top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนCharcoal Original

Svaha The Sixth Finger


หนังใหม่เต็มเรื่อง

รีวิว Svaha The Sixth Finger - สวาหะ: ศรัทธามืด

หรือชื่อภาษาไทยคือ สวาหะ ศรัทธามืด หนังเกาหลีใหม่บน Netflix หนังที่หน้าตาภายนอกดูเหมือนหนังผีน่ากลัวสุดๆ แต่ความจริงนี่เป็นหนังสืบสวนไขปริศนาสัญลักษณ์ต่างๆ คลับคล้ายคลับคลาหนังดังอย่าง “ดาวินชี่โค๊ด” ของฝรั่งอยู่พอสมควร ซึ่งความคล้ายกันมาจากตัวเอกในเรื่องนี้เป็นนักศาสนาวิทยา ในดาวินชี่ตัวเอกเป็นนักสัญญะวิทยา สิ่งที่ทั้งสองเหมือนกันคือ การตามรอยคดีฆาตกรรมลึกลับ ที่เกี่ยวพันกับศาสนา ลัทธิ นิยายในยุคใหม่ ซึ่งถ้าใครชอบแนวแกะรอย + ศาสนา + อาชญากรรม รับรองว่าสนุกไปกับ สวาหะ ศรัทธามืด นี่แน่นอนครับ รีวิว Svaha The Sixth Finger


เรื่องย่อ


ศาสนาจารย์ปาร์ก (ลีจุนแจ) จอมเปิดโปงลัทธิลวงโลก ได้พบเบาะแสของกลุ่มความเชื่อใหม่ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปกวาง โดยมีคำสอนคล้ายกับพุทธมหายาน หากแต่บูชาแม่ทัพโลกบาลซึ่งเชื่อว่าเป็นมารร้ายที่ได้พบพุทธองค์ จึงกลับตัวมาปราบปีศาจความชั่วร้ายในนามว่าอสรพิษทั้งหลายเพื่อนิพพาน

หากแต่สิ่งที่ปาร์กพบไม่เพียงเกี่ยวพันกับความเชื่อทางศาสนาที่ผิดเพี้ยน แต่ยังพาเขาเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมเด็กสาวหลายต่อหลายคดี สิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือเพียงคนจิตใจทรามที่อยู่เบื้องหลังกันแน่ คือสิ่งที่หนังเรื่องนี้จะพาเราพิสูจน์พร้อมกัน


 

หนังเน็ตฟลิกซ์จากเกาหลีที่มาตรฐานงานดีไม่มีหย่อน โดยเฉพาะเรื่องนี้คือการหวนกลับมาของผู้กำกับและมือเขียนบท จางแจฮยอน ที่เคยฝากผลงานมาแล้วในเรื่อง The Priests (2015) ครั้งนี้เขายังคงสนใจในเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ท้าทายความเข้าใจของผู้ชมว่าความจริงคืออะไรแน่


โดยเรื่องก่อนพูดถึงสองบาทหลวงที่ต้องมาช่วยในคดีเด็กสาวที่ถูกผีสิง หรือไม่ก็เพียงเธอถูกกระทำย่ำยีจากมนุษย์ที่เลวทราม และสำหรับเรื่องนี้ จางแจฮยอนได้ท้าทายเรื่องราวในพุทธศาสนานิกายมหายานบ้าง ด้วยความเชื่อเรื่องเทพมาร และการเกิดของขั้วตรงข้ามอย่างความดี-ความชั่ว แสง-เงา อันดำรงอยู่ไม่อาจตัดกันขาด


ความน่าสนใจ


ความน่าสนใจที่สะดุดผู้เขียนตั้งแต่วันแรกของการโปรโมตหนัง คือชื่อเรื่อง อ่านปุ๊บก็สัมผัสได้ถึงความพิกลลี้ลับ มีกลิ่นอายมนต์ขลัง ‘หกนิ้ว’ อาจสื่อถึงความเป็นสิ่งแปลกหาได้ยาก และหลังจากไปค้นคว้ามา ‘สวาหะ’ เป็นคำมาจากภาษาสันสกฤต ที่มีรากศัพท์แปลตรงตัวได้ว่า ‘พูดดี’ ถูกนำมาใช้ในความหมายของการทักทาย


