Eli

รีวิว Eli - อีไล จิตต้องขัง

สำหรับใครที่เป็นคอหนังสยองขวัญ แนวสืบสวนสอบสวน คุณไม่ควรพลาดเรื่องนี้ 'อีไล (Eli) จิตต้องขัง' ผลงานภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ จากปี 2019 จากทีมผู้สร้างฮิลล์เฮาส์ บ้านกระตุกวิญญาณ (The Haunting of Hill House) และเกมกระตุกขวัญ (Gerald's game) ซีรี่ย์สยองขวัญชื่อดัง ที่จะมาสร้างความสีสันการดูหนังผ่านตัวละครอย่าง 'Eli' เด็กน้อยผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อย่างรุนแรง ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ในสภาพอากาศทั่วไป รีวิว Eli

เรื่องย่อ

ครอบครัวมิลเลอร์พาลูกชายที่ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง ย้ายเข้ารับการรักษาในบ้านปลอดเชื้อ เพราะคิดว่านี่คือหนทางสุดท้ายในการรักษาโรคนี้ อีไลต้องทรมานจากจิตหลอนอันน่าสะพรึงกลัว แต่ใครจะรู้ว่าความชั่วร้ายสุดสยองจะรอทุกคนอยู่ในบ้านหลังนี้

---

สำหรับใครที่เป็นคอหนังสยองขวัญ แนวสืบสวนสอบสวน คุณไม่ควรพลาดเรื่องนี้ 'อีไล (Eli) จิตต้องขัง' ผลงานภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ จากปี 2019 จากทีมผู้สร้างฮิลล์เฮาส์ บ้านกระตุกวิญญาณ (The Haunting of Hill House)

และเกมกระตุกขวัญ (Gerald's game) ซีรี่ย์สยองขวัญชื่อดัง ที่จะมาสร้างความสีสันการดูหนังผ่านตัวละครอย่าง 'Eli' เด็กน้อยผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อย่างรุนแรง ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ในสภาพอากาศทั่วไป

อีกหนึ่งหนังสยองขวัญจาก Netflix ที่ต้อนรับการมาของฮัลโลวีนในเดือนนี้ นี่ไม่ใช่หนังที่สร้างมาลง Netfix โดยตรง แต่เป็นหนังสร้างลงโรงที่ทำโดยค่าย Paramount (ค่ายดาวภูเขา) พร้อมได้ลิฟไทเลอร์มาเล่นตัวเอก (เล่นเป็น Dr. Isabella Horn หมอรักษาอีไล) แต่ Netflix เจรจาซื้อมาลงในแพลตฟอร์มของตัวเองแทน

พร้อมแปะตรา Original Netflix ไม่ให้ไปไหนโผล่ที่ไหนอีก และก็แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ผลงานสนองนี๊ดตามใจผู้กำกับเหมือนหนังเน็ตฟลิกซ์ทั่วไป ตัวหนังมีเรื่องราวและการสูตรสำเร็จที่แมสตามแบบหนังโรงอยู่ในตัว

เนื้อเรื่อง

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวแปลกๆ ได้เกินขึ้น ขณะเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ชื่อว่า 'Eli' กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนหญ้าหน้าบ้านอย่างสนุกสนาน แต่จู่ๆ เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อผื่นแดงได้ผุดขึ้นมาจากผิวหนัง สีหน้าและเสียงร้องสะท้อนของเขาถึงความเจ็บปวดได้อย่างชัดเจน ภายหลังจากการรักษา

โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สรุปได้ว่า 'Eli' เป็นโรคภูมิแพ้ขั้นรุนแรง ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติทั่วไปแบบคนอื่นๆ ได้ ขนาดอากาศที่ต้องใช้หายใจ ยังต้องผ่านเครื่องกรอง แม้กระทั่งน้ำดื่ม อาหาร หรือของใช้ใดๆ ก็ตาม ทุกอย่างต้องผ่านการฆ่าเชื้อ (sterile) ด้วยกันทั้งสิ้น

