รีวิว The Decline - เอาตัวรอด
ภาพยนตร์สัญชาติแคนาดาที่สร้างขึ้นเพื่อฉายทางสตรีมมิ่ง Netflix โดยเฉพาะ ภาพยนตร์แนว Action Thrillers ของ Netflix Original จากฝีมือผู้กำกับ Patrice Laliberté ซึ่งเป็นผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา รีวิว The Decline
เรื่องย่อ
หนังทริลเลอร์ระทึกขวัญผสมแอ็กชั่นการเอาชีวิตรอดจากแคมป์ที่เปิดฝึกอบรมให้ผู้ที่สนใจในการเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง แต่แล้วเรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อมีอุบัติเหตุทำให้คนตายเกิดขึ้น จนกลายเป็นชนวนเหตุให้ผิดใจกัน และเปลี่ยนคอร์สฝึกซ้อมให้กลายเป็นเกมล่าคนกับคน พร้อมการเอาชีวิตรอดให้ได้ของจริง
ภาพยนตร์แนว Action Thrillers ของ Netflix original จากฝีมือผู้กำกับ Patrice Laliberté ซึ่งเป็นผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา
ทำให้เราได้มีโอกาสได้ดูหนังต่างชาติพวกโซนยุโรปมากขึ้น แม้ว่ารสชาติแต่ละเรื่องมันอาจจะไม่ได้คุ้นเคยเหมือนหนัง Hollywood แต่มันก็มีความสนุกในแบบของมันอยู่ สำหรับ The Decline ก็เช่นกัน
เพราะหนังมีพล็อตว่าด้วยเรื่องตัวเอก ที่ไปเข้าค่ายวิธีการรับมือกับภัยพิบัติ แต่แล้วกลับเกิดอุบัติเหตุบางอย่างที่ทำให้ผู้คนในค่ายแตกคอกัน ไปจนถึงขั้นทำร้ายกันถึงชีวิต จึงมีการแบ่งเป็นทีมผู้ล่า และผู้ถูกล่า
เนื้อเรื่อง
หนังทริลเลอร์ระทึกขวัญผสมแอ็กชั่นการเอาชีวิตรอดจากแคมป์ที่เปิดฝึกอบรมให้ผู้ที่สนใจในการเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง แต่แล้วเรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อมีอุบัติเหตุทำให้คนตายเกิดขึ้น จนกลายเป็นชนวนเหตุให้ผิดใจกัน และเปลี่ยนคอร์สฝึกซ้อมให้กลายเป็นเกมล่าคนกับคน พร้อมการเอาชีวิตรอดให้ได้ของจริง
เป็นหนังที่เกือบเข้าธีมโลกหายนะจากโควิด 19 ตอนนี้อยู่เหมือนกัน เนื่องจากตัวละครที่มาร่วมเข้าคอร์สอบรมนี้ต่างเป็นพวกวิตกจริตกับเหตุการณ์หายนะของโลกที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้ในแบบต่างๆ ตั้งแต่ภัยธรรมชาติ สงคราม โรคระบาด
ซึ่งคอร์สในเรื่องดูหนังออนไลน์มาจากยูทูบเบอร์คนดังที่สอนเรื่องการเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองให้ได้ ทำให้พวกเขาเหล่านี้สนใจเข้าแคมป์ของจริงที่เจ้าของแชนแนลจัดขึ้น โดยเป็นพื้นที่ห่างไกลผู้คนที่มีทุกอย่างทั้งไฟฟ้า ประปา ที่พัก แบ่งโซนทำงานเหมือนหมู่บ้านเล็กๆ ที่พร้อมจะอยู่ได้ด้วยตนเองถ้าเกิดหายนะกับโลกขึ้น
หนังช่วงแรกเป็นช่วงฝึกซ้อมการใช้ชีวิตด้วยตัวเองของพวกเขาเหล่านี้ที่มีกัน 7 ชีวิต แต่ดูเหมือนทหารฝึกซ้อมรบซะมากกว่า เพราะมีกระทั่งการฝึกจู่โจมเป้าหมาย การฝึกทำกับดักระเบิดฆ่าคน ซึ่งคนดูเองคงค่อยๆ เอะใจว่ามันเกินกว่าการเอาชีวิตรอดธรรมดาแล้วแน่ๆ
