รีวิว Penguin Bloom - เพนกวิน บลูม
ในวันที่ไร้แรงบันดาลใจ ไร้ความสุขในชีวิต หนังบางเรื่องอาจมีส่วนช่วยให้ยังพอมีแรงพยุงให้สู้ต่อไป เรื่องราวที่ดัดแปลงสร้างมาจากหนังสือเล่มนี้ ที่กลายเป็นบทภาพยนตร์และเรื่องราวที่เคลื่อนไหวไปพร้อมกับเสียง ถูกถ่ายทอดให้เราได้ชมกันแล้วในสตรีมมิ่งออนไลน์ชื่อดัง กับหนังเรื่อง Penguin Bloom ชื่อไทยตรงตัว เพนกวิน บลูม ที่ผมหยิบมาเขียนถึงในวันนี้ รีวิว Penguin Bloom
เรื่องย่อ
การมาเที่ยวเมืองไทยของครอบครัวบลูมในปีนี้กลายเป็นฝันร้ายของ แซม (Naomi Watts/นาโอมิ วัตต์ จากหนังเรื่อง King Kong, Allegiant และ The Impossible) เธอกลายเป็นแม่ที่เดินไม่ได้ การตกลงมาจากที่สูงทำให้กระดูกสันหลังได้รับความเสียหาย เธอต้องพิการท่อนล่างและแทบจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ อย่างน้อยก็ในสายตาของตัวเธอเอง
แต่เธอยังมีสามีอย่าง แคเมรอน (Andrew Lincoln/แอนดรูว์ ลินคอล์น จากซีรีส์ The Walking Dead และหนัง Love Actually) ที่คอยช่วยเหลือเยียวยาทั้งกายและใจให้กับเธอ มีลูกชายทั้งสาม ทั้งโอลี่ รูเบ็น และโนอาห์ (Griffin Murray-Johnston) ที่วัยกำลังโต พวกเขาเล่นซนและดื้อไปบ้างตามประสาเด็กผู้ชาย
ในความคิดของแซมผู้ซึ่งเคยมีความสุขกับการเล่นกระดานโต้คลื่นอย่างสนุกสนาน วันนี้ เธอกลับเลือกจะเก็บตัว ไม่ออกไปไหน อยู่ในบ้านมืดๆ เบื่อหน่าย และไม่อยากมองเห็นทะเล
เมื่อวันหนึ่ง โนอาห์ไปพบเข้ากับลูกนกกางเขนที่ตกลงมาจากต้นไม้สูง เขาเก็บมันมาที่บ้าน แม้แซมจะไม่ยินดียอมรับมันในทีแรก แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ครอบครัวนี้กลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้ง
ภาพยนตร์ดราม่าครอบครัว กำกับโดย Glendyn Ivin นำแสดงโดย นาโอมิ วัตส์ วัตส์, แอนดรูว์ ลินคอล์น, แจ็คกี้ วีเวอร์ ดัดแปลงจากเรื่องจริงในหนังสือชีวประวัติ Penguin Bloom : The Odd Little Bird Who Saved a Family เพนกวิน บลูม : นกตัวจ้อยผู้ช่วยครอบครัว ของ แคเมอรอน บลูม และ แบรดลีย์ ทรีเวอร์ กรีฟ
จากบทภาพยนตร์ของ Shaun Grant และ Harry Cripps และฉายในโรงภาพยนตร์ที่จำกัดฉายเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา จนเน็ตฟลิกซ์ได้ทำการซื้อมาฉายทั่วโลกในวันที่ 27 โดย Roadshow Films สตูดิโอภาพยนตร์จากออสเตรเลีย
เนื้อเรื่อง
ความหวังอันแสบริบหรี่ของแซม บลูม (นาโอมิ วัตส์) ที่พลักตกลงมาจากจุดชมวิวในประเทศไทย เธอจึงกลายเป็นผู้ป่วยอัมพาตท่อนล่างลงไป เธอไร้ซึ่งความรู้สึกโดยสิ้นเชิง จากหญิงสาวผู้เป็นแม่และมีความสุขกับการเล่นเซิร์ฟ
ใช้ชีวิตเดินเหินไปไหนมาไหนตามใจอยาก กลับต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไปไหนมาไหนไม่สะดวกเพราะต้องอาศัยรถเข็นวีลแชร์ทำให้เธออุดอู้อยู่แต่ในบ้านและความรู้สึกไร้คุณค่าในตัวเอง