หรือแสดงความยินดีต้อนรับ ถูกนำไปใช้เอ่ยเป็นคำสร้อยประกอบพิธีกรรมบูชาไฟศักดิ์สิทธิ์ตามคัมภีร์พระเวท และกลายมาเป็นคำลงท้ายในบทสวดมนต์ มีผู้เชี่ยวชาญพุทธศึกษาเสนอไว้ว่า สวาหะบ่งชี้ความเป็นองค์เทพเพศหญิง เมื่อชมจบเรื่องก็จะถึงบางอ้อว่าทำไมจึงเลือกตั้งชื่อ ‘Svaha’


เนื้อเรื่อง


เรื่องเริ่มจากคำบอกเล่าของสาวน้อยคนหนึ่ง ที่บอกเธอเกิดมาพร้อมพี่สาวฝาแฝด ที่กัดกินขาของเธอตั้งแต่ในท้องแม่จนทำให้เธอพิการ พี่สาวของเธอถูกขังไว้ในห้องมืด และห้องนี้เองที่เต็มไปด้วยความลับของเรื่อง และถูกฉายภาพความน่ากลัวสยดสยองแบบเดาไม่ได้ว่า สิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่ที่อยู่ภายในห้องนั้น…


ที่กล่าวมาข้างต้นคือส่วนหนึ่งของเรื่องเท่านั้น ที่จริงหนังเดินเรื่องด้วยตัวละคร “พัคอุงแจ” นักศาสนาวิทยาที่ทำมาหากินด้วยการไล่เปิดโปงลัทธินิกายลึกลับต่างๆ ที่มีมากมายในเกาหลี (เหมือนบ้านเปี๊ยบ) แต่พัคอุงแจไม่ได้เปิดโปงเพื่อความยุติธรรมแต่อย่างใด


เขาเป็นตัวละครเทาๆ ที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะชี้ว่าลัทธินิกายเหล่านี้มีความผิดที่คงอยู่ ชี้นำให้เห็นว่าเป็นภัยเงียบแก่สังคมที่รอวันระเบิดขึ้นมา (มีอ้างอิงไปยังนิกายโอมชินริเกียวของญี่ปุ่น ที่ปล่อยแก๊ซซารินฆ่าคนในรถไฟฟ้าเมื่อหลายสิบปีก่อน) พัคอุงแจทำมาหากินโดยการเอาหลักฐานเหล่านั้นมาให้กับองกรค์ศาสนาพุทธกับคริสต์


ที่มีงบประมาณมากพอที่จะจ่ายให้กับอะไรก็ตาม ที่ช่วยสกัดกั้นไม่ให้มาดูดเหล่าผู้ศรัทธาจากศาสนาหลักไป ซึ่งพัคอุงแจทำเป็นขบวนการ มีพระภายในคอยช่วยเหลือโน้วน้าวให้พระผู้ใหญ่เห็นด้วยกับวิธีการปล่อยข่าวแง่ลบของเขา เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินก้อนใหญ่เท่านั้น


การดำเนินเรื่อง


นี่เป็นหนังสีเทาๆ ที่ว่าด้วยการกำเนิดลัทธิและศาสนาต่างๆ ที่มาที่ไปซึ่งแม้จะเป็นพุทธหรือคริสต์ก็แทบไม่ได้ต่างกัน หนังใหม่เต็มเรื่องก็ชี้ให้เห็นว่าลัทธินิกายแรกเริ่มก็เกิดจากคนๆ เดียวที่มีความเชื่อแตกต่างจากสังคม สามารถพูดโน้มน้าวคนให้มาเชื่อได้


จนสมาชิกมีเยอะขึ้นๆ ก็ค่อยๆ กลายเป็นอิทธิพลพลังอำนาจที่เกินควบคุมได้ขึ้นมา ซึ่งหนังจะพาเราไปพบกับคดีฆาตกรรมลึกลับที่เกี่ยวพันถึงนิกายเล็กๆ เกิดใหม่ที่ชื่อ “เนินกวาง” ซึ่งการดำเนินงานของนิกายนี้ทุกอย่างขัดกับความเชื่อของพัคอุงแจทั้งหมด เนินกวางเป็นนิกายที่บริสุทธิ์ไร้ข้อครหา


