top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

The Hunger Games


ดูหนังฟรี

รีวิว The Hunger Games - เกมล่าเกม

หนังจากนวนิยายแนวผจญภัยแฟนตาซีและการเมืองที่เขียนโดยซูซาน คอลลินส์เมื่อเมืองทั้ง12เขตต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของแคปิตอลที่สูบเลือดสูบเนื้อเอาทรัพยากรหลายๆอย่างมาจากทั้ง12เขต ในทุกๆปีนั้นจะมีการจัดการแข่งขันที่เรียกว่าเกมล่าชีวิตเพื่อเป็นการลงโทษเพราะในอดีตมีการก่อกบฏต่อแคปิตอลโดยจะต้องส่งเด็กชายและหญิงอย่างละ1คนจากทั้ง12เขตเพื่อเข้าร่วมเกมนี้ ผู้รอดชีวิตจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นเพื่อเป็นผู้ชนะในเกมล่าชีวิต รีวิว The Hunger Games


เรื่องย่อ


แคสนิต เอเวอร์ดีนเป็นเด็กสาวที่อาศัยอยู่ในเขต12ในวันที่มีการจับรายชื่อเพื่อเป็นตัวแทนของเขตเข้าร่วมการแข่งขันเกมล่าชีวิตตัวแทนฝ่ายหญิงเป็นชื่อของพริมโรสน้องสาวของเธอ เธอจึงขออาสาไปแทนน้องสาวพร้อมกับตัวแทนฝ่ายชายอย่างพีต้า เมลลาร์กที่เขามีอตีตบางอย่างระหว่างแคตนิส ชีวิตของทั้งสองจะเป็นอย่างไรการผจญภัยที่ไม่มีอะไรแน่นอนและผู้รอดจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น


 

ภาพยนตร์ภาคแรกของไตรภาคที่สร้างจากวรรณกรรมขายดีชื่อเดียวกัน ผลงานการเขียนของ Suzanne Collins ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณกรรมชิ้นเอกแห่งยุคเทียบเท่ากับ Harry Potter และ Twilight Saga เลยทีเดียว และนี่คือภาคแรก มีหนุ่มสาวมากมายที่จะร่วมแสดงบทบาทไปจนจบไตรภาค


เกมล่าเกม มีทั้ง Josh Hutcherson (Bridge to Terabithia (2007), Journey to the Center of the Earth (2008)) ผู้แสดงบทบาทเป็นพีต้า, Jennifer Lawrence (Winter’s Bone (2010), X-Men: First Class (2011)) นางเอกของเรื่องชื่อ แคตนิส และ Liam Hemsworth (Knowing (2009), The Last Song (2010)) ในบทบาทของ เกล ทั้งสามคนนี้จะมีบทบาททั้งในเรื่องของเกมและเรื่องของหัวใจ


เนื้อเรื่อง


เนื้อเรื่องของเกมล่าเกม เกิดขึ้นที่ พาเน็ม เดิมพาเน็มแบ่งออก 13 เขตปกครอง มีแคปปิตอลเป็นเมืองหลวง แคปปิตอลนั้นกดขี่ทั้ง 13 เขตมาโดยตลอด จนทำให้เขต 13 ก่อกบฏ แคปปิตอลไหวตัวได้ทันและทำลายเขต 13 ทิ้งจนไม่เหลือซาก และเพื่อเป็นตอกย้ำให้ประชากรอีก 12 เขตทราบถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากคิดก่อกบฏ


แคปปิตอลจึงจัดการแข่งขัน "เกมล่าชีวิต" ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจประชาชนทุกคนว่าแคปปิตอลมีอำนาจแม้กระทั่งควบคุมชีวิตคนได้ กฎของเกมล่าชีวิตคือ ทั้ง 12 เขต ต้องจับสลากเลือกบรรณาการชายหญิงอายุ 12-18 ปี ในวันเก็บเกี่ยว อย่างละคน มาเพื่อลงแข่ง และทั้ง 24 คน จาก 12 เขต ต้องฆ่ากันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว


แคตนิส เอฟเวอร์ดีน เด็กสาววัย 16 ปี อาศัยอยู่ในเขต 12 ที่แร้นแค้น เธอเป็นเสาหลักให้ครอบครัวนับตั้งแต่พ่อตาย คอยหาอาหารประทังแม่กับน้องสาว ในวันเก็บเกี่ยว ก่อนเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 พริมโรส เอฟเวอร์ดีน น้องสาวของแคตนิสถูกจับชื่อเป็นบรรณาการหญิงของเขต 12


