รีวิว Teenage Mutant Ninja Turtles - เต่านินจา
นี่จัดเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการดัดแปลงการ์ตูนที่อยู่ในใจผู้คนมานับยุคนับสมัย อย่าง “เต่านินจา” แต่ส่วนตัวแล้ว TMNT ในเวอร์ชั่นที่มีผู้กำกับอย่างไมเคิล เบย์ เป็นโปรดิวเซอร์ของเรื่อง และมีผู้กำกับสายซีจีอย่างโจนาธาน ลีเบสแมนมาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับแล้ว ผลลัพธ์ของหนังค่อนข้างเหมือนมหกรรมทรานส์ฟอร์มเมอร์เวอร์ชั่นรถยนต์กลายร่างไปเป็นเต่านินจาเสียมากกว่า รีวิว Teenage Mutant Ninja Turtles
เรื่องย่อ
นครแห่งนี้ต้องการฮีโร่…ความมืดมิดเข้าปกคลุมเมืองนิวยอร์กซิตี้ เมื่อ เชร็ดเดอร์ และฟุตแคลนที่ชั่วช้า สามารถครองอำนาจได้ทุกอย่างตั้งแต่ตำรวจยันนักการเมือง ทำให้อนาคตช่างน่าหวั่นเกรง จนกระทั่งกลุ่มพี่น้องทั้งสี่ที่สังคมไม่ยอมรับ ผุดขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ และได้พบกับโชคชะตาของพวกเขาในฐานะแก๊งเต่านินจา
เหล่าเต่านินจาต้องทำงานร่วมกับผู้สื่อข่าวสาวที่ไม่กลัวตายอย่าง เอพริล โอนีล (เมแกน ฟ็อกซ์) และตากล้องคู่ใจของเธอ เวิร์น เฟนวิค (วิลล์ อาร์เน็ตต์) เพื่อช่วยเมืองนี้และทลายแผนการอันชั่วร้ายของเชร็ดเดอร์
Teenage Mutant Ninja Turtles ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วถึงสี่ครั้ง อาทิ Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) กำกับโดย สตีฟ แบร์รอนโทน หนังออกมาในแนวมืดหม่น ดาร์คพอสมควร แต่หนังก็กวาดรายได้จากทั่วโลกไปถึง 200 ล้านเหรียญ
หนึ่งปีถัดมาหนังมีภาคที่ 2 ในชื่อ Teenage Mutant Ninja Turtles II: The Secret of the Ooze เป็นการเผชิญหน้าครั้งที่สองระหว่างเต่านินจากับเชรดเดอร์ แต่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ แต่ตัวหนังก็ยังคงทำกำไรเช่นเดิม
ก่อนที่ปี 1993 จะมีหนังตามออกมาในชื่อ Teenage Mutant Ninja Turtles III เล่าเรื่องราวการย้อนเวลาเต่านินจาเจาะเวลาหาไดเมียว ก่อนจะหลุดไปยุคโบราณ หนังล้มเหลวมากทางคำวิจารณ์ทำกำไรได้เพียงนิดหน่อยจากทุนสร้าง
และในปี 2007 เต่านินจาก็ถูกดัดแปลงเป็นหนังแอนิเมชั่นสามมิติกำกับโดย เควิน มุนโร เล่าเรื่องราวที่เต่านินจาต่างก็แยกย้ายไปมีชีวิตเป็นของตัวเองก่อนจะกลับมารวมพลกันอีกครั้งเพื่อปราบสัตว์ประหลาด ตัวหนังทำรายได้ทั่วโลก 95 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 34 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า Teenage Mutant Ninja Turtles ในเวอร์ชั่นล่าสุดที่ออกมาตัวผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยปลื้มกับวิธีการเล่าเรื่องในหนัง รวมไปถึงบทภาพยนตร์ที่อ่อนปวกเปียก
