top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

The Swarm


ดูหนังฟรี

รีวิว The Swarm - ตั๊กแตนเลือด

หนังสยองขวัญแนวสัตว์กินคนที่ไม่ค่อยมีมาให้เห็นในปัจจุบันนัก ยิ่งจากฝรั่งเศสด้วยไม่ค่อยเห็นแนวนี้มาก่อน เพราะหนังฝรั่งเศสมักมีสไตล์การกำกับแบบเนิบๆ เนือยๆ ไปตลอดเรื่องจนจบ และเรื่องนี้ก็ยังหนีไม่พ้นอารมณ์แบบที่ว่านี้เช่นกัน เป็นหนังที่ผ่านเวทีการประกวดภาพยนตร์นานาชาติมาหลายเวทีในปีที่แล้ว ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและรางวัลคณะลูกคุณพิเศษ (Special Prize of the Jury) จากเทศกาลภาพยนตร์ซิดจัส (Catalonian International Film Festival) ประเทศสเปน รีวิว The Swarm


เรื่องย่อ


เรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวเวอร์จินี (ซูเลียน บราฮิม) พยายามยืนหยัดด้วยตนเองหลังจากสูญเสียสามี ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวไป เธอเลือกทำเกษตรกรรมฟาร์มตั๊กแตนห่า (locust) และนำรายได้จากการขายโปรตีนจากตั๊กแตนมาใช้จ่ายเลี้ยงครอบครัว


เธอมีลูกสองคน ลอร่า (มารี นาร์บอนน์) ลูกสาวอายุ 15 ปี และ แกสตรอง (ราฟาเอล โรมองด์) ลูกชายอายุ 7 ปี แต่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ใจคิด ฟาร์มของเธอประสบปัญหา ตั๊กแตนไม่ค่อยโตและวางไข่ได้น้อย ทำให้ขายไม่ได้ราคา แต่ระหว่างพยายามหาทางกำจัดหนี้ที่เกิดจากปัญหาการทำฟาร์ม


ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเธอรู้ว่าหากตั๊กแตนได้กินเลือดจะแข็งแรงและวางไข่ดี เมื่อความโลภเดินคู่ขนานกับความจำเป็นต้องเอาชีวิตรอด เวอร์จินีพร้อมทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว เธอจึงยอมใช้เลือดของเธอเป็นอาหารให้ตั๊กแตน


 

หนังสยองขวัญแนวสัตว์กินคนที่ไม่ค่อยมีมาให้เห็นในปัจจุบันนัก ยิ่งจากฝรั่งเศสด้วยไม่ค่อยเห็นแนวนี้มาก่อน เพราะหนังฝรั่งเศสมักมีสไตล์การกำกับแบบเนิบๆ เนือยๆ ไปตลอดเรื่องจนจบ และเรื่องนี้ก็ยังหนีไม่พ้นอารมณ์แบบที่ว่านี้เช่นกัน


ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นแฟนหนังสัตว์กินคนคนหนึ่งที่ดูมาตั้งแต่อดีต หนังพวกนี้คือต้องพยายามหาไอเดียสัตว์ตัวใหม่ๆ มาขายไม่ให้ซ้ำใคร คือจะมีสัตว์แบบนี้มากินคนก็มีได้แค่เรื่องเดียวหรือสองเรื่อง ยกเว้นพวก ฉลาม จระเข้ งู สัตว์ยอดฮิตพวกนี้มีทำซ้ำมาเรื่อยๆ


ซึ่งตั๊กแตนก็เคยมีมาก่อนแล้วในหนัง Locusts ปี 2005 เป็นแนวตั๊กแตนที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมหลุดออกมา แต่ดันไม่ได้กินคนแค่ทำลายพืชผลหนักจนรัฐบาลต้องออกมาปราบ ซึ่งก็ผิดหวังที่มันไม่ได้กินคนนี่แหละครับ