ทุกอย่างดีพร้อมไร้จุดอ่อนให้เจาะ ซึ่งนั่นยิ่งเป็นความท้าทายให้พัคอุงแจตามล่าหาความจริงว่าเบื้องหลังนิกายที่ว่านี้มาจากไหน และใครเป็นผู้ก่อตั้งกันแน่ และยังท้าทายความไม่เชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติของเขาไปพร้อมกัน


นี่เป็นหนังที่ใช้การเดินเรื่องสืบสวนสอบสวนตามรอยสัญญลักษณ์ทางศาสนาต่างๆ แต่ต่างจากดาวินชี่ที่เป็นเรื่องราวของคริสต์ สวาหะก็เน้นไปทางพุทธที่แตกเหล่าไปหลายนิกาย ในเรื่องจะเกี่ยวพันถึงพระเกาหลี ญี่ปุ่น ธิเบต ที่มีความเชื่อยิบย่อยต่างกัน


ความสนุกของเรื่องคือการที่ตัวเอกเป็นศาสตราจารย์ศาสนา แต่กลับไม่เชื่อศาสนาใดๆ ไม่เชื่อการมีอยู่ของพระเจ้า และพยายามท้าทายพิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งใดๆ ก็ตามมาจากมนุษย์ก่อกำเนิดเองทั้งสิ้น


เกี่ยวกับศาสนา


นอกจากศาสนาพุทธแล้ว หนังยังเกี่ยวพันกับศาสนาคริสต์ มีการอ้างถึงบทต่างๆ ในคัมภีร์ แต่หนังก็ไม่ได้พาให้คนรู้สึกแอนตี้ศาสนาเหล่านี้แต่อย่างใด แค่เป็นการตั้งคำถามอีกด้าน ว่าสิ่งเหล่านี้มีความเป็นจริงแค่ไหน ซึ่งหนังเปิดเรื่องมาด้วยสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติให้เราเห็น


ก่อนจะพาคนดูไปพบกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ดูยังไงก็เป็นคนละเรื่องกับตอนแรก นั่นยิ่งทำให้เรื่องราวน่าพิศวงมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าสองเรื่องนี้เกี่ยวพันกันได้ยังไง ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นความน่าตื่นตะลึง ไม่แพ้หนังอย่างดาวินชี่โค๊ดเลยครับ (แม้สเกลจะเล็กกว่า)


สำหรับปมปริศนา


ก็ถือว่ามีความซับซ้อนพอประมาณ มีเซอร์ไพรซ์บ้าง มีหักมุมบ้างให้ทึ่งบ้าง แต่ถ้าดูดีๆ จะสังเกตเห็น hint ที่หนังออนไลน์ปล่อยมาบ้างเล็กๆก่อนจะเฉลยจริงท้ายเรื่อง ซึ่งก็เป็นข้อดีของเรื่องนี้ ที่มีการทยอยคลายปม ไม่งั้นอาจเดี้ยงหนักไปอีกด้วยความยากของเนื้อหาศัพท์แสง


ด้านนักแสดง


หนังได้ดาราชั้นนำอย่าง ลีจุนแจ จากเรื่อง Along With the Gods มาขับเคลื่อนเรื่องราว ทั้งยังแจ้งเกิดให้ดาราเด็กหน้าใหม่อย่าง ลีแจอิน ในบทของแฝดสาวที่เกิดมาราวต้องคำสาป แฝดผู้น้องเป็นแผลที่ขา ส่วนแฝดคนพี่รูปลักษณ์ราวปีศาจต้องถูกกักขังในห้องตลอดชีวิต


โดยลีแจอินสามารถคว้ารางวัลดาราหน้าใหม่จากเวทีในเกาหลีไปได้ สมทบด้วยดาราชายเจ้าของรางวัลดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยมปี 2016 จากเวทีบลูดราก้อนอย่าง ปาร์กจุนมิน และดารารุ่นเก๋าอย่าง จุงจินยอง ด้วย


จุดเด่น


การเล่าแบบผูกปริศนาถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง แม้ท้ายที่สุดเป็นผู้ชมเองนี่ล่ะที่ต้องตัดสินความจริงและไม่จริงที่เกิดขึ้น จนถึงบทสรุปสุดท้ายว่าใครคือเทพใครคือมารกันแน่ แต่ที่ต้องชื่นชมมากคือบทหนังทั้งพลอตและบทสนทนานั้นทำได้ดีมาก น่าติดตาม


