รีวิว Hanna - เหี้ยมบริสุทธิ์
เท่าที่รู้มา เรื่องนี้ Danny Boyle ก็เคยร่วมพัฒนาบทกับ Seth Lochhead ก่อนที่จะเลิกทำไป แต่แล้วโปรเจ็กต์นี้ก็กลับมาอีกครั้ง กลายเป็น Joe Wright (The Soloist, Atonement, Pride & Prejudice) ที่นั่งกำกับฯ โดยที่ยังมี Seth Lochhead ร่วมเขียนบทกับ David Farr ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ Tom Rowlands และ Ed Simons จาก The Chemical Brothers มาร่วมทำเพลงประกอบด้วยแหละ รีวิว Hanna
เรื่องย่อ
ฮานนาได้รับการฝึกให้เป็นนักฆ่าที่ตัดขาดจากโลก เธอปรารถนาชีวิตที่เป็นปกติสุข แต่กลับถูกซีไอเอตามล่าทันทีที่หนีออกมา
เท่าที่รู้มา เรื่องนี้ Danny Boyle ก็เคยร่วมพัฒนาบทกับ Seth Lochhead ก่อนที่จะเลิกทำไป แต่แล้วโปรเจ็กต์นี้ก็กลับมาอีกครั้ง กลายเป็น Joe Wright (The Soloist, Atonement, Pride & Prejudice) ที่นั่งกำกับฯ โดยที่ยังมี Seth Lochhead ร่วมเขียนบทกับ David Farr ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ Tom Rowlands และ Ed Simons จาก The Chemical Brothers มาร่วมทำเพลงประกอบด้วยแหละ
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวของสาววัย 16 ปีที่ชื่อ Hanna เธออาศัยอยู่กับ Erik พ่อที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ CIA ชั้นสูงมากประสบการณ์ ซึ่งหลังจากการตายอย่างเป็นปริศนาของผู้เป็นแม่ของเธอ ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับพ่อในตอนเหนืออันหนาวเหน็บของประเทศฟินแลนด์
ทั้งยังตัดขาดจากโลกภายนอก และใช้เวลาที่มีอยู่ทุกวันในการฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบ,การใช้ธนูล่าสัตว์,การฝึกยิงปืน รวมไปถึงทักษะด้านภาษาต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจที่ชะตากำหนดมา ด้วยการแยกทางกับผู้เป็นพ่อและแฝงตัวเข้าไปยังหน่วยงานลับของรัฐบาลตามแผนที่เธอกับพ่อซักซ้อมมาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
เพื่อสังหาร Marissa เจ้าหน้าที่หญิงชั้นสูงของหน่วยงานลับที่กุมความลับเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเธอไว้ แต่เมื่อภารกิจเกิดผิดพลาดทำให้เธอหลงอยู่ในทะเลทรายโมร็อกโก นั่นทำให้การตามล่าชิงไหวชิงพริบสุดระห่ำเริ่มต้นขึ้น !
การดำเนินเรื่อง
เป็นเรื่องราวของสาวน้อยที่ถูกเลี้ยงมาเพื่อเป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็ก โดยเธอถูกเลี้ยงในกลางป่า แถบขั้วโลกเหนือ เธอมีชื่อว่าฮันน่า โดยมีพ่อของเธอ ชื่อว่าอีริค เป็นผู้ฝึกทักษะ และเลี้ยงดูเธอ เพื่อน ๆ คงจะคิดว่าพ่อลูกคู่นี้เป็นพวกป่าเถื่อนใช้ไหม แต่จริง ๆ แล้วเขาพูดกันได้ถึงสิบภาษา โดยพ่อของเธอเป็นผู้สอน แถมมีทักษะที่ยอดเยี่ยมในการเอาตัวรอดจากทุกสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
ฮันน่า เธอมีแม่ แต่เขาได้เสียชีวิตจากเธอไปแล้วหลายปี นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฮันน่าถึงอยู่แต่กับพ่อสองคน ในทุก ๆ เช้าพ่อจะฝึกให้เธอยิงปืน และอีกมากมาย ที่เรียกได้ว่าโหดอย่างแท้จริง เพื่อให้เธอสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งอันตรายได้ในอนาคต
และเมื่อถึงบททดสอบสุดท้าย เธอก็สอบผ่าน และทำได้เป็นอย่างดี พ่อของเธอจึงได้นำกล่องใบหนึ่งที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินมาอย่างยาวนาน เพื่อมอบมันให้กับลูกสาวของเขา และพูดต่อด้วยว่า หากพร้อมเมื่อไหร่ ให้เปิดสวิตช์ที่เครื่องนี้ มันจะระบุต่ำแหน่งว่าเราอยู่ที่ไหน
หลังจากนั้นฮันน่าจะถูกบางอย่างตามล่า และมันจะไม่มีการหยุด จนกว่าจะสิ้นลมหายใจกันไปข้างหนึ่ง ส่วนพ่อจะทิ้งให้ฮันน่านั้นเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง
ฮันน่าจึงเปิดสวิตช์นั้นขึ้น สัญญาณก็ได้แจ้งไปที่หน่วยงานราชการลับ ซึ่งแท้จริงแล้ว พ่อของฮันน่าคือทหารเก่า แต่กลับถูกเป็นเป้าเนื่องจากลายนิ้วมือในปืนกระบอกที่ฆ่าโจฮันน่า ภรรยาของเขา เป็นลายนิ้วมือเดีวกับอีริค ทำให้เขาถูกล่านั้นเอง
