รีวิว Willy's Wonderland - หุ่นนรก VS ภารโรงคลั่ง
ถ้าคุณกำลังมองหาหนังบ้าระห่ำ สาระไม่เน้น เน้นเอาความสะใจและโหดเลือดสาดแบบไม่แคร์สิ่งใดในโลก พล็อตคือสวนสนุกร้างวิลลี่ วันเดอร์แลนด์กำลังมองหาบุคคลใจกล้าเข้ามาทำความสะอาดสวนสนุกเป็นเวลาหนึ่งคืนเพื่อแลกกับค่าจ้างเพื่อเอาเงินไปซ่อมรถยนต์ ปัญหาอยู่ที่ว่าเดิมพันครั้งนี้เค้าจะต้องแลกมันด้วยชีวิต เพราะในสวนสนุกร้างแห่งนี้มีหุ่นนรกผีสิง (หรือไม่มีผีนะ) อย่างอย่าง วิลลี่ หุ่นพังพอนปีศาจ, อาร์ตี้ หุ่นจระเข้สุดสยอง, กัส หุ่นกอริลล่าโคตรคลั่ง และ ออสซี่ หุ่นนกกระจอกเทศนักฆ่า รีวิว Willy's Wonderland
เรื่องย่อ
นักซิ่งผู้เงียบขรึมต้องตกกระไดพลอยโจนมาเป็นภารโรงจำเป็น เพื่อหาเงินซ่อมรถในชนบทห่างไกลความเจริญ ทว่าสถานที่ที่เขาต้องอยู่โยงข้ามคืนทำความสะอาดนั้นกลับเป็นสวนสนุกที่มีตำนานลี้ลับซึ่งผู้คนที่เข้าไปต่างไม่เคยได้ออกมา แต่ตำนานที่ว่า จะต้องถูกเล่าใหม่เสียแล้วเมื่อมาอยู่ใต้การดูแลของภารโรงสุดแกร่งคนนี้ และอาจเป็นบรรดาผีที่น่าสงสารแทน
ถ้าคุณกำลังมองหาหนังบ้าระห่ำ สาระไม่เน้น เน้นเอาความสะใจและโหดเลือดสาดแบบไม่แคร์สิ่งใดในโลก พล็อตคือสวนสนุกร้างวิลลี่ วันเดอร์แลนด์กำลังมองหาบุคคลใจกล้าเข้ามาทำความสะอาดสวนสนุกเป็นเวลาหนึ่งคืนเพื่อแลกกับค่าจ้างเพื่อเอาเงินไปซ่อมรถยนต์
ปัญหาอยู่ที่ว่าเดิมพันครั้งนี้เค้าจะต้องแลกมันด้วยชีวิต เพราะในสวนสนุกร้างแห่งนี้มีหุ่นนรกผีสิง (หรือไม่มีผีนะ) อย่างอย่าง วิลลี่ หุ่นพังพอนปีศาจ, อาร์ตี้ หุ่นจระเข้สุดสยอง, กัส หุ่นกอริลล่าโคตรคลั่ง และ ออสซี่ หุ่นนกกระจอกเทศนักฆ่า
หน้าหนังขาย นิโคลัส เคจ แบบดึงความสนใจคนดูได้อยู่หมัด ด้วยบุคลิกแบบชายแกร่งที่ไม่พูดอะไรสักคำทั้งเรื่อง เหมือนพวกพระเอกหนังแอ็กชันหุ่นล่ำบึ้กยุคเก่าอย่าง อาร์โนลด์ หรือ สตอลโลน อย่างไรอย่างนั้น เมื่อบวกกับตัวหนังที่มาอารมณ์สยองขวัญเกรดบี ที่ชวนนึกถึงหนังอย่าง Child’s Play เพราะเล่นกับสวนสนุกสำหรับเด็กเป็นฉากหลัง แถมมีศูนย์กลางเรื่องราวเป็นหุ่นแฟนซีผีสิงที่ออกไล่ฆ่าคนอีก
คือถ้าใครเคยนึกเล่น ๆ แบบว่า ถ้าในหนังตระกูลชักกี้ ไม่ได้มีแต่เหยื่อโง่ ๆ ง่อย ๆ แต่กลายเป็นพวกแรมโบ้ หรือคนเหล็กแทนล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น หนังเรื่องนี้ทำหน้าที่ตอบคำถามที่โคตรน่าสนใจนี้อย่างไม่มีออมมือ เพราะแค่ 20 นาทีแรกก็พลิกทุกความเชื่อในหนังสยองขวัญราบคาบ และนั่นคือเหตุผลที่มากพอแล้วที่เราควรสละเวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่งผลาญอะดรีนาลีนไปกับการหาคำตอบบ้า ๆ นี้
