top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

Transformers: Age of Extinction


หนังใหม่เต็มเรื่อง

รีวิว Transformers: Age of Extinction - มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์

กับการกลับมาครั้งนี้ สิ่งที่ทุกคนคาดหวังได้เลยก็คือฉากแอคชั่น ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของ Bay ในยุคหลังๆ มันช่างอลังการงานสร้างเสียเหลือเกิน เพราะว่า Transformers: Age Of Extinction นี้ คุณ Bay ได้ใส่ซีนแอคชั่นเข้าไปกว่า 70% ของหนังเลยทีเดียว! เรียกได้ว่าเวลาพักมีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด จากซีนที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ตัดมาอีกทีป๋า Bay ก็ถล่มผู้ชมด้วยห่ากระสุนปืนเสียแล้ว ถ้าว่ากันตามแนวทางแอคชั่น ก็พูดเลยว่าผ่านแบบไม่มีข้อกังขาใดๆ รีวิว Transformers: Age of Extinction


เรื่องย่อ


ห้าปีหลังจากที่เมืองชิคาโกถูกทำลาย มนุษย์หันมาต่อต้านหุ่นยนต์ทุกตัว มีเพียงชายที่เป็นพ่อและนักประดิษฐ์คนนี้เท่านั้นที่พยายามปลุกชีพหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่อาจช่วยกู้โลกได้


 

Michael Bay ผู้ที่มีฉายาว่าเป็นอาฉลองของ Hollywood ผู้ที่เป็นตำนานของการสร้างหนังสุดอลังการระเบิดภูเขาเผากระท่อม กลับมาอีกครั้งกับหนังหุ่นยนต์ยักษ์ที่แปลงร่างได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นการคัมแบคเป็นครั้งที่ 4 แล้ว สำหรับ Transformers: Age Of Extinction หลังจากดั้นด้นสร้างไตรภาคแรกมาได้แบบถล่มทลายพอสมควร


กับการกลับมาครั้งนี้ สิ่งที่ทุกคนคาดหวังได้เลยก็คือฉากแอคชั่น ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของ Bay ในยุคหลังๆ มันช่างอลังการงานสร้างเสียเหลือเกิน เพราะว่า Transformers: Age Of Extinction นี้ คุณ Bay ได้ใส่ซีนแอคชั่นเข้าไปกว่า 70% ของหนังเลยทีเดียว!


เรียกได้ว่าเวลาพักมีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด จากซีนที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ตัดมาอีกทีป๋า Bay ก็ถล่มผู้ชมด้วยห่ากระสุนปืนเสียแล้ว ถ้าว่ากันตามแนวทางแอคชั่น ก็พูดเลยว่าผ่านแบบไม่มีข้อกังขาใดๆ

สิ่งที่ Michael Bay ประสบปัญหาตลอดมาในระยะหลังคือเรื่องของความดราม่า ที่ดูเหมือนพี่แกจะจัดการให้ลงตัวไม่ได้เสียที และใน Transformers: Age Of Extinction ก็ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามให้แกเหมือนเดิม


เพราะถึงแม้ว่าป๋า Bay จะจัดดราม่า พ่อ-ลูก พ่อตา-ลูกเขย หรือแม้กระทั่ง หุ่นยนต์-มนุษย์ ล้วนแล้วแต่ขาดๆ เกินๆ บางซีนก็เค้นมาเสียมากมายล้นจอ ทั้งนี้อาจจะต้องโทษ Mark Wahlberg ที่เล่นใหญ่ใช้ได้แต่มันไม่เข้ากับหนังเลย


หรือบางซีนที่ยัดๆ ดราม่าใส่เข้ามาเพราะคิดว่ามันอาจจะทำให้ตอนท้ายดูเท่ แต่มันไม่ได้ผลตามนั้นเลย ไม่เหมือนตอนพี่แกทำ Armageddon ที่ดราม่าพี่จัดได้เต็มมาก จนหลายคนชื่นชม ก็ต้องยอมรับเลยว่าพาร์ทดราม่า มือเฮียแกตกไปจริงๆ….