พ่อแม่ของ 'Eli' ทำทุกวิถีทางที่จะให้ลูกชายสุดที่รัก กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เขาพา 'Eli' ไปรักษาในทุกๆที่ หมดเงินไปเป็นจำนวนมาก จนทุกอย่างมันดูจะสิ้นหวังไปหมด แต่แล้วพวกเขากลับได้ยินมาว่า ที่ปราสาทที่ห่างไกลตัวเมืองแห่งหนึ่ง

สามารถรักษาโรคภูมิแพ้ขั้นรุนแรงได้ โดยมีหมอและทีมพยาบาทที่ชำนาญการอาศัยอยู่ที่นั่น ที่สำคัญ พวกเขาจะต้องอยู่ในปราสาทโบราณแห่งนี้ จนกว่าการรักษาจะสิ้นสุด

ที่นั่นเอง เขาได้พบกับ ด็อกเตอร์ฮอร์น (Dr. Horn) หัวหน้าทีมแพทย์ประจำสถานพยาบาลแห่งนี้ หลังจากที่ทั้งหมดเข้าทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ก็ถึงคิวของ 'Eli' ที่จะต้องได้รับการรักษาโรคที่เขาเป็นอยู่...

พล็อตเรื่อง

หนังมาพร้อมกับพล็อตและเรื่องราวที่แตกต่างจากหนังสยองขวัญทั่วไปพอตัว ออกแนววิทยาศาสตร์ ทฤษฎีสมคบคิด ผีหลอก จิตหลอน ผสมปนเปกัน เนื้อเรื่องเริ่มด้วยอีไลเด็กที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองจากสภาพแวดล้อมทั่วไป

ทำให้ต้องอยู่ในห้องกักเชื้อในบ้าน ไปไหนมาไหนก็ต้องใส่ชุดเหมือนนักบินอวกาศ ทำให้กลายเป็นชีวิตที่ทรมานซ้ำเข้าไปอีก ซึ่งแม่และพ่อก็พาไปรักษากับหมอ ดร.อิซาเบลล่า เฉพาะทางที่สร้างบ้านตัวเองเป็นบ้านปลอดเชื้อโดยเฉพาะ

แต่แล้วกลายเป็นว่าอีไลกลับพบเจอเรื่องราวสยองขวัญเหนือธรรมชาติหลายอย่างในที่แห่งนี้ที่หาคำตอบไม่ได้ และก็ไม่มีใครในบ้านพบเจอรวมถึงเชื่ออีไลสักคน

หนังเดินเรื่องด้วยอีไลเป็นหลักตลอดเวลา ซึ่งในดูหนังฟรี บทก็วางให้เป็นเด็กที่มีความกล้านิสัยห่ามๆ พอตัว แต่ก็ยังต้องขวัญผวากับสิ่งที่พบเจอ น้องเล่นได้ดีตรึงความสนใจคนดูได้ตลอด ทั้งน่ารักและน่าสงสารไปพร้อมกัน

หนังแบ่งเรื่องราวสยองเป็นเลเวลตามช่วงการบำบัดขั้นที่ 1 2 3 จาก ดร.อิซาเบลล่า ที่พฤติกรรมลับลวงพรางไม่น่าไว้ใจ เหมือนการจับอีไลไปทดลองมากกว่ารักษาจริง ช่วงพาร์ทตรงนี้ไต่ลำดับเป็นฉากสยองทีละขั้น มีแหวะนิดๆ เพราะหนังได้เรต R เลยไม่ต้องมาซอฟต์ๆ อะไร (อย่างฉากเจาะสมองอีไล)

แต่หลังการรักษาทีละขั้นก็เป็นการมาของฉากหลอนผ่านสายตาอีไล ด้วยการเห็นสิ่งผิดปกติเหนือธรรมชาติในบ้านหลังนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (แต่หมอบอกว่าอีไลหลอนไปเองจากยาที่ใช้รักษา) ซึ่งฉากหลอนเหล่านี้มาหลายรูปแบบอย่าง

การเล่นกับเงาที่ปรากฎเป็นรูปร่างต่างๆ การปรากฎตัวของผีเด็กหลายตัว ตัวหนังสือที่ปรากฎขึ้นมาเองบนกระจกกับเสียงหาที่มาที่ไปไม่ได้บอกว่าอีไลโกหกย้ำๆๆ โดยเล่นคำจาก ELI เป็น LIE กลับตัวอีไว้หลังชื่ออีไลให้กลายเป็นว่า “โกหก”