ซึ่งแคตนิสเองก็อาสาแทนพริมเนื่องจากไม่ต้องการให้เธอตายในสนามประลอง และบรรณาการชายของเขต 12 ก็ตกเป็นของ พีต้า เมลลาร์ก ลูกชายร้านขนมปังที่เคยช่วยชีวิตแคตนิสไว้ในตอนที่เธอเกือบจะอดตาย แคตนิสล่ำลาครอบครัวและออกเดินทางออกจากเขต 12 ตรงสู่แคปปิตอลเพื่อเข้าแข่งเกมล่าชีวิตทันที


แคตนิสและพีต้าต้องเข้าพบกับพี่เลี้ยงเขต 12 ซึ่งก็คือ เฮย์มิช อาเบอร์นาธี ผู้ชนะเพียงคนเดียวของเขต 12 จากเกมล่าชีวิตครั้งที่ 50 ซึ่งแคตนิสก็ไม่ถูกชะตากับเฮย์มิชเท่าไรนัก เมื่อถึงแคปปิตอลทั้งสองเข้าพบกับทีมสไตล์ลิส ที่นำโดยซินน่า เพื่อแปลงโฉมให้ทั้งสองเป็นที่สนใจและดึงดูดแก่เหล่าสปอนเซอร์ที่จะส่งของมาช่วยเหลือในสนามประลองได้ และผลก็เป็นดังคาด เขต 12 ได้รับการจับตามองจากผู้ชมอย่างล้นหลาม


ในการฝึกซ้อมแคตนิสและพีต้าสามารถทำผลงานได้ดี จนทำให้ทุกสายตาของแคปปิตอลจับจ้องไปยังพวกเขาทั้งคู่ และในวันสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันพีต้า ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรว่า เขามาแข่งครั้งนี้พร้อมกับคนที่เขาหลงรัก


นั่นก็คือแคตนิส ทำให้ผู้ชมดูหนังฟรี เริ่มเห็นใจและเทคะแนนให้เขต 12 มากขึ้น แต่แคตนิสกลับมองว่าพีต้าทำเพื่อตัวเองเสียมากกว่า ในวันแข่งขัน สนามประลองถูกออกแบบให้เป็นป่าขนาดใหญ่ มีทุ่งอยู่ตรงกลาง พร้อมกับคอร์นูโคเปีย ที่รวบรวมอาวุธและข้าวของเครื่องใช้ให้บรรณาการมาแย่งกัน บรรณาการทั้ง 24 คนถูกปล่อยตัว


และการแข่งขันจึงเริ่มต้น เพียงแค่ในวันแรกบรรณาการเขตต่างๆถูกฆ่าตายไปกว่าครึ่งนึงที่คอร์นูโคเปีย ส่วนแคตนิสใช้วิธีหนีออกห่างบรรณาการคนอื่นๆให้ไกลที่สุด แต่เธอถูกไฟป่าที่แคปปิตอลสร้างขึ้นไล่ต้อนจนทำให้บาดเจ็บสาหัส


การดำเนินเรื่อง


ณ เวลาหนึ่งในโลกอนาคต ที่อเมริกากลายเป็นรัฐล่มสลาย กลายเป็นเขตต่างๆ ซึ่งเรียกว่าพาเน็ม และมีผู้ปกครองในฐานะประหนึ่งเมืองขึ้นของแคปิตอล ผู้ซึ่งใช้เกมการฆ่าและเอาตัวรอดของเด็กๆ เป็นเครื่องยึดโยงความสงบและสวามิภักดิ์เอาไว้ เกมนั้นเรียกกันว่า เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์


และมันถูกจัดติดต่อกันมาเป็นครั้งที่ 74 แล้ว ในทุกครั้ง จะต้องมีตัวแทนของแต่ละเขต เป็นหญิง 1 ชาย 1 จาก 12 เขตเข้ามาร่วมแข่งขัน ซึ่งคงไม่มีใครอยากเอาตัวเองหรือลูกหลานตัวเองไปตาย เดิมพันครั้งนี้คือชีวิต ผู้เหลือรอดคนเดียวเท่านั้นที่จะได้มีชีวิตที่สุขสบาย


แคตนิส คือตัวแทนฝายหญิงจากเขต 12 ที่อาสาเข้ามาแข่งแทนน้องสาว พีต้า คือตัวแทนฝ่ายชายจากเขตเดียวกับแคตนิส และเกลคือคนสนิทของแคตนิสที่ไม่ได้เข้ามาร่วมเกมครั้งนี้


ก่อนเกมมีการเตรียมตัวหลายขั้นตอน รวมทั้งยังมีที่ปรึกษามาคอยติวให้คำปรึกษาอีกด้วย เพียงแค่เกมเริ่ม ความดุเดือดก็เริ่มขึ้นเสียแล้ว สะท้อนบางสิ่งที่ “มนุษย์” เป็นได้อย่างดี การเอาตัวรอดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำรงเผ่าพันธุ์เรามานาน มันแฝงไว้ทั้งสิ่งดีและสิ่งร้าย เมื่อเราอยู่ในเกม อยู่ที่เราจะเลือกว่าจะเป็นสิ่งไหน