เมื่ออีริคเห็นว่าสวิตช์เปิดอยู่ เขาจึงออกจากบ้านกระท่อมหลังนั้น และปล่อยฮั่นน่าทิ้งไว้ ไม่นานทหารชุดจู่โจมก็บุกไปในกระท่อมของเธอ แต่พบแค่เพียงหญิงสาวคนเดียวคือฮันน่า เธอจึงถูกนำไปขังในหน่วยงาน
และถูกเค้นให้ตอบว่าจริง ๆ แล้วพ่อของเธออยู่ที่ไหน แต่ฮันน่าไม่เปิดปากตอบแม้แต่คำเดียว เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามชมกันเองนะ แต่แอบบอกนิดนึงว่ามันคืองานวิจัยลับ ที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษย์ของผู้หญิงคนหนึ่งในเรื่องนี้
นักแสดง
ขณะที่สาวน้อย Saoirse Ronan ที่หน้าตาน่ารักและดูสดใส แต่ต้องมาเล่นในบทบู๊เกินวัย แต่ขณะเดียวกัน ก็เล่นแสดงหนังใหม่เต็มเรื่องสีหน้าได้ดีพอสมควร เมื่อไล่ไปดูผลงานเก่าๆ แม้จะเข้าวงการมาไม่นาน แต่ก็มีผลงานทั้ง Atonement, The Lovely Bones, City of Ember, The Way Back และยังเป็นคนให้เสียงพากย์ภาษาอังกฤษใน Arrietty อีกต่างหาก ไม่เบาทีเดียว
จุดเด่น
เป็นตัวอย่างที่ดีในการที่เป็นหนังที่เปิดเรื่องมาดี,มีการดำเนินเรื่องที่น่าติดตามมาก โดยเฉพาะเรื่องการ ‘การตัดต่อภาพ’ และ ‘ดนตรีประกอบ’ ที่ถูกนำเสนอได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญหนังยังได้นักแสดงชั้นเยี่ยมมารับบทนำ
โดยเฉพาะรายของสาว Saoirse Ronan ที่เคยฝากการแสดงระดับสุดยอดไปแล้วใน Atonement และ The Lovely Bones ซึ่งในเรื่องนี้จัดได้ว่าเป็นการรับทบู๊แอกชั่นดราม่าที่ยอดเยี่ยมชนิดที่ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด เพราะเธอช่างดูเศร้าด้วยใบหน้าและแววตาที่ไร้ความรู้สึก
แต่ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนมาเป็นแววตาแห่งนักฆ่าได้ดีจนน่าทึ่งชนิดเรียกว่าการแสดงของเธอแทบจะข่มนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง Eric Bana และ Cate Blanchett เลยทีเดียว
นอกจากในส่วนของการตัดต่อฉากหนังออนไลน์แอกชั่นได้อย่างดีและมีไตล์แล้ว หนังยังมีอีกฉากที่นำเสนอออกมาได้ดีมากนั่นคือฉาก Long Take ของตัวละคร Erik (ที่รับบทโดย Eric Bana) ที่เดินหนีสายลับที่แอบตามมาตั้งแต่สถานีขนส่งจนไปถึงทางเดินใต้ดิน ก่อนจะมาจบลงที่ฉากดวล 1 ต่อ 4 ด้วยมือเปล่า
ที่นอกจากการถ่ายภาพจะทำได้เยี่ยมแล้ว ดนตรีประกอบก็ถูกนำมาใส่อย่างถูกจังหวะอย่างมากอีกด้วย หรือจะเป็นในฉากที่ Hanna หนีออกจากที่กักขังที่ต้องยกนิ้วให้กับทีมงานตัดต่อภาพและดนตรีประกอบจริงๆ
ข้อเสีย
แต่ถึงกระนั้นเมื่อหนังดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย กลับกลายเป็นว่าหนังเริ่มที่จะหย่อนความจริงจังที่มีมาตลอดทั้งเรื่องลง พร้อมเลือกที่จะปิดตัวลงอย่างตัดอารมณ์ผู้ชม ซึ่งถ้ามองให้แง่ของการพยายามปิดฉากให้ส่งอารมณ์เชื่อมโยงไปถึงฉากเปิดเรื่องที่เป็นเหตุการณ์การล่ากวาง หากแต่เปลี่ยนมาเป็นคนแทนแล้วละก็
หนังน่าจะเลือกที่จะให้ตัวละคร Hanna ยิงเข้าเป้าตั้งแต่นัดแรกไปเลย เพื่อบ่งบอกเป็นนัยๆในผู้ชมรู้สึกว่า ณ จุดนี้เธอไม่ได้พลาดเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วละก็หนังน่าจะส่งผลต่ออารมณ์ผู้ชมได้มากกว่านี้เยอะทีเดียว
โดยรวม
โดยรวมแล้ว “Hanna” ก็ยังจัดเป็นหนังแอกชั่นสืบสวนหาความจริงสุดตื่นเต้นที่มาพร้อมนักแสดงนำอย่างสาว Saoirse Ronan มาขึ้นจอด้วยภาพลักษณ์และการแสดงที่สังหารผู้ชมให้ตายคาจอได้อย่างเด็ดขาด และการเดินเรื่องที่ชวนลุ้น แม้จะมีแผ่วปลายไปบ้างช่วงท้ายเรื่องก็ตาม
เนื้อหาบางส่วนค่อนข้างเป็นภาพที่รุนแรง บางที อาจจะแรงเกินกว่าจะได้เรท น13+ ด้วยซ้ำ แม้ว่า บางส่วนของพล็อตจะดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลอะไรนัก แต่ความสนุกคือ การได้ดูภาพพร้อมเพลงประกอบแนวๆ จาก The Chemical Brothers และได้นั่งดูน้อง Ronan เล่นทุกฉาก อีกทั้งยังมีเพื่อนสาวอีกคนที่มาช่วยสร้างความขำ ได้อีกบรรยากาศหนึ่งในหนัง
Comments