รีวิว Run - มัมอำมหิต
เปิดมาสัปดาห์ใหม่ ก็ได้เจอหนังที่ชักชวนให้ลุ้นระทึกกันสุดตัวกันเลย เรื่องราวที่ถ้าให้เล่าเรื่องย่อก็คงจะพอจบได้ในบรรทัดเดียว แต่พอเล่าจริง หนังพาไปหายใจไม่ทั่วท้องกับชะตาของสาววัยรุ่นที่ต้องหนีให้พ้นจากแม่สุดโหดเหี้ยม ในหนังที่ชื่อไทย มัมอำมหิต แต่ชื่อฝรั่งที่สั้นๆ ง่ายๆ คำเดียวว่า รัน รีวิว Run
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ โคลอี้ เด็กสาวพิการที่ไม่สามารถเดินได้เอง เธอถูก ไดแอน แม่ที่เลี้ยงดูเธอมาตลอด 17 ปี ปิดบังทุกอย่างและตัดขาดเธอจากโลกภายนอก จนวันหนึ่งเธอค้นพบความจริงที่แม่คนที่เธอไว้ใจที่สุดปิดบังไว้ และทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากอันตรายนี้ คือเธอต้อง “หนี” ให้รอด
เปิดมาสัปดาห์ใหม่ ก็ได้เจอหนังที่ชักชวนให้ลุ้นระทึกกันสุดตัวกันเลย เรื่องราวที่ถ้าให้เล่าเรื่องย่อก็คงจะพอจบได้ในบรรทัดเดียว แต่พอเล่าจริง หนังพาไปหายใจไม่ทั่วท้องกับชะตาของสาววัยรุ่นที่ต้องหนีให้พ้นจากแม่สุดโหดเหี้ยม ในหนังที่ชื่อไทย มัมอำมหิต แต่ชื่อฝรั่งที่สั้นๆ ง่ายๆ คำเดียวว่า Run
ตัวหนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังระทึกขวัญ สยองขวัญ เร้นลับ จิตวิทยา เป็นผลงานกำกับและเขียนบทเรื่องล่าสุดของ อานีช ชาแกนตี้ ที่เคยสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์อย่าง Searching เสิร์ชหา....สูญหาย!?
เมื่อปี 2018 ที่ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย จากวิธีการนำเสนอที่มีชั้นเชิงที่มาพร้อมกับเรื่องราวเข้มข้นหักมุมที่เกิดขึ้นกับชีวิต “พ่อ-ลูก” คู่หนึ่ง แต่ในบทงานล่าสุดนี้ขอเปลี่ยนคู่มาเป็นเรื่องของ “แม่-ลูก” กันบ้าง
เนื้อเรื่อง
หนังเล่าเรื่องราวของครอบครัวที่ประกอบไปด้วยแม่ไดแอน (ซาราห์ พอลสัน) และลูกสาวโคลอี้ (เคียร่า อัลเลน) ที่ตัวโคลอี้นั้นมีโรครุมเร้ามากมายตั้งแต่เกิด และเธอต้องนั่งวีลแชร์ตลอดชีวิต ก็ได้แม่นี่แหละที่ดูแลมาตลอด 17 ปี ...
แต่แม้โคลอี้จะมีโรครุมเร้ามากแค่ไหน ก็หวังอยากมีชีวิตอิสระเป็นของตัวเองบ้าง ซึ่งความหวังก็คือ การได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ระหว่างรอคอยผลการสอบเข้าจากมหาวิทยาลัยจนความหวังเริ่มลดลงทุกที
โคลอี้ก็ได้พบพิรุธบางอย่างจากไดแอนผู้เป็นแม่ ความสงสัย นำไปสู่การค้นหา จนได้พบความจริงที่น่าสะพรึงกลัว ที่ทำให้เธอต้องตั้งคำถามกับความรักและความปรารถนาดีของแม่ที่มีให้เธอมาตลอดชีวิต...
