รีวิว San Andreas - มหาวินาศแผ่นดินแยก
ถ้าพูดถึงหนังภัยพิบัติหลายคนคงจะนึกถึงหนังที่หนีเอาชีวิตอย่างเอาเป็นเอาตายกับหายนะที่พระเจ้าลงโทษมนุษย์และเป็นบทเรียนให้จดจำไว้เสมอว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์นั่นคือธรรมชาติ สำหรับ San Andreas กลายเป็นภาพยนตร์ภัยพิบัติอีกเรื่องที่สร้างออกมาได้ยอดเยี่ยม มันส์ระทึกสุดๆ รวมถึงสะท้อนให้เห็นหลายแง่คิดเกี่ยวกับธรรมชาติ ชีวิต และเป็นการสอนวิธีการรับมือกับความหายนะครั้งใหญ่นี้ ถือว่าครบรสชาติที่คอหนังไม่ควรพลาด รีวิว San Andreas
เรื่องย่อ
เรย์มอนด์ "เรย์" เกนส์ เป็นกัปตันจากหน่วยช่วยชีวิตทางอากาศของแผนกดับเพลิง กำลังอยู่ในช่วงหย่าร้างกับเอ็มมา และวางแผนเดินทางไปซานฟรานซิสโกกับเบลก ลูกสาวของเขา ขณะเดียวกัน นักธรณีวิทยาของคาลเทค ลอว์เรนซ์ เฮส์
และเพื่อนร่วมงาน ดร.คิม พาร์ก อยู่ที่เขื่อนฮูเวอร์ กำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับเครื่องทำนายแผ่นดินไหวเครื่องใหม่ เมื่อพบรอยเลื่อนปริศนาใกล้เคียงเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เหตุนี้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 แมกนิจูดที่พังทลายเขื่อนและคร่าชีวิตพาร์ก
ถ้าพูดถึงหนังภัยพิบัติหลายคนคงจะนึกถึงหนังที่หนีเอาชีวิตอย่างเอาเป็นเอาตายกับหายนะที่พระเจ้าลงโทษมนุษย์และเป็นบทเรียนให้จดจำไว้เสมอว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์นั่นคือธรรมชาติ
สำหรับ San Andreas กลายเป็นภาพยนตร์ภัยพิบัติอีกเรื่องที่สร้างออกมาได้ยอดเยี่ยม มันส์ระทึกสุดๆ รวมถึงสะท้อนให้เห็นหลายแง่คิดเกี่ยวกับธรรมชาติ ชีวิต และเป็นการสอนวิธีการรับมือกับความหายนะครั้งใหญ่นี้ ถือว่าครบรสชาติที่คอหนังไม่ควรพลาด
แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่มนุษย์เฝ้าหาทางจะคำนวณและพยากรณ์ล่วงหน้าเพื่อให้ความเสียหายเกิดขึ้นน้อยที่สุด แต่มันก็กำลังจะเป็นจริงแล้วในโลกภาพยนตร์ เมื่อนักวิทยาศาสตร์แผ่นดินไหวกลุ่มหนึ่งใกล้ค้นพบการทำนายได้
แต่พวกเขาก็ต้องพบว่า ตัวเองกำลังเจอของจริงและจำเป็นต้องประกาศให้คนอเมริกันได้รับรู้โดยเร็วที่สุด เรื่องราวในหนังเรื่องนี้ เสี้ยวหนึ่งมันจึงเป็นเรื่องของคนกลุ่มนี้
เนื้อเรื่อง
เป็นเรื่องราวของเรย์ (ดเวย์น จอห์นสัน )นักกู้ภัยทางอากาศ ที่ประสบปัญหาครอบครัว เอมมา ภรรยากำลังจะขอหย่าเพื่อไปคบกับมหาเศรษฐีเจ้าของตึกระฟ้าในซานฟรานซิสโก แต่ลูกสาวของเรย์อยากให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมระหว่างนั้นเอง
ได้เกิดเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวขึ้นโดยเป็นผลมาจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน San Andreas สั่นไหวขนาดเกินกว่า 9.5 ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักตึกเกิดถล่ม แผ่นดินแยก การจราจรและการสื่อสารถูกตัดขาด
