รีวิว Invasion - มหาวิบัติเอเลี่ยนล้างโลก
ภายใต้คำถามและสมมติฐานที่ว่า...จะเกิดอะไรขึ้นถ้า "น้ำ" ที่คิดเป็นสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ของโลกมนุษย์ ได้ถูกเอเลี่ยนใช้เป็นอาวุธทำลายล้าง! เรากำลังพูดถึงหนังแอคชั่นไซไฟฟอร์มใหญ่จากรัสเซีย "Invasion" ที่ดูเหมือนว่างานสร้างจะยิ่งใหญ่เทียบเท่าระดับฮอลลิวูดเลยทีเดียว รีวิว Invasion
เรื่องย่อ
สามปีหลังจากที่โลกมนุษย์ถูกโจมตีจากนอกโลกเป็นครั้งแรก แม้เหล่ามวลมนุษยชาติจะสามารถเอาชนะศึกในครั้งนั้น และค่อยๆ กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ แต่ทว่าความสงบสุขกำลังจะหายไป เมื่อเหล่าเอเลี่ยนยกทัพมาบุกเพื่อทำลายล้างเผ่าพันธุ์อีกครั้ง และที่ใดมีน้ำไหลผ่าน ที่นั่นจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป!
ปี 2020 โลกของเราไม่ได้ถูกรุกรานจากศัตรูนอกโลก แต่ด้วยสภาวะโรคระบาดอย่างไวรัสโควิด19 ก็ทำให้หลายธุรกิจล้มหายตายจากไปอยู่ไม่น้อย Invasion จึงถือเป็นหนังหายนะภัยเรื่องแรกที่ว่าด้วยเอเลี่ยนบุกโลก! ประจำปีนี้
เมื่อปี 2017 หนังไซไฟรัสเซียเริ่มส่งออกเป็นสินค้าวัฒนธรรมสู่ระดับโลกมากขึ้น บ้างก็ปังบ้างก็แป้กแต่มีหนังเอเลียนบุกโลกอย่าง Attraction ที่แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายแต่ผลตอบรับเชิงประจักษ์ของมันก็มากพอจะทำให้ผู้สร้างเข็นภาคต่อออกมา
ในปีนี้ภายใต้ชื่อ Invasion หรือจะเรียกให้เต็มยศก็ต้องเป็น Attraction 2 : Invasion ที่เหมือนจะให้คนดูตั้งตารอได้เลยว่าคราวนี้เอเลียนตัวร้ายจะ “บุก” โลกยังไง
เนื้อเรื่อง
หนังเรื่องนี้เป็นภาคต่อจาก "Attraction มหาวิบัติเอเลี่ยนถล่มโลก" ที่เคยเข้าฉายไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน โดยเล่าเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น หลังจากที่โลกถูกโจมตีเป็นครั้งแรก แม้ว่ามนุษยชาติจะคว้าชัยชนะในครั้งนั้น แต่ความสงบสุขกำลังจะหายไปอีกครั้ง เมื่อเหล่าเอเลี่ยนยกทัพมาบุกเพื่อทำลายล้างเผ่าพันธุ์อีกครั้ง และที่ใดมีน้ำไหลผ่าน ที่นั่นจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
หลังรอดชีวิตด้วยเทคโนโลยีเอเลียน ยูเลีย (อิรินา สตาร์เชนบอม) ลูกสาวนายพลใหญ่ของกองทัพต้องตกอยู่ในอารักขาจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดและยังต้องตกเป็นหนูทดลองให้งานกลาโหมอีก แต่เมื่อภัยจากต่างดาวยังคงคืบคลาน ยูเลียก็ได้กลับมารวมตัวกับ อัตโยม (อเล็กซานเดอร์ เปตรอฟ)และฮาร์คอน (รีนัล มุกคาเมตอฟ)เพื่อหาทางหยุดยั้งภัยร้ายจากต่างดาวอีกครั้ง
การดำเนินเรื่อง
ก่อนจะว่าถึงตัวหนังขอสารภาพตามตรงว่าผมเข้าโรงไปดูหนังโดยได้ดูตัวอย่างดูหนังฟรี ฉบับพากย์ไทยแค่ไม่กี่รอบและยังไม่เคยดู Attraction หนังภาคแรกเมื่อ 3 ปีก่อนด้วยซ้ำดังนั้นความรู้สึกของการดูหนังใน 30 นาทีแรกเลยเหมือนถูกอัดข้อมูลที่ไม่คุ้นเคยว่าทำไมยูเลียถึงมีความสำคัญขนาด
ทำไมถึงต้องมีบอดีการ์ดและรัฐบาลจะทดลองตัวยูเลียไปทำไมก็ไม่ทราบ แม้หนังจะเปิดเรื่องด้วยความเดิมตอนที่แล้วทว่ากลับนำเสนอแบบแอนิเมชันที่ยากเกินกว่าจะจับใจความเรื่องราวหนังภาคแรกได้หมด