จนวันหนึ่งมีนกกางเขนที่บาดเจ็บบินมาตกอยู่แถวบ้าน โนอาห์ (กริฟฟิน มัวเรย์-จอห์นสตันท์) จึงเก็บมันมาและขอแซมเลี้ยงดูเจ้านกตัวนี้ไว้และตั้งชื่อมันว่า “เพนกวิน”
แรกเริ่มแซมก็อดรำคาญในเสียงร้องเรียก แต่ไม่นานนักเธอก็เริ่มรู้สึกว่าเจ้านกตัวนี้เองก็ทำให้เธอได้ฉุกคิดถึงคุณค่าของการมีชีวิตต่อไป การตระหนักในความรักของครอบครัว ปลดเปลื้องความรู้สึกอันเลวร้ายและพยายามก้าวผ่านจุดตกต่ำที่สุดของชีวิต
และหันกลับมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัวและลูกๆอีกครั้งรวมไปถึงหากิจกรรมที่คนเป็นอัมพาตครึ่งตัวอย่างเธอจะสามารถทำได้อย่างเช่นการพายเรือคายัค โดยมีโค้ชส่วนตัวคอยดูแล
องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยอารมณ์วูบไหวต่างๆนานาคืองานถ่ายภาพของแซม ชิปลิน ซึ่งเล่นกับโทนสีร้อนเย็น อันเป็นตัวกำหนดอารมณ์ของตัวละครในเรื่อง
โดยช่วงแรกหากลองสังเกตให้ดีเราจะพบว่าโทนสีส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีเย็นที่ตัวละครดูสิ้นหวังและอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน ตรงกันข้ามเมื่อแซมสามารถเอาชนะใจตัวเองได้และกลับออกมาใช้ชีวิตอีกครั้ง โทนสีในหนังก็เริ่มกลายเป็นสีโทนร้อนอบอุ่นขึ้นมา
การดำเนินเรื่อง
แม้หน้าหนังหนังใหม่เต็มเรื่อง จะดูเหมือนหนังดราม่าชีวิตทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วนี่ดัดแปลงจากชีวิตจริงของครอบครัว Bloom ที่คนเป็นแม่ประสบอุบัติเหตุระหว่างท่องเที่ยวที่ประเทศไทย จนกระทั่งได้รับเลี้ยงนกตัวหนึ่งและนกตัวนี้ก็ได้ช่วยมอบความสุขให้ทุกคนจนมีช่องในยูทูปเป็นของตัวเอง
เพื่อโชว์ความน่ารักของมันโดยเฉพาะ ทั้งยังได้นักแสดงชั้นดีอย่าง นาโอมิ วัตส์ นักแสดงหญิงเจ้าฝีมือที่ฝากผลงานภาพยนตร์ดัง ๆ มาแล้วมากมาย มารับบท แซม หญิงวัยกลางคนที่ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมจากอุบัติเหตุ จนไม่กล้าเข้าสังคม หรือออกสู่โลกภายนอก และจมอยู่กับฝันร้ายและความหวาดกลัวราวกับอยู่ในมหาสมุทรไร้ทางขึ้นสู่ผิวน้ำ
แอนดรูว์ ลินคอล์น นักแสดงชายที่เรารู้จักกันดีในบทของ ริค ตัวเอกของซีรีส์ The Walking Dead ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวบลูม ผ่านตัวละคร คาเมรอน บลูม ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พยายามจะรวมใจทุกคนไว้ท่ามกลางความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้าหาครอบครัว
และ แจ็คกี้ วีเวอร์ นักแสดงสมทบที่เราคุ้นหน้าตามาจาก The Grudge (2020) ในบทที่ปรึกษาดวงซวยที่ถูกคำสาปของวิญญาณร้ายและ Silver Linings Playbook (2012) พร้อมด้วยคะแนนวิจารณ์ที่อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