ทั้งยังชวนให้คิดอยู่ตลอดตามสาระของหนัง เป็นหนังที่ตั้งคำถามต่อความเชื่อ และการตัดสินความดีความชั่วได้อย่างน่าตื่นเต้น และมีเสน่ห์แปลกประหลาดอีกเรื่องหนึ่งทีเดียว ยังต้องชื่นชมไปถึงโปรดักชั่นที่ทำได้สุดยอดทั้งการถ่ายภาพและการออกแบบงานสร้าง


ซึ่งเกาหลีทำได้ดีอยู่แล้ว ดูไปก็น่าเจ็บใจที่เกาหลีไปได้ไกลขนาดนี้แล้ว ในขณะที่เรื่องเหนือโลกของบ้านเรานั้นก็โดดเด่นมีให้เล่นมากมายแต่ยังไม่สามารถทำออกมาเป็นหนังได้คมคายและน่าจะจำมากพอ ใครอยากชมหนังที่มีพุทธเป็นพลอตสยองขวัญแถมงานเนี้ยบด้วยนี่คือเรื่องที่พลาดไม่ได้เลยล่ะ

รีวิว Svaha The Sixth Finger

ข้อเสีย


ข้อเสียของเรื่องก็อาจจะเป็นการหักแนวจากหน้าหนังตอนแรกอยู่สักหน่อย นี่ไม่ใช่หนังผี แม้จะมีผีจริงๆ (หลอกจริงจังด้วย) นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญ แม้จะมีฉากสยองขวัญที่น่ากลัวมากก็ตาม แต่มันเป็นหนังสืบสวนคดีฆาตกรรมเต็มรูปแบบ


แค่แทรกเรื่องเหนือธรรมชาติลงเป็นระยะๆ สำหรับคนที่คาดหวังหนังผีล้วนๆ เต็มๆ ไม่ชอบแนวสืบสวนก็อาจจะผิดหวัง แต่สำหรับผมแล้วชอบมากที่หนังเลือกไปในทิศทางสืบสวนลงลึกท้าทายศาสนาหลักโดยตรง


โดยรวม


นี่เป็นหนังที่ดูจบแล้วคิดว่าตัวละครอย่างพัคอุงแจ ยังสามารถไปต่อได้อีกเรื่อยๆ เหมือนอย่างที่ดาวินชี่โค๊ดทำเป็นซีรีส์ต่อเนื่องหลายภาค หนังทำให้ตัวละครมีมิติได้อย่างน่าสนใจ พร้อมด้วยตัวละครสมทบอื่นๆ ที่ช่วยกระจายบทบาทไขคดีปริศนาได้อย่างน่าติดตาม


ถ้าใครชอบดาวินชี่โค๊ด ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ไม่น้อย แม้สเกลหนังจะดูเล็กกว่า แต่ก็สนุกไม่แพ้กันเลยครับ เพียงแต่หนังอาจจะมีเรื่องเหนือธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวตรงๆ มากกว่าเท่านั้น ต่างกับดาวินชี่ที่ใช้การเล่าคลุมเคลือๆ แนวประวัติศาสตร์ว่าจริงหรือไม่จริง


อาจจะเป็นความเว่อร์คนละแบบของเรื่องเล่าทั้งสองศาสนา แต่ทั้งสองก็มีความเกี่ยวพันกันหลายอย่าง ที่หนังชี้ให้เราเห็นจุดเชื่อมโยงได้อย่างสนุก และทำให้คล้อยตามได้อย่างน่าเชื่อถือด้วยครับ


สรุป


สรุปแล้ว Svaha: The Sixth Finger (2019) สวาหะศรัทธามืด เป็นหนังระทึกขวัญ สยองขวัญ เหนือธรรมชาติ ที่ขอใช้คำว่า น่าติดตามก็แล้วกัน เพราะในแง่มุมความระทึกขวัญบันเทิง สถานการณ์ชวนลุ้น ค่อนข้างมีน้อย หนังเน้นไปที่การสืบสวน ไขปริศนา ความเชื่อ เสียมากกว่า หากคุณเป็นคนที่ชอบหนังสืบสวน ยิ่งกับการไขปริศนาทางลัทธิ ความเชื่อ ที่ไม่ได้มีออกมากันบ่อย ๆ น่าจะถูกใจเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

ดู 104 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

It Chapter Two

The Nun

Don’t Listen

コメント


bottom of page