เจเรมี่ แดเนียล เดวิส โปรดิวเซอร์ของหนังกำลังมองหาหนังที่จะแจ้งเกิดให้ตัวเอง แต่ด้วยความที่เขาไม่เคยโปรดิวซ์หนังฮอลลีวูดมาก่อน แต่ก็พอมีประสบการณ์การทำงานในวงการบันเทิงในฐานะนักแสดงและผู้ช่วยผู้กำกับ จนกระทั่งเมื่อภรรยาของเขาได้นำบทคัดย่อของพาร์สันมาให้ลองอ่าน
เขาก็รู้เลยว่านี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดี เขาเลยให้ภรรยาติดต่อถามพาร์สันว่าตอนนี้มีบทภาพยนตร์ที่เสร็จสมบูรณ์แบบพร้อมเปิดกล้องถ่ายทำได้หรือยัง หลังจากที่ติดต่อไปเขาก็ส่งบทมาให้อ่านทันทีและพบว่า Willy’s Wonderland เป็นหนังที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สำหรับหน้าที่ในการกำกับได้เควิน ลูอิสมารับหน้าที่ในการเล่าเรื่อง เขาตื่นเต้นมากที่จะได้มากำกับหนังที่หุ่นสัตว์น่ารักกลับมีชีวิตขึ้นมา แถมบ้าเลือดไล่ฆ่าคน แถมการที่ตัวเอกของเรื่องเป็นภารโรงที่ไม่มีบทพูดเลยสักประโยคเดียวยิ่งเปิดช่องให้หนังสามารถเล่นสนุกกับงานภาพได้มากขึ้นอีก
ประกอบกับการที่ตัวของลูอิสเองได้เติบโตมาพร้อมกับหนังยอดฮิตในช่วงปี 80 ทำให้เขาเติบโตมาพร้อมกับหนังอย่าง Star Wars หนังสือการ์ตูน การไปเดินในงานคอมมิคคอน หนังสยองขวัญอย่าง Evil Dead ทำให้เขาเป็นแฟนหนังคัลต์
เนื้อเรื่อง
นักซิ่งผู้เงียบขรึมต้องตกกระไดพลอยโจนมาเป็นภารโรงจำเป็น เพื่อหาเงินซ่อมรถในชนบทห่างไกลความเจริญ ทว่าสถานที่ที่เขาต้องอยู่โยงข้ามคืนทำความสะอาดนั้นกลับเป็นสวนสนุกที่มีตำนานลี้ลับซึ่งผู้คนที่เข้าไปต่างไม่เคยได้ออกมา แต่ตำนานที่ว่า จะต้องถูกเล่าใหม่เสียแล้วเมื่อมาอยู่ใต้การดูแลของภารโรงสุดแกร่งคนนี้ และอาจเป็นบรรดาผีที่น่าสงสารแทน
พล็อตเรื่อง
ไอเดียในการสร้างแบบเดียวกับหนังพล็อตบ้าๆอย่างเช่น ฉลามขาวยักษ์ไล่กินคนแถวเมืองชานฝั่ง, ฆาตกรโรคจิตตามล่าพี่เลี้ยงย่านชานเมือง, กลุ่มวัยรุ่นไปลองของที่บ้านร้างจนพบกับครอบครัวที่กินเนื้อมนุษย์ เอามายำรวมกัน
ซึ่งจีโอ พาร์สัน ผู้เขียนบทหนังเรื่องนี้และยังเป็นงานเขียนบทเรื่องแรกอีกต่างหาก ด้วยความที่เป็นหนังงบน้อยไอเดียการเขียนบทจึงสำคัญ จีโอจึงยึดหลักน้อยแต่มากในการเขียน กำหนดให้เรื่องเกิดในสถานที่เดียว ตอนแรกเขาคิดว่าจะนำแสดงเอง แล้วถ่ายทำในโรงรถของเพื่อนด้วยซ้ำ
เพื่อรสชาติดูหนังฟรีที่แปลกใหม่ จีโออยากจะให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ ที่ตัวร้ายมักจะจ้องเล่นงานคนที่อ่อนแอ หรือไม่ก็เอาแต่วิ่งหนีและเที่ยวหลบซ่อนเอาอย่างเดียว แต่คงเป็นเรื่องที่ตลกไม่น้อยถ้าหากพวกมันดันเลือกเหยื่อผิดคน!