เรย์ตัดสินใจขับเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยภรรยาซึ่งติดอยู่สูงในลอสแองเจลลิส เขาเห็นสภาพทุกอย่างพังพินาศก่อนที่จะช่วยอดีตคนรักของเขาไว้ได้ พร้อมกับตีเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปช่วยลูกสาวที่ซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการเตือนภัยว่าอาจจะพังพินาศในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ระหว่างการเดินทางเรย์กับเอมมา เริ่มพูดคุยถึงความหลัง ความบาดหมางและรอยแผลที่ฝังลึกในจิตใจของตัวละครทั้งสอง นำพาไปสู่การตามหาและช่วยชีวิตลูกสาวที่สุดระทึกและชวนให้ติดตามตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเราอาจจะเคยชินกับหนังภัยพิบัติยุคเก่าๆ
แต่เรื่องนี้นำสไตล์ดูหนังฟรี แบบเดิมมาใช้แต่เพิ่มเติมเบื้องหลังตัวละคร ยัดเทคนิคเอฟเฟ็กต์จัดเต็มแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกได้ว่าเล่าเรื่องตามสูตรหนังโลกแตก แต่มันส์จนคาดไม่ถึงเลย
ด้านตัวละคร
เรื่องราวของตัวละคร (ที่มักจะมีแบคกราวน์ว่าครอบครัวจะต้องพลัดพรากชั่วคราว) ในเรื่องนี้ครอบครัวของเรย์(ดเวย์น จอห์นสัน) ต้องแยกทางกับเอ็มมา(คาร์ล่า กูจิโน่) ภรรยาเก่า เพราะเธอกำลังจะไปแต่งงานกับมหาเศรษฐีทางด้านวิศกรอย่างแดเนียล (ไอโอน กรัฟฟัดด์) แต่ดูเหมือนว่าลูกสาวคนสวยอย่างเบล็ค(อเล็กซานดรา แดดดาริโอ) นั้นอยากจะให้พ่อและแม่กลับมาประสานร้อยร้าวกันดังเดิมมากกว่า
พล๊อตของเรื่อง
ขณะที่พล็อตเรื่องหลักนั้นเจาะจงไปที่ครอบครัวๆ หนึ่ง ที่มีเรย์ (The Rock/Dwayne Johnson) พ่อนักผจญเพลิงผู้มีปม เขาเคยเสียลูกสาวคนเล็กจนกลายเป็นปมขัดแย้งทำให้ต้องเลิกร้างกับเอ็มม่า (Carla Gugino) ที่กำลังจะได้สามีคนใหม่เป็นหนุ่มหล่อรวยอย่าง แดเนียล ริดดิค (Ioan Gruffudd) แต่ก็ยังพอมีกาวใจที่พอจะช่วยอะไรได้บ้างอย่างเบลค (Alexandra Daddario) สาวน้อยอกโตที่เรย์รักสุดหัวใจ
ในวันที่เขากำลังจะได้พักก็ดูเหมือนเขาจะได้ภารกิจใหม่ คือ การไล่ช่วยเหลือคนในครอบครัวทีละคนๆ ให้รอดพ้นจากแผ่นดินไหวอันเกิดจากรอยเลื่อนซานแอนเดรสที่สร้างแรงสั่นสะเทือนระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่มีการจดบันทึกไว้
ด้วยความที่ San Andreas เป็นหนังที่ใช้พล็อตเรื่องแบบสูตรสำเร็จ นั่นหมายความว่าคนที่เคยดูหนังในแนวทางนี้มาแล้ว คงจะพอเดาทางของเรื่องราวกันได้ ดังนั้นปัจจัยสำคัญที่ผู้กำกับจะทำให้คนดูกลุ่มนี้ (และกลุ่มอื่นๆ)
ก็คือความพยายามในการสร้างตัวละครให้เป็นที่รักของผู้ชมจนอยากจะเอาใจช่วยให้พวกเขารดชีวิตจากเหตุการณ์ร้ายๆนี้ไป และขณะเดียวกันฉากมหันตภัยก็จะต้องมีความน่าเต้นตื่น ตื่นตาตื่นใจแบบที่เราไม่เคยเห็นมาจากหนังเรื่องไหนมาก่อนด้วย