อาจจะไม่ได้เป็นที่ชื่นชมมากแต่ก็ชวนให้ติดตามว่าภาพยนตร์จะถูกถ่ายทอดออกมายังไง ยิ่งได้นาโอมิ วัตส์มาแสดงนำแบบนี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน
ภาพยนตร์เดินเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครลูกของแซม อย่างโนอาห์ที่เล่าเรื่องให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ก่อนหนังจะค่อย ๆ ใส่ผลที่ตามมาหลังอุบัติเหตุของแซมที่ประเทศไทย จากความประมาทของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีปัญหาแต่ไม่ได้รับการให้ความสนใจ
จนกระทั่งมีผู้ประสบเหตุอย่างแซม เธอต้องรู้สึกสิ้นหวัง ไร้อิสระภาพและไม่มีแม้แต่ความสุข นอกจากต้องพยายามใช้ชีวิตไปวัน ๆ กับครอบครัวที่มอบความรักให้กับเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถเดินได้อยู่ดี เธอผลักไสทุกคนออกไปและคิดว่าสักวันตัวเองอาจจะไม่มีชีวิตอยู่
กระทั่งมีเจ้านกกางเขนที่บาดเจ็บและบินไม่ได้มาคอยส่งเสียงร้องอย่างน่ารำคาญ จนสามารถเรียกความสนใจ และความห่วงใยจากเธอ ผู้ไม่ยอมเปิดรับใคร เมื่อเป็นเช่นนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนที่สิ้นหวัง กับ นกที่บินไม่ได้ ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารักน่าชัง
ราวกับเจ้าเพนกวินเป็นตัวละครหลักสำคัญของเรื่องที่พูดไม่ได้ แต่มักจะสื่อสารอะไรบางอย่างให้คนได้รับรู้ ในขณะเดียวกันปมตัวละครอื่น ๆ ก็ช่วยเพิ่มมิติให้เรื่องราวมากขึ้น โดยเฉพาะปมสำคัญของเรื่องที่ค่อย ๆ ใส่เข้ามา สลับกับฉากที่แสดงถึงความรักและความอบอุ่น
ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้รื่นไหล แม้บทจะไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเกินความคาดเดามากนัก อาจเพราะเป็นหนังที่สร้างจากชีวิตจริง
หนังใช้ภาพของทะเลแทนความเศร้าที่ตัวละครจมดิ่งลงไป ตัวละครอย่างแซมที่ต้องพยายามแหวกว่ายอยู่ในความมืดมิด ไร้แสงสว่างหรือแม้แต่อากาศจะหายใจทุกคืนก็ฝันร้าย และได้แต่รำพึงว่าตัวเองจะไม่มีวันกลับมาเดินได้
กระทั่งลูกชายอย่างโนอาห์ที่เอานกมาเลี้ยง แม้มันจะสร้างความน่ารำคาญเพราะด้วยความที่เป็นนก เธออยากจะไล่มันไป แต่แล้วด้วยความที่ทั้งคู่ต่างมีสิ่งที่ขาดหายไปเหมือนกัน เธอเดินไม่ได้ ส่วนเพนกวินบินไม่ได้ แต่มันก็พยายามที่จะช่วยเหลือทุกคน และมอบความสุขในแบบของมัน
แม้ว่าเธอจะต้องเจ็บปวด แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป เธอจึงรู้ว่าการเปิดใจให้กับสิ่งเล็ก ๆ อาจเป็นหนทางหนึ่งของการมีความสุข โดยไม่หลงลืมตัวตนของตัวเองไป และกล้าที่จะออกมาเผชิญโลกกว้างที่มีสิ่งสวยงามรอให้เธอค้นพบอยู่
ความสัมพันธ์ของครอบครัว
หนังสะท้อนภาพหนังออนไลน์ของการพยายามข้ามผ่านปัญหาของครอบครัว ไม่ใช่แค่ แซมที่ต้องค้นหาแรงบันดาลใจในชีวิต ตัวละครลูก ๆ ก็มีปมปัญหาในใจที่ทำให้ไม่คุยกับแซม แคเมอรอนที่ไม่เข้าใจว่าแซมต้องการอะไร มันมักจะจบด้วยการขึ้นเสียงใส่กันก่อนเพราะความไม่เข้าใจ
