รีวิว Major Grom: Plague Doctor - ฮีโร่ปราบวายร้าย
หรือในชื่อไทยคือ “ฮีโรปราบวายร้าย” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันรัสเซีย กำกับโดยโอเล็ก ทรอฟิม (Oleg Trofim) สร้างจากซีรีส์หนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกัน ผลงานของ อาร์ตยอม กาเบรลยานอฟ (Artyom Gabrelyanov) ที่ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์รัสเซีย Bubble Comics โดยฉบับการ์ตูนมีความยาวทั้งสิ้น 50 เล่ม 6 ภาค และนับเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกที่สร้างจากการ์ตูนรัสเซียก็ว่าได้ รีวิว Major Grom: Plague Doctor
เรื่องย่อ
เมื่อฮีโร่ศาลเตี้ยสวมหน้ากากเปิดมหกรรมฆ่าต่อเนื่องจนทำให้ทั้งเมืองต้องวุ่นวาย มีเพียงนักสืบนอกคอกและคู่หูมือใหม่เท่านั้นที่จะหยุดยั้งอาชญากรรมครั้งนี้
หนังโรงจากรัสเซียที่มาลงเน็ตฟลิกซ์เป็นเรื่องที่ 2 ต่อจาก The Silver Skates หนังรักสเก็ตน้ำแข็งสุดตื่นตาจากประเทศรัสเซีย คาดว่าเน็ตฟลิกซ์กำลังเริ่มดีลหาหนังจากรัสเซียมาลงในระบบเป็นออริจินอลคอนเทนต์ของตัวเอง เพราะมีอีกหลายเรื่องที่จะตามมา สำหรับเรื่องนี้เป็นแนวแอ็กชั่นกึ่งซูเปอร์ฮีโร่
ต้นฉบับมาจากการ์ตูนของนักเขียน Artem Gabrelyanov ของค่าย Bubble Comics. มีทั้งหมด 50 เล่มจบ ตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2016 มี 6 ภาคจบ ในหนังเอาภาคแรกของการ์ตูนมาเขียนในชื่อ Plague Doctor หรือ หมอกาฬโรค ซึ่งเป็นตัวร้ายหลักตัวแรกของเรื่องนี้
สำหรับจุดตั้งต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 มีการฉายตัวอย่างภาพยนตร์ในงาน IgroMir / Comic-Con Russia 2017 แต่เพราะประสบปัญหาระหว่างการผลิต ทำให้มีการเปลี่ยนทีมงานใหม่ และดำเนินโครงการใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง จนในที่สุด ก็ได้มีรอบฉายปฐมทัศน์ในวันที่ 25 มีนาคม 2021 ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเพิ่งจะลงระบบสตรีมมิง Netflix ในบ้านเรา เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
แม้จะไม่ได้มีการโปรโมตให้ครึกโครมเหมือนภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่ลงในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ไม่นานนักภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เข้าสู่ 10 อันดับยอดนิยมของ Netflix อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่เรากำลังห่อเหี่ยวหลังจากชม Resident Evil: infinite darkness
เพราะการเชื่อมโยงลำดับเรื่องที่น่าผิดหวังสุด ๆ ก็เลยอยากชมภาพยนตร์แอ็กชันสนุกสนานสักเรื่องเพื่อล้างตาอยู่พอดี และเรื่องนี้ก็โผล่เข้ามาในสายตา ตัวอย่างก็ดูน่าดูดีนะ น่าจะคลายเครียดได้ดีแหละ อย่ากระนั้นเลย กดเข้าไปชมกันหน่อยดีกว่า
เนื้อเรื่อง
Grom (อ่านว่า กร็อม) เป็นพระเอกของเรื่องนี้ที่เป็นตำรวจบ้าดีเดือดชอบฉายเดี่ยว ไม่ใส่เครื่องแบบปราบโจร แถมยังชอบใช้วิธีห่ามๆ นอกกฎมาจับโจร จนกลายเป็นเรื่องปวดหัวให้กรมตำรวจเสมอ แต่กลับไม่ค่อยมีใครรู้จักเขาดีนัก