มหันตภัยแผ่นดินแยก
หนังเริ่มที่ภารกิจที่ทำให้เรารู้จักกับเรย์ ก่อนจะพาเราไปรู้จักกับจุดเริ่มของแผ่นดินไหวที่ถูกทำนายว่ามันยังไม่ใช่ของจริง มันยังไม่แรงที่สุด และมันกำลังจะมา ก่อนจะถาโถมทุกอย่าง ภารกิจของผู้เป็นพ่อและสามีที่ต้องฝ่าฟันกับภารกิจแสนสุดหินจนคนดูเองก็คงคิดว่า หากตัวเองไปอยู่ในเหตุการณ์เยี่ยงนั้นเชื่อได้ว่าคงตายไปแล้ว
แต่ด้วยความเป็นเรย์ที่สวมบทโดย The Rock ทุกอย่างช่างดูไม่ยากเย็น ชายคนนี้เก่งเวอร์ทำได้ไปเสียทุกอย่าง สารพัดประโยชน์ถึงขั้นที่ทำให้คนดูคิดว่า ถ้าจะรอดจากแผ่นดินไหวระดับมหึมาเช่นนี้คงต้อง “มีผัวเป็น The Rock” เท่านั้น ต้องขอชมว่าความสนุกลุ้นในแต่ละครั้งที่มหันตภัยเกิดขึ้น
ดราม่าของครอบครัว
การพัดพรากของตัวละคร แน่นอนว่าเรื่องราวมันจะระทึกใจได้ ครอบครัวจะต้องมีเหตุต้องจากกันชั่วคราว (และช่วยเพิ่มฉากภัยพิบัติต่างสถานที่) ตรงจุดนี้เองจัดได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คนดูเริ่มเอาใจช่วยบรรดาตัวละครในเรื่องให้อยู่รอดปลอดภัย
และมีโอกาสได้กลับมาพบหน้ากันดังเดิม ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่คนดูจะลุ้นกับบรรดาสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งหนังใหม่ชนโรงอย่าง San Andreas ก็เดินเรื่องอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งช่วงให้คนดูเบื่อหรือมัวแต่ต้องรับฟังปัญหาครอบครัวของเรย์อย่างเดียว
ช่วงเวลาที่ครอบครัวอาจะจะได้พบกัน (หรือจากกันตลอดกาล) ช่วงเวลาที่ตัวละครนำของเรื่อง (เรย์) จะต้องตามหาภรรยา (เอ็มมา) และลูก (เบล็ค) ให้กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า จะได้พร้อมหน้ากันจริงๆหรือไม่ขออนุญาตไม่สปอยล์นะครับ
ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องภัยพิบัติอย่างเดียวแต่ผสมส่วนดราม่าของครอบครัวเข้าไปด้วย แต่ไม่ใช่ความฟูมฟายใดๆและออกมาได้อย่างพอดิบพอดี หนังสะท้อนให้เห็นความรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ที่ต้องการปกป้องลูกไว้ด้วยชีวิต กับความรู้สึกที่ฝังลึกมาตลอดชีวิต
เป็นปมที่ดีเยี่ยมของหนังเรื่องนี้ การถ่ายทอดของบุรุษมาดแมนอย่าง จอนห์สัน แสดงความเป็นพ่อออกมาได้อย่างเปี่ยมล้นทางสีหน้าและแววตา ความสามารถของเรย์จัดเต็มตั้งแต่ซิ่งเฮลิคอปเตอร์ ขับเครื่องบิน ซิ่งกระบะเหยียบคันเร่งเต็มมิดไมล์
และขับเรือยนต์ผจญคลื่นด้วย เรียกได้ว่าครบทุกเครื่องยนต์และมันส์มากจนลุ้นกับความสามารถของดเวย์นอย่างไม่ติดเบาะ มือจิกเบาะทุกๆ 3 นาที แถมยังเผลอตกใจและกรี๊ดร้องออกมาในหลายๆฉากด้วย
การเตรียมความพร้อม