มาเรื่องนี้ก็เกือบจะคล้ายๆ กันเมื่อหน้าหนังเป็นแนวตั๊กแตนกินคน แต่ในเรื่องจริงๆ แทบจะเป็นหนังแนวแม่โรคจิตพยายามทำฟาร์มตั๊กแตนให้สำเร็จให้ได้ แม้จะต้องใช้เลือดมาเลี้ยงก็ตาม โดยฉากกินคนที่รอดูไปอยู่เอาท้ายสุดของเรื่องใกล้จบสิบนาทีสุดท้าย


ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนแนวนี้อยากดูแค่ฉากพวกนี้ก็ข้ามๆ ไปดูได้เลยก็ได้ครับ เพราะทั้งเรื่องมันเน้นวนเวียนกับดราม่าครอบครัวพ่วงปัญหาธุรกิจฟาร์มแมลงซะมากกว่า


เนื้อเรื่อง


เรื่องราวของเวอร์จินี (ซูเลียน บราฮิม) หญิงวัยกลางคนที่กลายเป็นม่ายลูกติด หลังจากสูญเสียสามีผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวไป เนื่องจากครอบครัวเธอมีพื้นที่ เหมาะแก่การทำเกษตรกรรมทำให้เวอร์จินีตัดสินใจทำฟาร์มตั๊กแตน


เพื่อนำโปรตีนจากสัตว์ชนิดนี้ไปขายต่อให้กับเกษตรกรอีกกลุ่ม แต่ดูเหมือนธุรกิจของเธอจะเต็มไปด้วยปัญหาเนื่องจากตั๊กแตนให้ผลผลิตน้อยกว่าที่คิด และยังเจอลูกค้ากดราคาอีกต่อหนึ่งด้วย


นอกจากปัญหาในการหาเงินเลี้ยงชีพแล้ว ปัญหาครอบครัวก็หนักหน่วงไม่แพ้กันเมื่อเวอร์จินียังต้องรับมือกับลูกสาวอย่างลอร่า (มารี นาร์บอนน์) ที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเป็นวัยรุ่นอารมณ์ร้อน เธอมักจะโดนเพื่อนในวัยเดียวกันล้อเลียนว่าแม่ของเธอต้องมาเลี้ยงตั๊กแตนยังชีพ


จนเธอโดนมองว่าเป็นตัวประหลาด ส่วนลูกชายคนเล็กอย่างแกสตรอง (ราฟาเอล โรมองด์) ซึ่งมีปัญหาสุขภาพร่างกายอ่อนแอ ยิ่งทำให้คนดูเห็นว่าครอบครัวของเวอร์จินีมีความตึงเครียดที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ


ความเนิบช้าของ The Swarm คือการพาผู้ชมค่อยๆด่ำดิ่งไปกับความสิ้นหวังของเวอร์จินีที่ดูเหมือนจะอับจนหนทางกับการทำมาหากิน เมื่อเธอไม่สามารถนำพาธุรกิจด้านการเกษตรให้ตัวเองและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ เมื่อเธอค้นพบว่า สิ่งที่ทำให้ฟาร์มตั๊กแตนของตัวเองสามารถสร้างผลผลิตที่งอกงามได้ด้วยการ “เลี้ยงด้วยเลือด” เธอจึงไม่รีรอแม้แต่น้อยที่จะเลือกหนทางดังกล่าว


แน่นอนในสายตาของผู้ชมดูหนังฟรีบางส่วนอาจจะมองว่าเวอร์จินีเป็นตัวละครโรคจิตที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงิน แต่เมื่อเฝ้ามองบริบทของเธอแล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงผู้แบกทุกอย่างไว้บนบ่าเลือกจะเดินไปในเส้นทางดังกล่าว