จนเรื่องราวผ่านไป 30 นาทีจุดพลิกผันของเรื่องจึงเริ่มขึ้น เมื่อมีอุบัติเหตุกับการฝึกซ้อมจนสมาชิกในแคมป์ตาย การโต้เถียงว่าจะเอายังไงดีกับเรื่องนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อความเห็นไม่ลงรอยกันจึงกลายเป็นแบ่งฝักฝ่ายออกมาต่อสู้กันเอง
ระหว่างทีมที่ต้องการปกปิดคดีที่เกิดขึ้นกับทีมที่ต้องการหนีออกไปแจ้งความให้ตำรวจมาช่วย ซึ่งเรื่องราวหลังจากนี้ไปถือว่าทำได้ระทึกได้ตลอดเวลาพอสมควร เพราะไม่ใช่แค่ถือปืนไล่ยิงกัน แต่มีกับดักในป่าที่พร้อมปลิดชีพคนได้ในทันที อีกทั้งต้องเอาตัวรอดจากสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่โหดร้ายถึงตายได้เหมือนกัน
การดำเนินเรื่อง
อองตวน (กิลโลม ลอริน) คุณพ่อผู้หมกมุ่นอยู่กับการเตรียมตัวรับมืออยู่กับวิธีการรับมือสถานการณ์วันโลกแตก เขาเป็นแฟนคลับของอลัน (เรียล บอสซี) ไลฟ์โค้ชออนไลน์ ผู้สอนวิธีการเอาตัวรอดจากสถานการณ์วิกฤตต่างๆ เช่น สถานการณ์ไวรัสระบาด หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ทำให้ ระบบสาธารณูปโภคของมนุษย์ถูกตัดขาด จะต้องทำอย่างไร
ในฉากเปิดเรื่องอองตวนใช้ความรู้ที่เขาศึกษาจากอลัน มาซ้อมหนีตายพร้อมกับครอบครัว ซึ่งสะท้อนให้เราเห็นว่าตัวละครนี้จริงจังกับการเตรียมตัวรับมือมากแค่ไหน จนกระทั่งวันหนึ่งอองตวนตัดสินใจเข้าร่วมแคมป์ฝึกปฏิบัติจริงกับอลันในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งเป็น “สถานพำนักและที่หลบภัย” ของอลันที่อยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา
บรรดาผู้เข้าร่วมแคมป์ครั้งนี้ถูกนำตัวเข้ามาด้วยเลื่อนหิมะไฟฟ้า โดยพวกเขาจะถูกปิดตาตลอดทาง เพราะอลันเป็นห่วงในสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเอง ถ้าหากเกิดวิกฤตจริงเรียกได้ว่าชายคนนี้เป็นคนระวังตัวในทุกฝีเก้า
โดยคอร์สฝึกเอาตัวรอดระยะสั้นครั้งนี้ บรรดาผู้เข้าร่วมแต่ละคนต่างก็มาเพื่อเรียนรู้กันอย่างเต็มที่ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อระเบิดที่นำมาเรียนกันนั้นเกิดระเบิดขึ้นจริงและทำให้สมาชิกคนหนึ่งเสียชีวิต
ท่ามกลางความแตกตื่นของทุกคน อลันกลับบอกว่า ถ้าหากเขาแจ้งตำรวจอาจจะทำให้สถานพำนักและที่หลบภัยของตัวเองถูกเปิดเผยและการที่เขาครอบครองอาวุธมากมายอาจะทำให้เขาถูกจับเข้าคุก
เมื่อความเห็นแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายที่ต้องการจะแจ้งตำรวจและหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ พวกเขาจึงถูกอลันตามล่า แต่สถานการณ์เริ่มเลวร้ายหนักขึ้นเมื่อจำนวนศพก็เริ่มเพิ่มขึ้น ทั้งอุบัติเหตุและการลอบสังหาร นำมาซึ่งเกมแมวไล่จับหนูสุดระทึก
จุดเด่น
ฉากต่างๆ ของหนังทำดูเรียลดี และการที่เราไม่รู้จักดาราแต่ละคนก็เลยเดาได้ยากว่าใครจะเป็นตัวเอก ใครจะรอด จะตาย เพราะทุกคนดูมีความเสี่ยงในระดับที่ใกล้เคียงกันแทบทั้งนั้น ฉากไล่ฆ่ากัน แม้ไม่โหดแต่ก็ดูสนุก
