันนำมาซึ่งเรื่องปวดหัวให้กับสองพ่อแม่รับมือกันชนิดที่พวกเขาเองก็คาดไม่ถึง


การเล่าเรื่อง


หนังเล่าเรื่องง่ายมากและไม่มีอะไรซับซ้อน และเอาเข้าจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยจะมีอะไรแปลกใหม่ มันก็คือหนังแนวครอบครัวปรับความเข้าใจกัน แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่มันก็สามารถกลับมาได้ ไม่ต่างกับหนังแนวครอบครัวเรื่องอื่น ๆ เลย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจมากนัก ความน่ารักของเด็ก ๆ ก็เป็นเรื่องปกติ ที่หนังแนวนี้ต้องมี ในจุดนี้อยู่แล้วก็รู้สึกเฉย ๆ


พล๊อตของเรื่อง


ตัวหนังเรียกว่าไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยแม้แต่นิดเดียว เป็นหนังครอบครัวที่เดินไปแบบตลกนิดๆ ตามสูตรสำเร็จว่าพ่อแม่ต้องมาเจอกับคำขอลูกจอมป่วนในแบบต่างๆ ตั้งแต่นัดกินไอสครีมชุดใหญ่ให้ทันเวลากินฟรี เข้าค่ายเล่นเกม เข้าไปล้างรถแบบเปิดกระจก ซึ่งก็มีตลกนิดๆ กับความที่พ่อแม่ต้องลดตัวลงมาทำอะไรแปลกๆ ห่ามๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนพร้อมกับลูก เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนใหม่


หนังมาหักลำนิดๆ ตอนก่อนจบเมื่อทั้งคู่มีปัญหาในงานเทศกาลแห่งหนึ่งจนต้องเข้าคุกไปชั่วคราว ก็เปิดโอกาสให้เด็กทั้งสามได้อิสระไม่มีพ่อแม่มาห้าม พวกเขาจึงใช้โอกาสนี้ทำสิ่งที่พ่อแม่ไม่ให้ทำแน่ๆ แม้จะเป็นวันเยสเดย์


ซึ่งตัวเรื่องก็เปิดโอกาสให้เด็กได้ลองทำอะไรตามใจดู แต่แล้วก็แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่แย่ตามมา ซึ่งเด็กไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้เอง และเริ่มรู้สึกผิด ก่อนที่พ่อกับแม่จะกลับมาช่วยแก้ปัญหาให้

และก็กลายเป็นกาวใจให้ครอบครัวเข้าใจกันในที่สุด พร้อมทั้งสอดแทรกแนวคิดว่าการเลี้ยงลูกทั้งแบบปล่อยกับเข้มงวด ต่างมีข้อดีแตกต่างกัน ควรจะยืดหยุ่นทำทั้งสองอย่างบาลานซ์กันจะดีกว่า


สูตรสำเร็จหนังครอบครัว


ด้วยความเป็นหนังตลกเบาสมอง Yes Day จึงไม่ใช่หนังที่เน้นประเด็นครอบครัวอันแสน ซีเรียสเคร่งเครียดมากมายนัก หนังดำเนินเรื่องตามสูตรสำเร็จหนังครอบครัวทุกกระเบียดนิ้ว โดยที่ตัวหนังเองก็มีแก่นของเรื่องที่เหนียวแน่นมาก


คือความรักความเข้าใจกันระหว่างคนในครอบครัวซึ่งถือเป็นสายใยที่ยึดโยงสมาชิกเข้าหากัน แม้ว่าบางครั้งหนังออนไลน์ความเห็นของแต่ละคนจะไม่ตรงกัน แต่พวกเขาก็ต้องเรียนรู้กันไป ท่ามกลางความผิดพลาด เพื่อทำความเข้าใจ พวกเขาก็จะรักกันมากขึ้นและมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของ “ความรัก” จากคนเป็นพ่อเป็นแม่

รีวิว Yes Day

จุดที่ชอบ


บางครั้งการตีกรอบของพ่อและแม่ ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกนั้นจะเจริญเติบโตเป็นคนดีได้อย่างที่เราหวังเสมอไป และหลายครั้งที่เราเหมือนว่ารู้จักลูกมาก


แต่แท้จริงแล้วเราก็แทบจะรู้จักเขาน้อยมากเช่นกัน แล้วเมื่อโลกมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น พ่อและแม่จะสอนลูกแบบเดิม ๆ ไม่ได้อีกแล้ว นี่เป็นมุมมองที่หนังทำให้เห็นในมุมของพ่อแม่ กับการเลี้ยงลูกในยุคปัจจุบัน


ที่ชอบมากก็คือหนังไม่ได้ทำให้เราเห็นแค่มุมมองในมุมมองเดียว ยังทำให้เห็นในมุมตรงกันข้าม ทำให้เห็นว่าการเตือนการห้ามของพ่อแม่นะ แม้จะยุ่งวุ่นวาย ดูเป็นเรื่องยุ่งยาก และเป็นการทำร้ายความรู้สึกของลูก แต่เมื่อลูก ๆ ต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ ที่ต้องใช้คำว่าไม่ และคำว่าห้าม แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครสนใจ


หนังนำเสนอในประเด็นนี้านทางสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี เช่นการที่ลูกสาวคนโตหนีไปชมคอนเสิร์ตกับเพื่อน แล้วเธอก็ได้เห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่มันไม่สมควร


ซึ่งเธอก็สามารถยับยั้งชั่งใจ อันเป็นผลมาจากการที่ถูกพ่อแม่เพาะบ่มสั่งสอนซึ่งเป็นเกราะในการคุ้มกันตัวได้อย่างดี หรือในสถานการณ์ที่ลูกชายคนรองชวนเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้ทดลองวิทยาศาสตร์ เขาไม่สามารถห้ามเพื่อน ๆ ได้ จึงส่งผลทำให้บ้านเกือบพังทั้งหลัง


โดยรวม


โดยรวมแล้ว Yes Day วันนี้ห้ามเซย์โน เป็นหนังครอบครัวเบาสมอง ที่ดูแล้วก็ทำให้รู้สึกอมยิ้มไปตลอดทั้งเรื่อง หากคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้รับชมก็จะสามารถกลับมาทบทวนวิธีการเลี้ยงลูกว่าสิ่งที่ควรหรือไม่ ส่วนตัวลูกเอง หากดูเรื่องนี้แล้ว และทบทวนว่าสิ่งที่พ่อแม่ห้ามนั้นมันมีเหตุผลอย่างไร


ตัวหนังเหมาะกับคนดูแนวครอบครัวที่มีลูกจะดูสนุก และรู้สึกอยากเปิดให้มีวันเยสเดย์แบบนี้บ้าง ซึ่งก็คงได้อะไรกลับไปมากแบบที่ตัวหนังแสดงให้ดู แต่ถ้าเป็นคนทั่วไปหนังเรื่องนี้ก็แทบไม่มีอะไรน่าจดจำนัก เพราะทั้งพล็อตและตัวเรื่องจริงมันเรียบสนิทมากจนเกินไปเหมือนกัน


สรุป


หนังทำออกมาเหมาะกับคนมีครอบครัวลูกๆ ดูไว้เป็นแนวคิดการเลี้ยงลูกแบบใหม่ที่เป็นไอเดียที่ดีเลย แต่ถ้าไม่ใช่คนดูแนวนี้ผ่านไปได้เลยเพราะตัวเรื่องเรียบสนิทขาดความแปลกใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น

ดู 106 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

It Chapter Two

The Nun

Don’t Listen

Comentários


bottom of page