เพราะความที่ไม่ต้องการเด่นดังหรือสุงสิงกับใคร จนกระทั่งการปรากฎตัวของ หมอกาฬโรค ศาลเตี้ยในชุดรบใส่หน้ากากนก ออกมาจัดการคนร้ายที่กร็อมจับได้ แต่ศาลปล่อยตัวไป โดยใช้วิธีเผาทั้งเป็น และโชว์ตัวเองลงโซเชียลมีเดียของรัสเซียจนกลายเป็นฮีโร่ของเมือง
กร็อมจึงต้องหาทางสืบให้ได้ว่าหมอกาฬโรคคือใคร โดยมีนักข่าวสาวในเน็ตตามเกาะติดคดีนี้ พร้อมกับตำรวจฝึกหัดที่ถูกส่งมาเรียนรู้งานกับกร็อมมาช่วยอีกแรง
การดำเนินเรื่อง
โครงเรื่องนี้เหมือนเป็นการเอาแบทแมนมาทำในแบบของตัวเอง เริ่มจากเมืองที่กร็อมอยู่ถึงจุดตกต่ำอาชญากรรมพุ่งสูง คนรวยอยู่เหนือกฎหมาย ประชาชนโกรธแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ กร็อมเองถ้าไม่ได้เป็นตำรวจก็เกือบๆ เป็นศาลเตี้ยแล้วเช่นกัน
เพราะแนวสืบสวนแบบนอกกฎหมาย โดยที่เขาเองยึดถือคติว่าคนร้ายเล่นนอกกฎก่อน ถ้าทำตามกฎไม่ทันกินแน่ๆ จนการปรากฎตัวของหมอกาฬโรคก็เหมือนเมืองนี้มีแบทแมนตัวจริงออกมา เพียงแต่ว่าหมอนี่เน้นฆ่าพวกที่รอดกฎหมายอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ก็เลยกลายเป็นเมืองนี้ยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้นไปอีกเมื่อศาลเตี้ยนอกกฎหมายกลายเป็นฮีโร่ของคนในเมือง จนดูเหมือนแอบสะท้อนเรื่องราวของแบทแมนนี่แหละ แต่ต่างกันที่แบทแมนดั้งเดิมไม่ฆ่าใครเท่านั้น (ไม่ใช่ในเวอร์ชั่น BvS)
ภาคแรกนี้เหมือนหนังใหม่เต็มเรื่องเป็นจุดกำเนิดทีมของกร็อมและโลกของวายร้าย ซึ่งก็เหมือนแบทแมนเลยนั่นแหละที่พอมีคนบ้าแบบนี้ออกมา ก็กลายเป็นการจุดชนวนให้มีคนจิตไม่ปกติออกมาทำตาม แต่ตัวเรื่องจะไปเผยเอาไว้ในสองเครดิตตอนจบ
ว่ายังมีต่อ และโลกของกร็อมยังมีตัวร้ายอื่นๆ เพิ่มมาอีก ในส่วนของกร็อมเองจากที่ฉายเดี่ยวมาตลอด ก็ได้เริ่มเรียนรู้ว่าการมีทีมดีกว่า ซึ่งตัวละครในทีมก็ดูทันสมัยหน่อยเพราะนักข่าวในเรื่องที่เป็นนางเอกด้วยทำงานแบบยูทูบเบอร์
คือหาข่าวเอง แฝงตัวเอง เรียกยอดวิวจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งในเรื่องนี้มีประเด็นของโซเชียลมีเดียสมมุติถึงระบบอิสระไม่มีการติดตามได้ว่าใครโพสต์อะไร (ฟรีสปีช) ซึ่งก็กลายเป็นเครื่องมือของวายร้ายในเรื่องไปในตัว
ทำให้ตำรวจไม่สามารถติดตามหมอนี่ได้ว่าเป็นใคร ส่วนตำรวจน้องใหม่ที่ตามกร็อมก็เป็นตัวละครเสริมเรื่องราวชีวิตของกร็อมที่ไม่เคยยอมรับ ได้เรียนรู้และปรับปรุงตัวเองใหม่เปิดใจให้กับการทำงานเป็นทีมในภายหลัง
จุดเด่น
จุดเด่นของเรื่องคือฉากแอ็กชั่นจากสกิลคิดล่วงหน้าของกร็อม ที่เขามักจะประเมิณสถานการณ์ออกมาหลายรูปแบบก่อนเข้าต่อสู้ ทำให้เรื่องนี้มีฉากแอ็กชั่นในซีนเดิมซ้ำๆ แต่แตกแขนงออกมาหลายแบบ ซึ่งแรกๆ อาจะดูงงๆ หน่อยเพราะตัวเรื่องก็ไม่มีเกริ่นอะไรเลย