ตัวละครหลักของเรื่อง “ภารโรงปริศนา” จึงถือกำเนิดขึ้น ภารโรงไม่มีบทพูด ที่เขาต้องทำในเรื่องก็แค่ทำความสะอาดและห้ำหั่นกับหุ่นในสวนสนุกแห่งนี้ซึ่งประเด็นแบบนี้ยังไม่ค่อยได้เห็นทำเป็นหนัง ไม่เหมือนซอมบี้, บ้านผีสิง, หรือแวมไพร์ที่เราเห็นจนชินตา
บทหนังเรื่องนี้เขียนโดย จี.โอ.พาร์สันส์ นักแสดงหนุ่มตัวประกอบที่หันมาลองเอาดีด้านงานเขียนเป็นเรื่องแรก ด้วยการตั้งต้นคำถามที่เกริ่นมาแล้วได้อย่างน่าสนใจพอ แล้วขยายเส้นเรื่องจากจุดนั้นออกไปให้มากพอจะเล่าเป็นหนังยาวได้ ซึ่งจะว่าไปมันก็ยืนพื้นฐานแบบหนังเกรดบีที่ไม่เน้นความซับซ้อนมาก แต่เปิดช่องให้ผู้กำกับอย่าง เควิน ลูวิส ได้ใส่ฉากบ้า ๆ ลุ้น ๆ มัน ๆ เข้าไปได้มากพอ
นิโคลัส เคจกับบทภารโรง
นี่คือหนังเพี้ยนๆ และการได้นิโคลัส เคจมารับบทเป็นภารโรงที่ไม่มีบทพูดอะไรเลยก็ฟังดูเพี้ยนมากกว่าเดิม หนังเรื่องนี้มีความตลกและน่ากลัวในตัว “ผมไม่เคยได้เข้าฉากกับหุ่นนกกระจอกเทศ จระเข้ เต่า หรือวีเซิลมาก่อน ผมคิดว่าผมจะสนุกตอนทำงานในหนังเรื่องนี้แน่ๆ” คือคำกล่าวของนิโคลัส เคจ
เพราะตัวผู้กำกับเชื่อว่าเคจ น่าจะพร้อมเล่นอะไรใหม่ๆ เพราะเขาเป็นศิลปินและพร้อมที่จะเสี่ยง และดาราหลายๆคนบอกปฏิเสธหนังเรื่องนี้เนื่องจากมันไม่มีบทพูด แต่การที่เล่นหนังแบบไม่มีบทพูดนี่แหละเป็นอะไรที่ยากที่สุด เพราะต้องอาศัยการแสดงผ่านสีหน้าและดวงตา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่นิค ก็ตอบตกลงมาแสดง
อย่างไรก็ตามท่ามกลางความเพี้ยนเหล่านี้หนังใหม่ชนโรง ก็ยังนำมาซึ่งคำถามว่า “ตกลงภารโรงคนนี้เป็นใครกันแน่” รูปร่างลักษณะเคราเฟิ้ม เงียบขรึม แต่ขับรถสปอร์ตคู่ใจ ความลับสุดปริศนานี่เองที่อาจจะทำให้คนดูคาดคะเนไปต่างนานา เขาอาจเป็นพวกโรคจิตหรือมีความหลังอันโหดร้ายก็เป็นได้
เกี่ยวกับตัวหุ่นคลั่ง
การสร้างหุ่นในหนังเรื่องนี้ ทีมงานเลือกใช้นักแสดงจริงมาสวมชุดสูททั้งหมด หมด ยกเว้น นกกระจอกเทศออซซี่ ที่สูงมากกว่าหกฟุตเป็นเหตุให้ต้องใช้เทคนิคการเชิดมาช่วย ชุดหุ่นยนต์ออกแบบโดย เคน ฮอลล์ โดยทั้งแปดตัวถูกออกแบบให้สามารถเปลี่ยนสีหน้าและแววตา เพื่อสื่ออารมณ์ต่างๆ ออกมาได้