ที่เลวร้ายกว่านั้นคือต้องยอมรับว่าหนังมีไอเดียหลายอย่างที่น่าสนใจในตัวเองนะครับทั้งหุ่นยนต์เอเลียนของรัฐบาลและการทดลองนางเอกแต่พอไปซักกลาง ๆ เรื่องหนังเหมือนปูอะไรไว้ต้นเรื่องก็คือทิ้งหมด ไอ้หุ่นยนต์ก็แค่เอาไว้ให้ตัวละครในเรื่องใช้หนีจากทหารบุกโจมตีเท่านั้นหรือการทดลองนางเอกสุดท้ายหนังก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ที่ว่านางเอกสามารถติดต่อสื่อสารกับเอเลียนได้(หรือเปล่า)
ยิ่งเอาอัตโยมกับฮาร์คอนเข้ามาก็ทำให้หนังไปโฟกัสที่ความสัมพันธ์ของ 3 คนนี้ที่งง ๆ แปลก ๆ ประหนึ่งนางเอกเคยทิ้งอัตโยมที่เป็นมนุษย์ไปหาฮาร์คอนเอเลียนสุดหล่อจนในภาคนี้อยู่ดี ๆ อัตโยม
นางก็จะเล่นบทฮีโรทั้งที่ตัวเองเป็นเส้นเลือดในสมองแตกคอยปกป้องยูเลียแต่เรากลับไม่รู้สึกว่าเขาจริงใจกับฮาร์คอนยังไงก็ไม่รู้เลยเหมือนหนังจะเพิ่มประเด็นความสัมพันธ์ตัวละครที่ซับซ้อนเกินความจำเป็นไปหน่อย
และยังไม่ทันที่เราจะทำความเข้าใจกับเรื่องราวของตัวละครหลัก อยู่ดี ๆ หนังก็พุ่งเป้าไปที่เจตนารมณ์ของเอเลียนที่ต้องการกำจัด ยูเลีย (อีกแล้ว) โดยเอาโลกเป็นตัวประกันและวิธีการของมันก็แสนจะเจ้าเล่ห์ด้วยการปล่อยเฟกนิวส์ ! ทางสื่อดิจิทัลเพื่อให้มนุษย์หันมาเล่นงานยูเลีย
ซึ่งตรงนี้มองเผิน ๆ เหมือนจะเป็นไอเดียล้ำ ๆ ของหนังใหม่ชนโรงแต่คิดให้ดีก็เหมือนหนังจะตีหัวคนดูในประเทศว่าอย่าเชื่อโซเชียลมีเดียที่เป็นเหมือนอาวุธจากต่างดาวแต่ให้เชื่อข่าวสารจากรัฐบาลแบบอนาล็อกเท่านั้นจนอยู่ดี ๆ หนังก็กลายเป็นเครื่องมือของรัฐบาลไปซะงั้นน่ะ
และไม่ได้แค่พลอตรักสามเส้าหรืองานมะรุมมะตุ้มรุมฆ่ายูเลียเท่านั้น หนังยังสร้างกำแพงและเสริมด้วยบันไดที่ซับซ้อนราวกับบันไดเพนโรสในหนัง Inception ด้วยการยกประเด็นคุณค่าของมนุษย์กับคุณค่าของปัญญาประดิษฐ์ หรือ Ai
ซึ่งเป็นการกล่าวทั้งทางตรงอย่างเจ้าดาวเทียมสังหารจากต่างดาวที่ชื่อว่า “รา” ไปจนถึงการกล่าวเปรียบเปรยไปถึงการร่วมกันต่อสู้ระหว่างตัวละครนำทั้ง 3 ที่บางทีเราก็ไม่เข้าใจการตัดสินใจของพวกเขาเท่าไหร่จนไอ้ปรัชญาAIที่ว่ากลายเป็นของยากไปเลยเพราะบทหนังก็ให้มนุษย์ตัดสินใจประหลาด ๆ เพียงเพื่อให้มีฉากแอ็กชันท้ายเรื่องนาน ๆ อีกนิดเท่านั้นเอง
เมื่อน้ำกลายเป็นอาวุธหลักในการโจมตี
ตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ที่เราเติบโตกันมานั้นน้ำถือเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของโลกมนุษย์ทั้งหมด เมื่อมนุษย์ต่างดาวเรียนรู้ว่าธาตุดังกล่าวคือสิ่งจำเป็นของมนุษย์ พวกเขาจึงเลือกมันมาเป็นอาวุธในการโจมตี แล้วแบบนี้เหล่ามวลมนุษย์จะสามารถเอาตัวรอดจากการโจมตีครั้งนี้ได้หรือไม่
ภายหลังจากการที่โลกมนุษย์ถูกโจมตีจากนอกโลกเป็นครั้งแรก เหล่าผู้คนในโลกสามารถปลอบโยนจิตใจอันแสนบอบช้ำและพยายามกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติกันดังเดิม แต่ความสงบสุขที่ทุกคนมองหากลับดำรงอยู่ได้ไม่นาน มนุษย์ต่างดาวกลับมาพร้อมแผนร้ายครั้งใหม่
ซึ่งสถานที่ใดมีน้ำไหลผ่าน ที่เหล่านั้นไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามมวลมนุษยชาติก็ต้องเอาชนะวิกฤติครั้งนี้ให้จงได้