แต่ในโมเมนต์หนึ่งก็ต้องสารภาพกันตามตรงว่าเมื่อเราละสายตาจากส่วนที่ไม่ได้เป็นฉากดราม่าแล้ว ฉากแอ็คชั่นและงานซีจีในเรื่อง ตัวหนังค่อนข้างทำออกมาบันเทิง เร้าอารมณ์และสนุกมากๆทีเดียว
เนื้อเรื่อง
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวในเรื่องนี้ มาจากห้องทดลองแห่งหนึ่งที่ทดลองสารเกี่ยวกับยาแก้สารพิษและยาวิวัฒนาการ โดยมีเต่า 4 ตัวและหนูอีก 1 ตัว ที่ถูกทดลองโดยใช้สารนั่นฉีดเข้าไปที่ตัว เต่าและหนูนั้นถูกดูแลโดยนางเอกของเรื่อง วันหนึ่งเกิดเหตุไฟไหม้ ณ สถานที่แห่งนั้นนางเอกในวัยเด็กก็ช่วยชีวิตสัตว์เหล่านั้นไว้ แล้วได้นำตัวไปปล่อยที่ท่อระบายน้ำให้รอดปลอดภัย
หลายปีต่อมา นางเอกได้พบเจอเต่าทั้ง 4 ตัวนั้นเป็น ๆ เห็นเต็มตา ในช่วงแรกก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมากและเขาก็ได้รับรู้หนังใหม่เต็มเรื่องเรื่องราวในภายหลังว่าตัวเธอเองเป็นคนช่วยชีวิตสัตว์เหล่านั้นไว้ เมื่อเธอได้เข้าไปในที่ท่อระบายน้ำซึ่งเป็นสถานที่กบดานของเต่านินจา เธอก็ได้เจอกับหนูตัวนั้นซึ่งเป็นอาจารย์ของเต่าทั้งหลาย
หลังจากเจอกันไม่นานตัวร้ายก็ได้เข้ามาบุกชิงตัวพวกเต่าเพื่อจะเอาสารที่อยู่ภายในเลือดของเต่าพวกนั้น ที่จะเอาไปต่อยอดแผนร้าย จึงเกิดฉากต่อสู้มันส์ ๆ เกิดขึ้น และอาจารย์หนูก็ได้พลาดท่าแพ้ไปในที่สุด โดยเต่าถูกจับไป 3 ตัว เหลืออยู่เพียง 1 ตัวเท่านั้น เราก็ต้องไปตามดูกันต่อว่าเรื่องราวสุดมันส์ต่อจากนี้มันจะเป็นอย่างไร
แนะนำตัวละคร
เอพริล โอ’นีล (Megan Fox)
นักข่าวสาวช่อง 6 ที่ต้องการพิสูจน์ฝีมือให้หัวหน้าเห็นจึงได้พาตัวเองเข้าสู่เรื่องอันตราย จนได้มาเจอกับกลุ่มนินจาเต่าเข้า และได้รู้ความจริงว่า เอพริล ก็คือลูกสาวของนักวิทยาศาสตร์ที่เคยช่วยพวกเต่าไว้เมื่อครั้งอตีต
ลีโอนาร์โด
ตั้งชื่อตาม ลีโอนาร์โด ดา วินชี เต่าผู้ใช้ดาบคู่เป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีฟ้า เป็นคนที่มีบุคลิกเหมือนนินจาที่สุดในกลุ่ม บ้าปรัชญาและรักสันโดด มีความเป็นผู้นำมากที่สุดในกลุ่ม
ราฟาเอล
ตั้งชื่อตาม ราฟาเอล ซันซิโอ เต่าผู้ใช้สามง่ามเป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีแดง เป็นคนอารมณ์ร้อน บ้าดีเดือด วู่วาม กล้ามโต บ้าพลัง และชอบตีตัวออกห่างจากกลุ่ม
ไมเคิลแองเจโล
ตั้งชื่อตาม มีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี เต่าผู้ใช้ใช้กระบองสองท่อนเป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีส้ม เป็นคนสนุกสนาน ชอบทำทุกเรื่องเป็นเรื่องเล่นๆตลอดเวลา แกนนำสำหรับเรื่องไร้สาระ
โดนาเทลโล
ตั้งชื่อตาม โดนาโต ดิ นิโคโล ดิ เบตโต บาร์ดิ เต่าผู้ใช้กระบองยาวเป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีม่วง เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่มและมีความเป็นนักประดิษฐฺอยู่ในตัว สามารถสร้างอุปกรณ์ไฮเทคเพื่อช่วยในการต่อสู้ได้