ฉากที่เธอกรีดแขนตัวเองก่อนจะยื่นมือเข้าไปในโดมเพาะเลี้ยง ก่อนจะเผยใบหน้าอันแสนเจ็บปวด หลังจากนั้นหนังก็ซูมเข้าไปในบาดแผลของเวอร์จินีเพื่อให้คนดูได้เห็นเศษขาตั๊กแตนที่อยู่ในแผล ซึ่งเธอพยายามกำลังคีบออกมา


ไม่ได้เป็นแค่เพียงฉากขายความแหวะน่าสะอิดสะเอียนเท่านั้น แต่มันยังสะท้อนให้คนดูเข้าใจอีกว่าความเป็นปวดที่เธอเลือก เวอร์จินีตัดสินใจทำเพราะเธอเลือกแล้วที่จะแลกความเจ็บปวด กับเงินทองที่จะมาจุนเจือเยียวยาครอบครัวของตัวเอง


การดำเนินเรื่อง


ช่วง 30 นาทีแรกตัวเรื่องปูวนเวียนกับเรื่องปัญหาดราม่าครอบครัวพ่วงธุรกิจฟาร์มแมลงของนางเอก จนกระทั่งวันหนึ่งนางเกิดพลาดลื่นล้มในโรงเรือนจนได้แผล ตั๊กแตนมารุมกินเลือด ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องที่คนดูแนวหนังสัตว์กินคนคิดว่ามันต้องมาแล้วฉากกินคนที่รออยู่


แต่กลายเป็นว่าหนังก็ยังไม่เดินไปในทิศทางนั้นเลย กลายเป็นการสานต่อแนวธุรกิจแมลงของเธอต่อไปอีก เมื่อเธอก็ได้เห็นว่าแมลงเติบโตดี ก็เริ่มขยายฟาร์มใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ และก็ปกปิดความลับเรื่องการเอาเลือดตัวเองพ่วงกับการขโมยสัตว์เลี้ยงเพื่อนบ้านอย่าง หมา วัว มาให้ตั๊กแตนกิน


ก่อนเอาแมลงไปขายเป็นอาหารสัตว์ให้คนเลี้ยงเป็ดทำฟัวกราส์ (ตับเป็ดตับห่าน) ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศส ซึ่งเอาจริงๆ ผู้เขียนคิดว่าอาจจะไม่ต้องไปแนวกินคนแล้วก็ยังได้ แต่ทำเป็นแนวแหวะว่าเลี้ยงแมลงด้วยเลือดอะไรแบบนี้ก็น่าจะดี


แต่หนังก็ไม่ได้จะเน้นแหวะแบบนั้นอีก ถึงจะมีฉากเน้นเลือดสัตว์ แผลจากแขนนางเอกที่ตั๊กแตนรุมกิน หรือฉากโคลสอัพตั๊กแตกกินเลือด แต่มันก็ทำได้แค่สยองนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ถึงใจอะไรมาก อาจจะรู้สึกว่านี่เป็นหนังที่โฟกัสไปที่ผู้หญิงโรคจิตอยากเลี้ยงแมลงให้สำเร็จเพื่อครอบครัวซะมากกว่า


และจุดนี้เองก็เป็นปัญหาใหญ่ของเรื่องจากความไม่เมคเซนส์ประหลาดๆ ตรงที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงตั๊กแตนอย่าง ทำไมนางเอกต้องขโมยสัตว์เลี้ยงเพื่อนบ้านไปให้ตั๊กแตนกิน ซึ่งถ้ามองว่าในเรื่องนางพยายามให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ


การหาเป็ดไก่หรือสัตว์เล็กอย่างอื่นมาให้ตั๊กแตนน่าจะง่ายกว่าเยอะ แถมยังทำได้ต่อเนื่องไม่มีปัญหาต้องไปขโมยใครด้วย หรือการหาเลือดสัตว์ในฝรั่งเศสก็ดูหายากแบบไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลนัก (ในเรื่องบอกว่านางเอกไม่ได้เข้าสมาคมเกษตรเลยขายเลือดให้ไม่ได้)