แต่แน่นอนว่าภารโรงตัวเอกของเรื่องต้องจัดการกับหุ่นพวกนี้จนเละไม่มีชิ้นดี ทำให้การถ่ายทำต้องเรียงตามลำดับเรื่องราว แถมทั้งแปดตัวก็ไม่มีสำรองด้วย ถ้าพังแล้วคือพังไปเลย ซึ่งแน่นอนว่านักแสดงที่มาสวมชุดเหล่านี้ก็แสดงได้บ้าคลั่งไม่แพ้กับภารโรงของเรื่องเช่นกัน
จุดชื่นชม
ที่ชอบมากคือวิธีคิดให้ตัวเอกต้องสู้กับหุ่นผีหลายสไตล์หลายตัวในระบบทัวร์นาเมนต์ คือเจอทีละตัวเป็นรอบ ๆ แบบเพิ่มความยากขึ้นเรื่อย ๆ ตามรอบเวรที่พระเอกต้องออกมาทำความสะอาดแต่ละครั้ง ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย และเมื่อตัวเอกดูแข็งแกร่งแบบไม่น่าแพ้อะไรในโลกได้
เขาก็เลยเขียนจุดอ่อนให้พระเอกต้องพักดื่มเครื่องดื่มชูกำลังทุก ๆ รอบชั่วโมงทำงาน คล้ายพวกอุลตร้าแมนที่หากหมดเวลาต่อให้มีคนกำลังถูกฆ่าตรงหน้าพี่แกก็ไม่สนใจ ก็เป็นอะไรที่เหวอรับประทานดีเช่นกัน
จุดด้อย
แม้จะมีส่วนที่น่าสนใจพอสมควร แต่ถ้ามองจากผลงานการเขียนบทภาพรวมในระดับหนังเกรดบียุคเก่า พาร์สันส์เองก็ยังไม่ได้ทำให้หนังทวีความน่าสนใจขึ้นจากคำถามนำที่เป็นฐานแรกได้มากนัก ตัวละครรายทางบางตัวน่าสนใจ เช่น ตำรวจหญิงที่เก็บความลับบางอย่างไว้แบบเดาท่าทียากว่าเป็นคนดีหรือคนร้าย แต่ก็แค่นั้นเพราะตัวละครส่วนใหญ่ที่เหลือไม่ต้องใส่มาในหนังเลยจะดีกว่า
ยิ่งการโยนเหยื่อกลุ่มเด็กวัยรุ่นเข้าไปให้หนังได้มีคนอ่อนแอได้ถูกล่าให้ผู้ชมได้ลุ้น อาจมองว่าเป็นความคิดที่ก็ควรเป็นไปแบบนั้น ทว่าตัวละครกลุ่มเด็กที่ว่าก็ไม่ได้เป็นรสปรุงที่หลากหลายสร้างความน่าสนใจในตัวเองขึ้นมาได้เลย จะมีกี่คนก็ดูเป็นแค่เหยื่องี่เง่าที่พร้อมมาตายแบบไม่น่าลุ้นเอาใจช่วยเลยสักนิด เรียกว่าการออกแบบตัวละครนอกจากตัวพระเอก ที่เหลือคือพัง
สรุป
สำหรับ นิโคลัส เคจ นี่ก็ไม่ได้เป็นหนังที่ยากอะไรสำหรับเขา คาแรกเตอร์เงียบใบ้ไร้ภูมิหลังก็ดูลึกลับน่าสนใจในตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งได้ใช้บารมีใบหน้าชวนคิดถึงยุคทองของเขา กับฉากได้โชว์โหดยำตีนใส่เหล่าอสุรกายให้คนดูได้สะใจเต็มอิ่ม ถึงจะไม่ใช่หนังที่ดีเลิศแต่การได้ดูเคจทำอะไรมัน ๆ ง่าย ๆ แบบนี้ มันก็ฟินและผ่อนคลายความเครียดได้ดีนักแล ซึ่งว่ากันตามจริง เอาแค่นี้ล่ะ หนังเรื่องนี้ก็โคตรน่าดูพอแล้ว
Comentarios