การดำเนินเรื่อง
บ้านหนึ่งหลัง แม่ลูกหนึ่งคู่ ซึ่งลูกต้องนั่งรถเข็น กลายเป็นเงื่อนไขที่สร้างให้หนังมีอะไรให้คนดูได้ลุ้นกันตลอดเรื่อง จะว่าไป Run มัมอำมหิต ก็มาในทิศทางเดียวกันกับหนังแนวๆ นี้ทั่วไป คือ บอกเล่าภาพรวม เพิ่มเติมข้อมูล เฉลยข้อมูลที่หักล้างกับข้อมูลที่ให้มาในตอนต้น
และปิดจบด้วยบทสรุปที่ทำให้คนดูต้องอึ้ง! และนี่อาจเป็นคุณสมบัติพิเศษของผู้กำกับ อานีช ชาแกนตี้ ที่ทำให้รูปแบบการนำเสนอที่ดูเป็นสูตรสำเร็จ ยังมอบความแปลกใหม่และแตกต่างให้กับคนดูได้
จริง ๆ หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยครับ เป็นหนังที่ไม่ได้มีพล็อตทวิสต์หรือมีจุดหักมุมอะไรมากมาย ตัวหนังเคลื่อนไปแบบเป็นเส้นตรงไปตั้งแต่ต้นจนจบเรื่ีอง แบบไม่ได้มีอะไรหวือหวาหรือหักมุม แถมตัวหนังยังไม่ยาวมาก
แค่ชั่วโมงครึ่งเอง แต่ก็ต้องบอกเลยครับว่า นี่คือหนังที่จะทำให้หายใจไม่ทั่วท้องได้จริง ๆ ด้วยพล็อตสไตล์หนังทริลเลอร์ที่ออกแบบมาอย่างดี และการวางปม วางเควสต์ต่าง ๆ ไว้ให้โคลอีตามแก้ ทำให้ตัวหนังกลายเป็นหนังระทึกขวัญที่โคตรระทึกกันแบบไม่เว้นว่างให้พักหายใจเลยแหละ
ตัวหนังถูกดูหนังออนไลน์แบ่งเป็น 3 แบบง่าย ๆ โดยที่หนังเรื่องนี้กล้าที่จะลงทุนในแบบแรกไปกับการค่อย ๆ เผยความโรคจิตของแม่ออกมา ด้วยการคลายปมเพียงไม่กี่ปม ซึ่งถือเป็นปมที่จะเฉลยให้เห็นว่าแม่ของเธอนั้นมีอะไรที่ผิดปกติ และกำลังจะคุกคามเธออยู่
ซึ่งหนังก็สามารถเดินเรื่องได้อย่างระทึกกันตั้งแต่องก์แรกโดยที่ไม่ได้รู้สีกว่าอืดแต่อย่างใด ส่วนแบบที่สอง คือพาร์ตของการที่โคลอีเริ่มจะพยายามหนีแม่แบบแอบ ๆ ก่อน
จนมาถึงแบบสุดท้ายที่ทั้งคู่ต้องไล่ล่าและหลบหนีกันแบบซึ่ง ๆ หน้า ซึ่งทั้งสามองก์เป็นการไล่เรียงความอึดอัดกระอักกระอ่วนชวนลุ้นได้แบบไม่ติดเก้าอี้ไปตลอดทั้งเรื่อง
ผู้พิการนั่งวีลแชร์จริง ๆ
ความเจ๋งอีกอย่างคือการที่ผู้กำกับกล้าที่จะเลือกใช้ เคียรา อัลเลน นักแสดงหน้าใหม่ที่มีความพิเศษคือ เธอเป็นผู้พิการนั่งวีลแชร์จริง ๆ ซึ่งกับหนังเรื่องนี้ ต้องบอกว่าน้องเคียราสามารถเอาอยู่กับบทโคลอี คนพิการที่ต้องพาร่างกายพิการหลบหนีแม่ผู้มีปัญหาทางจิต
ซึ่งต้องบอกว่า เคียร่าเองในบทแม้ว่าจะเป็นผู้พิการ แต่ก็ต้องบอกว่า แม้บทโคลอีนั้นจะเป็นคนพิการที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่อย่าได้ดูถูกว่าโคลอีจะอ่อนแอหรือไร้สมรรถภาพ น่าสงสารเชียวนะครับ
ตรงข้าม เธอเองฉลาดเป็นกรด และมีมีจิตใจที่เข้มแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งน้องเคียราสามารถสะท้อนสิ่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างสมจริงและน่าเอาใจช่วยมาก ๆ เมื่อมาผสมกับบทที่โคลอีเริ่มจะสงสัยในที่มาที่ไปของตัวเอง
และเริ่มที่จะสงสัยในตัวแม่ของตัวเอง และพยายามที่จะใช้สติปัญญาที่เธอมี เอาชนะข้อจำกัดด้านร่างกายที่เป็นอุปสรรค เพื่อที่จะพยายามหนีเอาตัวรอดจากแม่ที่ก็ฉลาดไม่แพ้กัน คอยไล่ล่าขัดขวางการหนีของเธอได้ทันควันตลอด
ส่วนผสมซีรี่ย์ Netflixเหล่านี้ทำให้ตัวหนังลุ้นระทึกและชวนอึดอัดจนใจสั่นทุกครั้งที่เราได้ดูโคลอีพยายามจะหนีแม่ แถมยังได้แอบสะใจเล็ก ๆ ตอนท้ายอีกต่างหาก !