ชเรดเดอร์
จอมวายร้ายเจ้าของแผนการยึดครองโลกด้วยสาร Mutagen ตามต้นฉบับแล้วชเรเดอร์เป็นมนุษย์ต่างดาวอูทรอม แต่อาศัยอยู่ในร่างหุ่นยนต์ซามุไรสวมชุดเกราะนักรบญี่ปุ่นโบราณ ที่มีกลไกสุดไฮเทค
อาจารย์สปลินเตอร์
อาจารย์หนูที่สอนวิชานินจาทั้งหมดให้กับเต่านินจาทั้งสี่ จากเหตุการณ์ในห้องทดลองเขาได้รับสาร Mutagen ก่อนพวกเต่าทำให้เจ้าหนูตัวนี้ มีวุฒิภาวะและอายุที่มากกว่าพวกเต่า แถมยังรับรู้ความเป็นมาต่างๆตั้งแต่เหตุการณ์ในห้องทดลองเมื่อครั้งอดีต
แซค (William Fichtner)
นักวิทยาศาสตร์เพื่อนพ่อของเอพริลในอตีต ที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองใน NewYork ที่เบื้องหลังมีความเกี่ยวพันธ์อย่างลับๆกับชเรดเดอร์
การดำเนินเรื่อง
ถือว่าหนังเรื่องนี้สามารถเล่าเรื่องราวหนังออนไลน์ของเต่านินจาและอาจารย์หนูได้ดีมากโดยหนังใช้เวลาเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้นในการเล่าอดีตของตัวละครทั้งหมด โดยมีการดำเนินเรื่องหลักโดยนางเอกที่อยากสืบเรื่องของเต่าทั้ง 4
ส่วนฉากต่อสู้ในเรื่องนี้อาจจะไม่มีฉากระเบิดตูมตามหรือฉากหลุดโลกอะไรมากนักแต่หนังก็เน้นในทางด้านการต่อสู้แบบใช้จังหวะของนินจาเป็นการใช้ทักษะความเป็นนินจาที่พวกเต่าฝึกฝนซะมากกว่า เต่านินจาทั้ง 4 นั้น เขาดูมีความสนิทสนมกันมากอาจเป็นเพราะใช้ชีวิตร่วมกันตั้งแต่เด็ก
เมื่อมีการสู้ร่วมกันในครั้งต่าง ๆ ผู้ชมจะได้เห็นถึงความสามัคคี พร้อมเพรียง ที่เป็นจุดเด่นเลยในการต่อสู้ของเต่าพวกนี้ หนังเน้นสร้างความโดดเด่นที่จะเน้นการเล่าเรื่องราวของเต่านินจาและอาจารย์หนู
ฉากที่ประทับใจ
ฉากที่ประทับใจของหนังเรื่อง Teenage Mutant Ninja Turtles เต่านินจา เป็นฉากแรกที่พวกเต่าได้สู้เหล่าร้ายในเงามืดเพื่อขัดขวางแผนการร้ายของศัตรูทั้งหมด อีกฉากนึงก็จะเป็นตอนที่อาจารย์หนูสู้กับตัวร้ายตอนที่อยู่ในท่อระบายน้ำแล้วแพ้ต่อมาพวกเต่าก็ถูกจับตัวไป
ฉากนี้ทำให้รู้สึกถึงความพ่ายแพ้และความสิ้นหวังของตัวละคร แต่ไม่นานมากนักก็ได้เห็นความหวังใหม่ขึ้นมาอีกครั้งเพราะเหลือเต่าอยู่ตัวนึงที่พยายามหาทางช่วยเพื่อน ๆ ที่ถูกจับตัวไป มันเป็นฉากที่ทำให้เห็นถึงความสำคัญของแต่ละตัวละครได้ดี พี่น้องทิ้งกันไม่ได้
สิ่งที่ยังคงถูกนำมาถ่ายทอดในแฟรนชายส์ของเต่านินจาอย่างไม่เสื่อมคลายหายไปไหนก็คือการหยิบเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องเอามาถ่ายทอดเอาไว้ในเรื่องราว สายใยระหว่างตัวละครในเรื่องนั้นเชื่อมโยงกันจนกระทั่งเรามองเห็นความรักของเจ้าหนูสปลินเตอร์ที่เป็นเหมือนตัวแทนของพ่อที่ต้องคอยดูแลลูกๆอย่างเต่านินจา
จุดที่ชอบ