แล้วจบลงด้วยการพูดคุยอย่างมีเหตุผล หากครอบครัวไหนที่เลือกจะเปิดใจให้กัน ก็ย่อมที่จะหาทางเดินหน้าไปพร้อม ๆ กัน แม้แต่นกตัวหนึ่งที่อาจจะไม่ได้พิเศษสำหรับใคร ๆ มันอาจมีความหมายมากพอที่จะสร้างความรู้สึกที่เลือนหายไปอีกครั้ง
และเป็นคนเดิมที่ใหม่ไม่ยึดติดกับอดีตหรือความผิดของตัวเองหรือคนอื่น ขอเพียงแค่เราเชื่อมั่นและสามารถมองเห็นปัญหาจากความไม่เข้าใจ เราก็จะพบกับคำตอบที่ตามหามาตลอดก็ได้
องค์ประกอบต่างๆ
งานภาพเรียกได้ว่า มันสวยงาม มีความประณีต และให้อารมณ์ที่แตกต่างตามสถานการณ์ มีมุมกล้องหลายแบบ ไม่ว่าจะมีความสุขหรือทุกข์ สอดคล้องกับดนตรีที่ใส่เข้ามาก็ชวนให้คล้อยตาม แถมติดหูด้วย ชอบเพลงประกอบของมันมาก ๆ ทำให้น้ำตาซึมได้พอ ๆ กับหนังเลย
นาโอมิ วัตส์ สามารถแสดงให้เห็นถึงน้ำตาและความเจ็บปวดที่ส่งออกมาในบทของหญิงอัมพาตที่ไร้ทางช่วยเหลือตัวเอง ซีนแต่ละซีนที่ออกมา เป็นธรรมชาติ และคลาดสายตาแทบไม่ได้ กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เพราะเธอเลย เช่นเดียวกับ แอนดรูว์ ลินคอล์น ที่แม้จะไม่ได้โชว์อะไรมาก แต่ก็ทำให้เห็นว่าเขาก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมืออีกคน
นักแสดงอื่น ๆ ก็เหมือนกัน เล่นได้เป็นคนที่ดูไม่มีอะไรแต่สามารถทำให้เรารู้สึกอึ้งได้ โดยเฉพาะซีนปะทะอารมณ์ช่วงท้าย และที่ขาดไม่ได้เลย คือเจ้านกกางเขน เพนกวินที่แสดงออกมาได้ราวกับรู้ฉากรู้มุมกล้อง
และแทบจะนำพาตัวละครทุกตัวไปสู่เรื่องราวแสนอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นดาราเจ้าบทบาทเลยก็ว่าได้ ทั้งซีนสุข เศร้า เหงา แอ็คชั่น (ใช่ มีแอ็คชั่นด้วยครับ) แต่บทก็ติดกรอบเดิมคือมันไม่ได้มีอะไรใหม่ อาจจะให้ความอบอุ่นได้ แต่ออสการ์อาจจะเมินเฉยในด้านบท แต่การแสดงของนาโอมิ มันก็มากพอที่จะทำให้เธอได้เข้าชิงแล้วล่ะครับ
สรุป
ถ้าคุณชอบหนังดราม่าและนาโอมิ วัตส์ คุณจะไม่ผิดหวัง หรืออยากดูพี่ริค หรือ พี่แอนดรูว์ในบทบาทโชว์ฝีมือ คุณก็ต้องชอบ แถมด้วยความอบอุ่นของทั้งเจ้านก และความสัมพันธ์ของครอบครัวอีกด้วย
แต่ถ้าคิดว่าหนังจะมีอะไรที่แปลกใหม่กว่าหนังดราม่าเรื่องอื่น ๆ ที่เคยมี ก็คงต้องผิดหวัง เพราะมันเรียบง่าย และไม่มีอะไรที่ตราตรึงใจอะไร นอกจากเรื่องราวของเจ้านกเพนกวินที่เปลี่ยนชีวิตของครอบครัว ไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนหรืออะไรมากมาย
แต่ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง ถ้าอยากหาอะไรดี ๆ ดู ผมแนะนำครับ ความยาวหนังไม่มาก ชั่วโมงครึ่ง นี่คือหนังดราม่าที่ดูได้ทั้งครอบครัว ถ้าหากเบื่อหนังแนวอื่น ๆ ลองเปิดใจดูหนังดราม่าดู อาจจะได้เห็นแง่มุมในชีวิตที่เราอาจจะมองข้ามไปก็ได้
Commenti