เนื้อเรื่องในภาคนี้


เหตุการณ์ในภาคที่ 4 โฟกัสไปที่ครอบครัวของ เค้ด เยเกอร์(มาร์ค วอลเบิร์ก) นักประดิษฐ์และเจ้าของอู่ซ่อมรถที่ประสบปัญหาด้านการเงินจนอาจจะทำให้ลูกสาวของตนอย่าง เทสซ่า(นิโคล่า เพลสซ์) อาจจะไม่มีปัญญาเรียนต่อ แต่แล้วเค้ดก็ไปพบกับรถบรรทุกเก่าคันใหญ่ที่ชำรุดเสียหาย เมื่อนำมาซ่อมแซมแล้วก็พบว่ารถคันนี้แท้ที่จริงคือทรานส์ฟอร์มเมอร์อย่างเจ้าออพติมัส ไพรม์


ด้วยความตื่นตกใจหลังจากที่รัฐบาลได้ออกกฎหมายว่าหุ่นทรานส์ฟอร์มเมอร์นั้นเป็นภัยคุกคาม เมื่อพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทางการทันที เพราะหลังจากเหตุการณ์ในหนังภาคที่ 3 การต่อสู้ในเมืองชิคาโก้นั้นได้ทำให้มนุษย์ล้มตายและบ้านเมืองเสียหายอย่างมากนั่นเอง


ว่ากันตามตรงหนังใหม่เต็มเรื่องส่วนตัวแล้วในช่วงเวลาที่หนังพยายามปูพื้นเรื่องด้วยดราม่าครอบครัวตลอด 1 ชั่วโมงแรกนั้น ถือได้ว่าเป็นความน่าเบื่อซ้ำซาก ประกอบกับการแสดงที่ค่อนข้างแข็งทื่อพอๆกับซีจีของหุ่นทรานส์ฟอร์มเมอร์จึงทำให้เราไม่เชื่อหรืออยากจะเอาใจช่วยตัวละครมนุษย์ในภาคนี้สักเท่าไหร่จริงๆ


แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่เทสซ่าถูกจับขึ้นยานของล็อคดาวน์แล้วเค้ดกับ เชน(แจ็ค เรย์นอร์) ตามขึ้นไปช่วยเธอบนยาน หนังก็เริ่มพาผู้ชมไปเห็นสิ่งอันน่าตื่นตาตื่นใจและน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วย "ขยาย" จักรวาลของทรานส์ฟอร์มเมอร์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เมื่อเราได้พบเห็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว, ความลับของหุ่นทรานส์ฟอร์มเมอร์บางอย่าง ฯลฯ


ด้านของงานภาพ


ในด้านของงานภาพและเอฟเฟ็คต่างๆ ต้องบอกเลยว่าเด็ดดวงทีเดียว สมกับราคาคุยที่ว่าใช้กล้อง 4K ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเพิ่มความคมชัดระดับเทพได้เจ๋งสุดๆ แต่ต้องขอโทษไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า ตัวผมดูไม่ออกจริงๆ ครับ ว่าฉากไหนใช้กล้องไหนถ่าย


เพราะว่าพี่แกจัดแต่ฉากแอคชั่นมาเป็นระลอกๆ แค่มองตามก็แทบจะไม่ทันอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่างานหนังออนไลน์กราฟฟิคพี่แกจับใส่เต็มอยู่แล้ว เพียงแต่การลัำดับภาพที่อาจดูขัดหูขัดตาอยู่บ้าง เนื่องจากว่าหลายๆ ฉากหลายๆ ซีน มันดูโดด ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร เลยทำให้บางทีเสียอรรถรสไปบ้างเล็กน้อย


จุดที่ชอบ


ซึ่งหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นหนังที่สนุกและมันมาก ๆ ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ฉากและภาพกราฟิก และเอฟเฟคต่าง ๆ ทำได้ยิ่งใหญ่อลังการ เป็นหนังที่สร้างความมันระทึกใจได้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งที่ผมชอบที่สุดก็ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดของเหล่า Transformers หุ่นยนต์ร่างยักษ์ที่ต่อสู้ปะทะกันจนรถราตึกรามบ้านช่องถล่มทลาย ยิงกันระเบิดกระจุยกระจาย รวมทั้งความตื่นเต้นที่ได้รับจากมนุษย์สามคนที่พยายามจะช่วยเหลือเหล่า Autobot ด้วย