สอดแทรกไปด้วยเรื่องราวของวิชาการธรณีวิทยาที่พยายามบ่งบอกว่าโลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปมากและภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาเกินกว่าที่มนุษย์ตัวเล็กๆจะรับมือความหายนะไหว แต่สิ่งที่สามารถทำได้คือการตั้งสติ เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมและหาหนทางเอาตัวรอด
ถึงแม้วิทยาศาสตร์สามารถคาดการณ์และพยากรณ์เหตุล่วงหน้าได้แต่นั่นก็ผิดคาดเพราะพระเจ้าเป็นผู้สร้างเซอร์ไพรส์และเล่นใหญ่ จัดหนัก จัดเต็ม จนเราทำได้เพียงแค่ทำใจและสวดภาวนาให้พวกเขาปลอดภัยเท่านั้น
ตัวหนังพยายามเชื่อมโยงกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ รวมถึงอธิบายความสำคัญของรอยเลื่อน San Andreas ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นจุดรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกที่พร้อมจะเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลาเหมือนกับระเบิดเวลาที่ผูกติดไว้เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเวลาที่พร้อมจะปะทุนั้นคือตอนไหน
จุดที่ชอบ
สิ่งหนึ่งที่อยากพูดถึงคือ ซีจีในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างทำได้ละเอียดสมจริงมาก นำเสนอมุมมองของภาพเสมือนว่าผู้ชมกำลังประสบเหตุการณ์นั้นอยู่ด้วยตัวเอง ภาพออกมาเนียนไม่ดูโดดเบลอจนมองเห็นได้ชัด เรนเดอร์มาอย่างคมเก็บทุกรายละเอียด แม้เนื้อเรื่องจะไม่โดดเด่น แต่เรื่องนี้ซีจีเด่นโดดออกมาเลยแหละ
ความตระการตาของ Visual Effect
นอกจากนี้ San Andreas ยังฉายภาพให้เห็นความพินาศของตึกระฟ้า บ้านเมืองและสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวให้เราได้เตรียมตัวกันได้เลยเพราะเราไม่รู้ว่าธรรมชาติจะเอาคืนมนุษย์ตอนไหน ความตระการตาของ Visual Effect เพิ่มความน่ากลัวให้กับมหาวิบัติครั้งนี้ราวกับมันปรากฎอยู่เบื้องหน้าจริงๆ
ยิ่งถ้าได้ชมในระบบ IMAX จะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของฉากที่เป็นตึกนับร้อยล้มลงเหมือนโดมิโน่พังเป็นแถบๆ ควันไฟพวยพุ่ง เศษซากตึกที่เฉียดหัว เฉียดตาทะลุจอออกมา แต่ถ้าชมในระบบ 4DX รับรองว่าสะเทือนเหมือนไปยืนอยู่ใกล้รอยเลื่อน San Andreas เลยทีเดียว
โดยรวม
โดยรวมแล้ว ถือได้ว่า ‘มหาวินาศแผ่นดินแยก’ ถูกสร้างมาในขั้นที่ค่อนข้างน่าพอใจ แม้เรื่องราวจะดูไม่มีอะไร ภารกิจที่แสนยากกลับดูจะแสนง่ายเมื่ออยู่ในมือเดอะร็อค แต่การดำเนินที่พอสนุกลุ้นได้ ก็พอจะทำให้คนดูสนุกกับหนังไปได้ตลอดรอดฝั่ง
สรุป
เป็นอีกหนังภัยพิบัติที่ยอดเยี่ยมและขึ้นหิ้งในแง่ความมันส์ ครบรสและภาพงดงาม คุ้มค่าที่ได้ชมและได้เผื่อคิดว่าถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิต เราพร้อมจะรับมือกับมันอย่างไร เตรียมพร้อมสู้ไม่ถอย ดิ้นรนเพื่อเป็นผู้รอดบนซากปรักหักพังหรือจะยอมแพ้ต่อโชคชะตาปล่อยให้เป็นไปตามที่ธรรมชาติและพระเจ้าลิขิตไว้
Comments