แถมตัวนางเอกนอกจากขโมยสัตว์มาให้ตั๊กแตนกินแล้ว ตัวเธอเองก็ยังต้องเอาตัวไปให้ตั๊กแตนกัดกินเลือดบ่อยๆ อีกด้วย จนมาเป็นปมว่าเธอต้องใส่เสื้อมิดชิดตลอดเรื่อง ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปก็ได้ แค่ถ่ายเลือดมาให้ตั๊กแตนกินก็น่าจะพอแล้ว แต่ในเรื่องก็ไม่ได้มีคำตอบอะไรพวกนี้ให้เลยครับ


ด้านนักแสดง


ตัวละครหลักของเรื่องมีด้วยกัน 4 คน คือ


เวอร์จินี (ซูเลียน บราฮิม)

แม่เลี้ยงเดี่ยวผู้คลั่งไคล้การเลี้ยงตั๊กแตน โดยคาดหวังรายได้จากการเลี้ยงตั๊กแตนและยอมทำทุกอย่างเพื่อประสบความสำเร็จถึงแม้จะผิดก็ตาม


ซูเลียนถือเป็นคนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกน่าติดตาม แสดงออกมาได้ธรรมชาติ ดูแล้วเข้าถึงอารมณ์ความเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่พยายามต่อสู้ดิ้นรน เพื่อฐานะทางการเงินของครอบคร้ว แสดงดีจนได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์ซิดจัส 2020


คาริม (โซเฟียน กัมม์)

เจ้าของไร่ไวน์เพื่อนของเวอร์จินี เขาสนับสนุนเวอร์จินีทุกอย่าง และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับลูก ๆ ของเวอร์จินีด้วย โซเฟียนเล่นออกมาได้ธรรมชาติเช่นกัน ดูแล้วก็เชื่อว่าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ บทของคาริมใส่เข้ามาทำให้เนื้อหามีอรรถรสมากขึ้น ลุ้นกับความสัมพันธ์ของคาริมและเวอร์จินีว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะลงเอยด้วยกันได้ไหม


ลอร่า (มารี นาร์บอนน์)

เป็นพี่สาวและลูกสาวแสนดีที่พร้อมช่วยแม่เลี้ยงน้องและดูแลตั๊กแตน แต่มีความคับข้องใจกับสภาวะการของครอบครัวที่ต้องเลี้ยงตั๊กแตน ซึ่งดูไม่ค่อยรุ่ง มารีแสดงบทนี้ออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติ สีหน้าแววตา เหมือนเป็นลูกสาวของซูเลียนและพี่สาวของราฟาเอลจริง ๆ


แกสตรอง (ราฟาเอล โรมองด์)

น้องชายที่สุขภาพค่อนข้างอ่อนแอ รักแม่ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นสีสันสร้างรอยยิ้มให้ครอบครัว และสร้างรอยยิ้มให้คนดูได้ด้วย เพราะหนังเป็นแนวดราม่าไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่จะยิ้มออก แต่ก็ได้ยิ้มบ้างจากการแสดงของราฟาเอลนั่นแหละ

รีวิว The Swarm

จุดชื่นชม


เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเกษตรกรรมดังนั้นภาพที่นำเสนอออกมาต้องเป็นนอกเมือง ซึ่งหนังจะพาเราไปดูวิวสวยงามของชนบทฝรั่งเศส ทุ่งหญ้า บ้านในชนบท ทะเล และทะเลสาบ ซึ่งมีความเป็นยุโรป สงบสวยงาม

สำหรับ CG ของหนังออนไลน์เรื่องนี้ได้บริษัท Digital District เป็นผู้รับผิดชอบซึ่งทำออกมาได้สมจริง ทั้งตอนที่ตั๊กแตนกำลังรุมกินเลือด หรือฝูงตั๊กแตนบินพร้อมกัน ให้ความรู้สึกทั้งน่าเกลียดน่ากลัว อาจสยองติดตาไปหลายวันสำหรับคนกลัวแมลง