ดำเนินไปในลักษณะของเกมส์โชว์ที่ถ่ายทอดหนังใหม่ชนโรงไปทั่วประเทศ มันคือรายการบันเทิงประเภทเรียลิตี้ ที่ผู้คนสมัยนี้กำลังให้ความสนใจกันนัก แต่นี่คือ เรียลิตี้ที่เล่นกับชีวิตของคน ที่ต่างก็มีบุคลิก ทักษะ และความคิดจิตใจที่แตกต่างกันออกไป

รีวิว The Hunger Games

สิ่งที่สะท้อนออกมาอีกอย่างก็คือ ด้านลบๆ ของรายการทีวีที่ความสนุกอาจมาพร้อมกับความโหดร้าย เสียดสีและกัดจิกมนุษย์ด้วยกันเองผ่านจินตนาการที่ใส่เข้ามาอีกชั้นหนึ่ง


เรื่องราวค่อยๆ ดำเนินไป ไม่เร็วไม่ช้า และเลือกเฉพาะจุดที่จำเป็นต้องมี พิจารณาดูแล้วก็พบว่า มันค่อนข้างมีรายละเอียดมากพอดูและคนเขียน-คนกำกับฯ-คนตัดต่อก็คงพยายามเต็มที่แล้วที่จะหยิบทั้งหมดที่หนังสือเขียนและพยายามบอกมาใส่ไว้ในหนัง กระนั้น ในความรู้สึกผม The Hunger Games ในแบบฉบับหนังให้ความสนุกเต็มอิ่มได้ดีในช่วง 2 ใน 3 ส่วนแรกของมัน


ก่อนที่จะพบว่า ไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไหร่นักในช่วงหลัง หรืออาจเป็นเพราะเราคาดหวังมากไปก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตาม มันก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของไตรภาคที่ดีพอสมควร มากพอที่จะทำให้เราตั้งตารอคอยการมาถึงของอีก 2 ภาคที่เหลือครับ


ด้านของพล็อตเรื่อง


ต้องขอบอกก่อนเลยว่าตอนที่อ่านพล็อตเรื่องย่อของหนังสือนั้นเรารู้สึกว่าถึงแม้พล็อตเรื่องมันดูหวือหวาแต่ค่อนข้างที่จะดูธรรมดามากๆมันก็แค่เอาคนมาแข่งกันให้มีผู้รอดชีวิตแต่พอได้ลองอ่านแล้วรู้สึกเซอร์ไพรส์มากเพราะมันถูกอัดแน่นไปด้วยความแฟนตาซีที่เกินความคาดหมาย


สิ่งที่เราคิดว่าไม่น่าจะมีก็มีมากกว่าที่คิดไว้และแฝงไปด้วยความเจ็บปวดทางการเมืองที่ยิ่งอ่านแล้วยิ่งหดหู่เป็นการนำเอาการเมืองมาเล่าในรูปแบบแฟนตาซีได้ดีเยี่ยมจึงทำให้เรารู้สึกคล้อยตามไปกับตัวละครเข้าถึงหัวใจของตัวละครอย่างที่สุด


จุดที่ชอบ


ขอชื่นชมการการดำเนินเรื่องที่ให้เรารู้สึกได้ผจญภัยไปกับตัวละครแบบใกล้ชิดไม่หลุดออกจากตัวละครไปไกลยิ่งอ่านยิ่งเหมือนได้ดำดิ่งลงไปอยู่ในเนื้อเรื่องจริงๆ ตัวละครมีบทบาทที่น่าดึงดูดและชัดเจน สนุกตั้งแต่บทแรกๆไปจนจบไม่ปูเรื่องให้ยืดยาวจนผู้อ่านรู้สึกเบื่อ องค์ประกอบทุกอย่างสมบูรณ์แบบไม่มีอะไรที่ล้นจนเกินไปการแปลจากต้นฉบับเข้าถึงอรรถรสคนไทยควรค่าแก่การหามาอ่านเป็นอย่างยิ่ง


สรุป


แฝงข้อคิดด้วย คือตราบใดที่ชีวิตเราต้องอยู่ภายใต้ระบบที่เราเลือกและหลุดพ้นไปไม่ได้นั้นสิ่งเดียวที่เราทำได้คือการดิ้นรนสู้ชีวิตเพียงเท่านั้นและอย่าพึ่งคิดว่าเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรมันได้ขอจงดิ้นรนใช้ชีวิตไปและสักวันหนึ่งเราจะรู้ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงมันได้อย่างไร

ดู 20 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page