จุดเด่น
โดดเด่นที่วิธีการนำเสนอที่มีชั้นเชิง ไม่โฉ่งฉ่าง ทำให้บางฉากน่ากลัวราวกับหนังผี บางฉากก็ทำให้เรารู้สึกลุ้นระทึกจนหายใจไม่ทั่วท้อง บางฉากดูไปก็รู้สึกอึดอัดจนอยากให้พอเสียที
การเล่นกับเงื่อนไขของผู้ทุพพลภาพที่ต้องนั่งวีลแชร์ วิธีการต่อสู้หรือเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ ผสานเข้ากับการปล่อยข้อมูลได้อย่างถูกจังหวะ กลายมาเป็นความลงตัว ดึงดูดให้ลุ้นและติดตามมากๆ
และที่ต้องชมอีกอย่างก็คือ สปิริตในการแสดงของน้องยอดเยี่ยมมาก ๆ ครับ เพราะในหนังจะมีฉากเสี่ยง ๆ ที่ดูแล้วหวาดเสียว และไม่คิดว่าคนพิการจะเล่นได้อยู่เยอะเหมือนกัน แต่น้องก็บ้าพลังและทุ่มเทในการเล่นฉากเสี่ยง ๆ แบบสุดตัวราวกับว่าลืมไปแล้วว่าตัวเองเดินไม่ได้อย่างไรอย่างนั้นเลยแหละ
และที่ไม่ชมไม่ได้เลยก็คือ ซาราห์ พอลสัน ผู้รับบทแม่ไดแอนนี่เองครับ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ตีบทได้สุดยอดมาก ๆ ครับ เป็นแม่โรคจิตที่ทั้งแสดงความรักลูกดั่งไข่ในหิน และกลายเป็นขั้วตรงข้ามที่ตามไล่ล่าลูกได้น่ากลัวสุด ๆ แบบที่อย่าว่าแต่ลูกเลย คนดูเองก็กลัวจนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ !
โดยรวม
ก็ยังคงเป็นหนังที่ให้ครบทุกอรรถรส ไม่ว่าจะหลอนหรือจะลึกลับ พร้อมกับสอดแทรกประเด็นสังคมมาอย่างเนียนๆ โดยเฉพาะแง่คิดการเลี้ยงดูแลลูกในปัจจุบัน ที่บางครั้งการดูแลลูกอย่างทะนุถนอม ก็ไม่ต่างไปกับการกดขี่และจำกัดอิสระเกินไป สะท้อนแง่คิดได้หลายมุมในสังคมปัจจุบันด้วย นี่จึงเป็นหนังที่มีอะไรมากกว่าการเป็นหนังเขย่าขวัญแม่ลูกที่ดูลุ้นๆ เรื่องหนึ่ง
สรุป
นี่คือหนังสยองขวัญที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ที่รับประกันความอึดอัดและชวนลุ้น กับบรรยากาศแห่งความจิตตกแบบไม่มีหยุดพัก ที่รับรองว่า ต่อให้ไม่ต้องพิการ หรือไม่ต้องเป็นลูกสาว ก็ยังลุ้นไปกับภารกิจหนีตายจากมัมหมีตัวร้าย (และแอบสะใจในตอนท้าย) ที่รับรองได้ว่า ดูแล้วจะลุ้นจนนั่งไม่ติดเบาะเลยล่ะครับ !
Comments