ในส่วนเนื้อเรื่องจะว่าแปลกใหม่ก็ไม่เชิง เป็นเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดซึ่งก็เคยเห็นมาอยู่บ้าง แต่อาจไม่เคยเห็นเรื่องเกี่ยวกับตั๊กแตน เรื่องชื่อเดียวกัน The Swarm ปี 1978 นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับผึ้ง


แต่แนวการดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างต่างกัน แต่ความพิเศษของ The Swarm 2020 อยู่ที่ความเป็นหนังฝรั่งเศส อินดี้ ดำเนินเรื่องช้า ผสมความสยองขวัญกับดราม่าความสัมพันธ์ครอบครัวเข้าไป ทำให้เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยพบเจอ


โดยรวม


ด้วยความที่หนังทั้งอืดทั้งเอื่อย เนือยๆ กับเรื่องราวดราม่าแบบที่บอกไป แม้มันอาจจะไม่ถึงกับแย่สุดๆ แต่ในฐานะหนังสัตว์กินคนต้องบอกว่ามันจะไม่ผ่านก็เพราะการโฟกัสผิดจุดไปปูเรื่องอื่นซะเยอะนี่แหละครับ

ซึ่งพอถึงช่วงที่ตั๊กแตนหลุดออกมากินคนตอนท้าย (จริงๆ มีหลุดมากลางเรื่องครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรต่อมาเลย) เวลาในหนังมันก็ใกล้หมดแล้ว ผู้สร้างพยายามเลี้ยวกลับลำสุดตัวให้ตั๊กแตนมากินคนติดๆ กันเพื่อเอาใจคนดู


แต่ก็ยังไม่ถึงใจอยู่ดี เพราะหนังเล่นตัดฉากมีตั๊กแตนมาเกาะทั่วตัวนอนตายแล้ว ไม่มีฉากเริ่มจู่โจมกัดกินคนแบบที่ควรจะมีในแนวหนังแบบนี้ อย่างฉากตั๊กแตนรุมพังบ้านก็ไม่มี ใช้ตัดฉากเอาทั้งหมด ซึ่งเข้าใจว่าคงเป็นเพราะหนังทุนต่ำสร้างฉากแบบนี้ลำบากด้วย


แต่ก็ยังดีที่มีฉากฝูงตั๊กแตนรุมโจมตีที่แอบเว่อร์นิดๆ ในตอนไคลแม็กซ์ แต่ก็ยังเป็นสเกลเล็ก ก่อนหาทางจัดการฝูงตั๊กแตนนี้ได้ในตอนท้ายพ่วงด้วยการเคลียร์ปมดราม่าแม่ลูกไปพร้อมกัน ซึ่งบอกตรงๆ ว่าแอบผิดหวังที่หนังเลือกจบแบบสวย แทนที่จะไปให้สุดกับแนวสยองขวัญดราม่าหดหู่ไปเลยจะดีกว่าครับ


สรุป


จึงเป็นหนังระทึกขวัญที่มีความเนิบช้า เน้นการสร้างความเข้าใจระหว่างผู้ชมและตัวละคร โดยมีตั๊กแตนกินเลือดเป็นแค่เพียงองค์ประกอบในการสร้างความน่ากลัว เพราะความเป็นจริงแล้วความน่าหวาดผวานั้นล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากตัวเวอร์จินีทั้งสิ้น


ถ้าดูไปคิดตาม วิเคราะห์ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหนังเรื่องนี้ก็เป็นภาพสะท้อนปัญหาวิถีชีวิตของภาคเกษตรกรชาวฝรั่งเศสที่ต้องแบกรับความลำเค็ญในการเอาชีวิตรอดอย่างปากกัดตีนถีบได้น่าสนใจทีเดียว

ดู 15 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

It Chapter Two

The Nun

Don’t Listen

コメント


bottom of page