ที่น่าแปลกใจยิ่งนักก็คือตัวละครทางสายซีจีอันประกอบไปด้วยแก็งค์เต่านินจาลีโอนาร์โด(พากย์โดยจอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์), ราฟาเอล(อลัน ริตซ์สัน), ไมเคิลแองเจโล(โนเอล ฟิชเชอร์), โดนาเทลโล(เจเรมี โฮเวิร์ด) และสปลินเตอร์(แดนนี่ วู๊ดเวิร์น) กลับถ่ายทอดความรู้สึกและให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยมิติต่างๆมากกว่าตัวละครที่เป็นมนุษย์จริงๆเสียอีก
จุดที่ไม่ชอบ
เอพริล โอ’นีล ซึ่งรับบทโดยเมแกน ฟอกซ์น่าจะเป็นตัวละครที่เข้าข่ายน่ารำคาญไร้สติที่สุดในรอบปี เราไม่ปฏิเสธในแง่ของความสวยเซ็กซ์เอ็กซ์แตกของเธอ ซึ่งบทบาทของตัวละครนี้ก็คือนักข่าวสาวที่ได้ทำแต่ข่าวที่ไม่ค่อยจะประเทืองปัญญาสักเท่าไหร่
เธอจึงพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยการตามสืบข่าวเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในเมืองก่อนที่จะพบว่ามีผู้ผดุงความยุติธรรมที่เป็นเต่านินจา แน่นอนว่าเมื่อเธอพยายามจะบอกคนอื่นก็ไม่มีใครเชื่อเธอ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พล็อตเรื่อง
แต่อยู่ที่การกำกับให้ตัวละครเอพริลเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรแบบไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่นัก (ทั้งที่เธอเป็นนักข่าวแท้ๆแต่ไม่สามารถ “โน้มน้าวใจ” คนอื่นได้ โดยเฉพาะหัวหน้าของเธอเองที่ เธอใช้วิธีการอธิบายเหตุการณ์เต่านินจาปรากฏตัวด้วยแผนผังประหลาดๆ และท้ายที่สุด เธอก็โดนหัวหน้าไล่ออกจากงาน)
อีกจุดคือความไร้สติของตัวละครนี้ ไม่เพียงแค่เธอจะทำตัวป้ำเป๋อๆเท่านั้น แต่ตัวละครนี้ยังออกแบบมาเพื่อกลายเป็นวัตถุทางเพศของผู้ชายในอีกนัยยะหนึ่งด้วยซ้ำ โดยเฉพาะฉากวินาศสันตะโรตอนลงจากภูเขาหิมะ
ระหว่างที่ตัวละครเวอร์นอน(วิลล์ อาร์เนตต์) ช่างภาพและนักข่าวผู้ติดตามเอพริล กำลังขับรถบรรทุกลงมานั้น เอเพริลก็ชะโงกหน้าออกจากหน้าต่างรถพร้อมก่งโค้งบั้นท้ายของเธอทำมุม 90 องศากับเบาะ และแน่นอนผู้ชายอย่างเวอร์นอนก็ต้องมัวแต่มองบั้นท้ายจนทำให้รถเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำในเวลาต่อมา!
โดยรวม
ในภาพรวมของหนังค่อนข้างจัดได้ว่าวิธีการเล่าเรื่องของเต่านินจาในเวอร์ชั่นนี้ค่อนข้างมีความเป็นการ์ตูนอยู่สูงมากๆ ตัวละครมนุษย์จัดได้ว่าแบนราบมีมิติเพียงด้านเดียว ทุกอย่างในเรื่องเป็นไปตามความคาดหมาย ไม่มีอะไรเหนือการคาดเดา
สรุป
สิ่งที่ทำออกมาได้ดีคือกราฟิกตัวละครที่ทำออกมาได้สวย ถึงภาพจะออกแนวการ์ตูนไปหน่อย แต่ก็ดูกลมกลืนกับฉากได้ดี พวกเต่าถึงจะหน้าโหดไปหน่อย แต่ก็ปล่อยมุกโชความรั่วได้ทุกเวลาที่มีโอกาส ได้อารมณ์ของเต่านินจาครบเหมือนเดิม
ฉากการต่อสู้ บู๊ แอคชั่น จัดเต็มและมันมาก ยิ่งฉากที่สู้กับ ชเรดเดอร์ ขอบอกว่าเจ้าซามุไรเหล็กสวมเกราะ แม่งโคตเท่เลย สุดท้ายแล้วก็จบไปแบบค้างๆคาๆ เหมือนจะบอกให้รู้ไปเลยว่า มีภาค 2 แน่นอน รอชมกันได้เลย
Comments