Sound เสียงปืนเข้มโป้งป้างดีมาก ช่วยเสริมความระทึกในการเอาใจช่วยตัวละครไปอีก แม้ว่าดูจบไป หนังอาจไม่มีอะไรที่น่าจดจำมาก แต่หนังก็มอบความบันเทิงได้ดี ในช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 80 กว่านาที
จุดเด่นของเรื่องเว็บดูหนังคือความสมจริงแบบโหดๆ ในเรื่องแบบเดียวกับแนวหนัง “แบทเทิลรอยัล” ซึ่งเป็นการเอาชีวิตรอดของคนปกติที่ต้องมาเจอสภาพการบีบคั้นปลดปล่อยสัญชาตญาณดิบให้กลายเป็นฆาตกรกันได้ง่ายๆ
หนังค่อยๆ เผยให้เห็นว่าคนดีๆ ในเวลาปกติ กลายมาเป็นคนโหดเหี้ยมได้ขนาดไหนในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แม้ตัวเรื่องอาจจะไม่ใช่แนวแอ็กชั่นโดยตรง แต่ก็มีหลายฉากที่เป็นการไล่ยิงกันในแบบยุทธวิถีการรบ มีการลอบเร้นกำบังกาย วางกับดักซุ่มยิง
จนไปถึงฉากแอ็กชั่นซัดกันตัวๆ ลากยาวปิดท้ายเรื่องในบ้านพักที่ใช้สิ่งของรอบกายมาเป็นอาวุธ และตัดต่อออกมาได้ลุ้นระทึก มีตัดสลับหลอกคนดูนิดๆ เป็นฉากปิดเรื่องที่ทำออกมาได้โอเคเลย
หนังมีจุดหักมุมชวนช็อคนิดๆ แบบคาดไม่ถึงในระหว่างทางของเรื่อง แต่ก็สมเหตุผลและช่วยให้เรื่องราวไปต่อในแบบสนุกขึ้น แม้จะรู้สึกตะหงิดๆ กับการที่หนังเลือกเล่นแบบนี้
ข้อเสีย
จุดเสียของเรื่องคงเป็นความสั้นของหนังที่สั้นมากเพียง 73 นาทีไม่รวมเครดิต ทำให้เรื่องราวต้องรีบฆ่าตัวละครแต่ละคนไวไป แบบจู่ๆ ก็ตายงง หรือไม่ก็ตัดมาอีกทีตายแล้ว ทำให้คนดูไม่ทันจะได้อินหรือลุ้นระทึกได้มากพอ แต่ก็ยังดีที่หนังได้ความสมจริงโหดๆ ทั้งจากคนล่าคนและธรรมชาติในเรื่องมาทดแทนในจุดนี้ไป
โดยรวม
ถือได้ว่าเป็นหนังร่วมสถานการณ์จริงในเวลานี้ได้อย่างพอดิบพอดี หนังทำให้ผู้ชมได้ตั้งคำถามถึงสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของมนุษย์ทุกคน ว่าถ้าหากเกิดเหตุร้ายขึ้นจริงแล้ว จริยธรรม กฎหมาย และความอยากมีชีวิตรอด
สิ่งไหนถือเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า ซึ่งนอกจากหนังจะแทรกประเด็นที่ชวนให้คนดูคิดตามตลอดเวลาแล้ว หนังยังมาพร้อมกับความระทึกขวัญ ตื่นเต้นและจุดหักมุมในแบบที่คนดูต้องเกิดอาการเหวอไปตามๆกัน
สรุป
เป็นภาพยนตร์ที่สนุกตื่นเต้นลุ้นระทึกชวนให้ติดตาม ความเข้มข้นความกดดันในตอนไล่ล่ามีความสมจริง ทำให้เรารู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เนื้อเรื่องมีความกระชับเดินเรื่องเร็วไม่น่าเบื่อ แถมตลอดทั้งเรื่องผู้ชมจะได้สัมผัสบรรยากาศทิวทัศน์แสนสวยงามที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันหนาวเย็น
สรุปเป็นภาพยนตร์ Original Netflix แท้ๆ ฟอร์มเล็ก ที่ทำได้ดีกว่าหนังโรงหลายเรื่อง ธีมของเรื่องก็เข้ากับสถาณการณ์โรคระบาดในตอนนี้ได้ดี ความโหดสมจริงในเรื่องจัดมาเต็มที่ไม่มีปิดบัง (แต่มีไม่กี่ฉาก) เป็นหนังดูสนุกจบได้สั้นๆ ในเวลาไม่นาน อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่น่าจะผิดหวังอะไรเช่นกันครับ
Comments