ในหนังเอเลี่ยนถล่มโลกนั้นส่วนมากแล้ว เหล่ามนุษย์ต่างดาวมักจะมาพร้อมอาวุธไฮเทคสุดล้ำ วิทยาการสุดก้าวหน้าที่มนุษย์เป็นรองในเรื่องความรู้ การที่ Invasion มาพร้อมกับแนวคิดในการที่เหล่าเอเลี่ยนเลือกจะโจมตีโลกมนุษย์ด้วยการใช้น้ำ ถือว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
น้ำไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยหลักของเหล่ามนุษย์แต่ยังเป็นสื่อหลักในการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง น้ำที่สามารถพบเจอได้ทุกที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ มวลมนุษย์จะรู้สึกอย่างไร เมื่อพบว่าน้ำกำลังคุกคามชีวิตพวกเขา ความหมายของการใช้น้ำเป็นอาวุธ
ซึ่งครอบคลุมถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่โลกหมายถึง ไม่มีพื้นใดบนโลกที่มนุษย์สามารถหลบหนีได้ท่ามกลางภาวะภัยพิบัติครั้งใหญ่ เกิดคำถามขึ้นว่าเราจะเอาชนะมันได้อย่างไร
เฟดอร์ บอนดาร์ชุคผู้กำกับหนังไซไฟ
หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์เรื่อง “Attraction: มหาวิบัติเอเลี่ยนถล่มโลก” ไปทั่วโลก เฟดอร์ บอนดาร์ชุคผู้กำกับสัญชาติรัสเซียก็กลายเป็นที่รู้จักในนามของผู้กำกับภาพยนตร์ภัยพิบัติไซไฟฟอร์มยักษ์มากฝีมือ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความสามารถในการผลิตที่พอดี และทำออกมาอย่างใส่ใจรายละเอียดซึ่งถือเป็นความสามารถในการผลิตภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เราจะได้เห็นมันผ่านภาพยนตร์เรื่อง “Invasion 2020”
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถใช้ซีจี กับความสามารถในการแสดงที่สมจริงผสมเข้ากันอย่างกลมกลืนเพื่อเพิ่มรายละเอียดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ภาพยนตร์ที่ผลิตออกมาเหนือยิ่งกว่าจินตนาการ ผู้กำกับได้กล่าวถึงภาพยนตร์ไว้ว่า
" ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นต้นฉบับ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถทำออกมาให้เหมือนกับเขา " ยังบอกเสริมอีกว่าเขาต้องใช้ประสบการณ์และจินตนาการอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะสร้างภาพยนตร์แนวใหม่โดยสิ้นเชิงภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากพลังแห่งจินตนาการของทีมผลิต
รวมถึงตัวเขาเองด้วย เทคโนโลยีใหม่ของเหล่าเอเลี่ยน ผู้รุกรานคือ การใช้น้ำเป็นอาวุธ ซึ่งเป็นคิดเป็นสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่โลก และการเจาะเข้าระบบการสื่อสารทั้งหมดของมวลมนุษย์ ทักษะความสามารถที่เหนือการคาดเดาของเหล่าเอเลี่ยน ถือเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในภาพยนตร์
สรุป
สรุปแล้ว Invasion กลายเป็นหนังภาคต่อที่ถูกทำการตลาดประหนึ่งเป็นหนังเรื่องใหม่จนคนดูที่เข้าโรงได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก ซึ่งอาจจะด้วยว่าหนังภาคแรกถูกจัดจำหน่ายโดย Mono Films ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น M Picture ในภาคนี้
ซึ่งการเข้าไปดูหนังโดยไม่เคยรู้ข้อมูลอะไรมาก่อนก็ทำให้ผู้ชมงงมากกว่าจะสนุกสนานไปกับหนังและยิ่งตัวหนังถูกบอกเล่าให้ยากด้วยปรัชญาที่ไม่จำเป็นก็ทำให้มันกลายเป็นยาขมผสมยานอนหลับไปอย่างน่าเสียดาย
コメント