แถมยังทำซะเหมือนเป็นการเดินเรื่องจริง ก่อนที่จะย้อนกลับมาเล่าเรื่องจุดนั้นใหม่ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นจุดขายของการ์ตูนเว็บหนัง HDเรื่องนี้แหละที่พระเอกจำลองภายในหัวไว้มากมายก่อนลุย แต่พอมาเป็นหนังแล้วมีการใช้บ่อยๆ ซ้ำๆ ก็กลายเป็นฉากเดียวโดนยืดไปหลายรอบจนเซ็งนิดๆ เหมือนกันว่าอันไหนจะเป็นเรื่องจริงสักที
ส่วนตัวร้ายของเรื่องก็เว่อร์กว่าพระเอกมาก เพราะมีชุดรบไฮเทค ใส่ผ้าคลุมเต็มยศ แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวชุดทำอะไรได้บ้างนอกกันกระสุน แต่อาวุธสำคัญคือเครื่องพ่นไฟที่ติดไว้ที่ข้อมือสองข้าง โดยใช้สารเคมีเป็นหลอดติดไว้ แล้วหลอดนี้ก็เป็นระเบิดได้ในตัวเองด้วย
แต่จุดเด่นของเจ้านี่จริงๆ คือ มันสมองมากกว่า ด้วยแผนการร้ายที่วางไว้เป็นสเต็ปโดยกร็อมเองก็ติดอยู่ในแผนนี้ด้วย กึ่งๆ เหมือนเล็กซ์ลูเธอร์ประมาณนั้น แต่เอาจริงๆ แผนร้ายในเรื่องก็ไม่ได้ใหม่ มีความคล้ายกับ V for Vendetta การ์ตูนแนวฮีโร่ด้านมืดและถูกนำมาสร้างเป็นหนังเช่นกัน
เข้าใจว่ากร็อมหยิบยืมไอเดียมาบ้างแน่ๆ เพราะเป็นการยำหลายอย่างในหนังฮีโร่ดังก่อนๆ มารวมกัน นอกจากนี้ตัวร้ายในเรื่องก็แอบมีหักมุมนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเซอร์ไพรส์อะไร เพราะหลายเรื่องก็เคยทำออกมาแล้ว
จุดด้อย
ด้วยความที่ตัวเรื่องสร้างจากการ์ตูนที่ไม่ได้ดาร์คมาก แม้ตัวเรื่องจะดูดาร์คๆ ก็ตาม ทำให้เรื่องนี้เป็นแนวการ์ตูนเว่อร์ๆ ล้นๆ ติดตลกอยู่เรื่อยๆ ซึ่งถ้าใครหวังแนวฮีโร่เข้มๆ แบบแบทแมนหรือแนวเรียลๆ ของ DC เรื่องนี้คงไม่ใช่
โดยรวม
ภาพรวมของโปรดักชัน การใช้แสงสีเงา การตัดต่อ การเดินเรื่อง และการสร้างสองตัวละครหลักจัดว่าทำให้ดีมาก ดูแล้วเพลินๆ และมีเสน่ห์ เส้นเรื่องก็ชวนลุ้นแต่ติดตามไปเกือบตลอดเรื่อง มีแค่ช่วงกลางที่แผ่วหน่อยๆ แต่ไม่นานนักก็มี Turning point ให้เราได้กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง ระหว่างการเล่าเรื่องก็แทรกภาษาภาพ ใช้การจัดองค์ประกอบฉากเล่าถึงความนัยได้ดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนวิธีการเล่าเรื่องซึ่งคนรัสเซียชื่นชอบได้ค่อนข้างชัดเจน (เดินเรื่องเร็ว ตัดต่อหนัก จะดาร์กยังไงก็ขอแอบยิงมุกสักหน่อย) เราคนไทยอาจจะดูแล้วรู้สึกตะหงิด ๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าสนุก เนื้อหาแน่น สะใจดีนะ ตื่นตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอน เชิญไปยลกันได้
สรุป
หนังแนวฮีโร่สร้างจากการ์ตูนของรัสเซียที่แอบยำไอเดียหลายๆ เรื่องจากอเมริกาเข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะโครงเรื่องตัวร้ายที่เหมือนแบทแมนดีๆ นี่เองแต่กลับด้านไปไล่ฆ่าคน ในขณะที่ตัวเอกเป็นตำรวจบ้าดีเดือดที่มีสกิลจำลองภาพเหตุการณ์ต่อสู้ล่วงหน้าหลายๆ แบบ
จนกลายมาเป็นฉากแอ็กชั่นแตกแขนงในเหตุการณ์เดียวหลายรอบ เรียกว่าเป็นจุดขายเด่นสุดของเรื่องนี้ รวมๆ ถ้าใครชอบแนวฮีโร่ก็ดูสนุกเพลินๆ ได้ แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรเลยแม้มาจากรัสเซียที่เราไม่คุ้นเคยก็ตาม
Commentaires