รีวิว Transformers: Age of Extinction

จุดที่ไม่ชอบ


ส่วนที่ดูจะเป็นส่วนเกินที่สุดของหนังก็คือการที่หนัง “ยัดเยียด” โฆษณาแฝง ที่ต้องเรียกเลยว่าเยอะเกิน และบางซีนก็ดูไม่แนบเนียนจนขัดหูขัดตาพอสมควร แต่อย่างที่ทราบกันตามข่าวก่อนหน้านี้ ว่า Transformers: Age Of Extinction ได้ทุนจากสปอนเซอร์มาค่อนข้างเยอะ


ถึงขนาดที่ต้องลงทุนไปถ่ายเพิ่มที่จีน รวมถึงเพิ่มนักแสดงจีนอีกเพียบ เพียงแต่มันดูไม่ค่อยเนียน เลยกลายเป็นแย่งซีนโฆษณากันเองเสียอย่างนั้น รวมถึงเรื่องเวลาของหนังที่ก็ดูอัดแน่นมาเกือบ 3 ชั่วโมง แทนที่จะได้ดูกันอย่างสนุกตลอดเวลาที่หนังฉาย


และสิ่งที่น่าเสียดายกว่าก็คือการเปิดตัวหุ่นยนต์กลุ่มใหม่อย่างพวกไดโนบอทส์ ซึ่งใช้ประโยชน์จากพวกมันไม่ค่อยคุ้มค่า ปรากฏตัวอยู่ในจอค่อนข้างน้อยและดู "ไร้ความสำคัญ" กับเรื่องราวจนแทบจะกล่าวได้ว่าถ้าจะใส่เข้ามาเพื่อเป็นให้แค่พาหนะให้ออพติมัสขี่ไปรบ ก็ดูทุเรศทุรังไม่สมศักดิ์ศรีตามประวัติความเป็นมาของเจ้าหุ่นพวกนี้เลยจริงๆ


โดยรวม


อย่างไรก็ตามผู้กำกับอย่างไมเคิล เบย์ก็นับได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับหนังแอ็คชั่นที่มีลายเซ็นในการทำหนังที่ชัดเจนมาก นั่นคือฉากแอ็คชั่นจะวินาศสันตะโร ฉิบหาย ย่อยยับเพียงใดก็ตาม แต่ฉากเหล่านี้ก็ดูสนุกเป็นบ้า แต่เมื่อเข้าฉากดราม่าเคร่งเครียดเมื่อไหร่ ตัวหนังจะดูง่อยเปลี้ยขาดความน่าเชื่อถือไปในทันที


และที่สำคัญคือหนังของไมเคิลนั้นมักจะมีความยาวยืดยาดซึ่งถ้าย้อนไปดูผลงานเก่าๆของเขาอาทิ Pearl Harbor (2001), Bad Boys II (2003), The Island (2005), Pain & Gain (2013) ไม่มีเรื่องไหนเลยที่ความยาวต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งชี้ให้เห็นได้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ยอม “ตัดหนัง” ส่วนที่ไมสำคัญทิ้งไปสักเท่าไหร่


สรุป


หนังมีความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง จัดเต็มฉากแอ็คชั่นมันระทึกในช่วงครึ่งหลัง ถ่ายทำออกมาได้ดี มุมกล้องพาสนุกไปกับเรื่อง จะมีไม่น่าประทับใจบ้างก็ช่วงกลางๆ ที่เริ่มย้ายมาเล่าในฝั่งเอเชียที่ภาพสั่นไหวจนมองอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน หนังลดตัวละครฝั่งออโตบ็อทลง แต่ก็เพิ่มตัวละครหุ่นใหม่ๆ เข้ามาเพียบ โดยเฉพาะหุ่นไดโนเสาร์ที่ดู…ที่เข้ามาร่วมรบด้วย แถมภาคนี้ยังเต็มไปด้วยโฆษณาสินค้า tie-in ที่ออกมาเต็มๆ ตา

ดู 5 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

It Chapter Two

The Nun

Don’t Listen

Comments


bottom of page