ซึ่งทั้งหมดนี้ทำเอาเราทั้งหลอนขนลุกไปพร้อมกับอีไลได้ โดยไม่ต้องเล่นมุกตุ้งแช่เลยสักฉาก และก็ไม่มีบทโง่ๆ ให้ตัวละครเดินเข้าไปหาเรื่องให้ผีหลอกอะไรทั้งสิ้น แถมการหลอกแต่ละครั้งจะมาต่อเนื่องเป็นชุดหลายแบบในฉากเดียวกัน เรียกว่าเป็น “คอมโบหลอน” ที่จัดว่าเด็ดใช้ได้เลย

ปมและความลับ

นอกจากทั้งผี ทั้งหมอในบ้านที่น่ากลัวพอๆ กันแล้ว หนังยังเพิ่มตัวละครเด็กสาวปริศนา Haley ที่อยู่นอกบ้านหลังนี้แล้วแวะเวียนมาคุยกับอีไลเสมอ เล่นโดยเด็กสาวที่รับบทหนังออนไลน์ แม็กซ์ ใน Stranger Things ซึ่งเธอก็เล่นได้น่ารักน่าชังกวนๆ เหมือนเพื่อนเล่นของอีไลดี แถมมีความหลอนนิดๆ แบบเดาไม่ออกเลยว่านี่เป็นผีหรือคน หรือภาพหลอนจากยากันแน่?

นอกจากนั้นบทพ่อของอีไลก็ทำเอาคนดูสงสัยเข้าไปอีกจากพฤติกรรมแปลกๆ ที่ดูเหมือนซ่อนความลับอะไรไว้สักอย่าง ส่วนแม่ของอีไลก็เป็นแม่ที่รักลูกสุดหัวใจ พร้อมช่วยเหลือทำทุกอย่างให้อีไลหายเป็นปลิดทิ้งให้ได้ ซึ่งเธอตีบทแตกทำให้เรารู้สึกสงสารเห็นอกเห็นใจเธอกับอีไลไปพร้อมกัน

โดยรวม

โดยรวมเป็นหนังที่เรียกว่าเดายากมากว่าจะมาทางไหน บ้านนี้มีผีจริง? อีไลหลอนไปเอง? หรือหมอหลอกลวงกันแน่? แม้หนังจะส่งคำใบ้มาเป็นระยะเล็กๆ น้อยๆ แบบที่ดูรอบแรกคงได้แค่เอะใจ แต่พอจบแล้วย้อนกลับไปดูถึงเห็นคำใบ้เหล่านี้ชัดเจนขึ้น

หลังเฉลยเรื่องทั้งหมดยอมรับว่าผิดคาดไปเหมือนกัน แถมยังมีการหักมุมซ้อนช่วงเฉลยทำให้คนดูหลงทางอีกทีด้วย ซึ่งโอเคเลยกับจุดหักมุมเหล่านี้ แต่แค่อาจจะดูไปไกลกว่าเรื่องราวที่เดินเรื่องมาตลอดมากไปเหมือนกัน แต่หนังก็มีเหตุผลรองรับที่มาที่ไปเคลียร์ข้อสงสัยได้เกือบหมด แถมด้วยฉากจบที่ยังพาเรื่องราวให้ไปต่อปลายเปิดเล็กๆ ได้อีกด้วย

สรุป

นี่เป็นหนังสยองขวัญที่เรียกว่าทำได้ถึง ทำเอาคนดูสะดุ้งหลอนได้กับหลายๆ ฉาก แถมทำให้คนดูคิดตามระแวงเรื่องราวทั้งหมดไม่รู้ว่าอะไรจริงหรือเท็จ ดาราทุกคนก็เล่นได้สมบทบาทดี เรียกว่าหนังเกือบไม่มีอะไรจะให้ติมากมาย

ยกเว้นพล็อตเฉลยที่อาจจะเกร่อไปนิดตามสูตรหนังฝรั่งแนวนี้ไปหน่อยเท่านั้น แต่ส่วนนี้ก็ถูกทดแทนด้วยเรื่องราวระหว่างทางก่อนมาถึงจุดนี้ที่หนังหลอกเราจนเขวสับสนหลงทางไปได้เหมือนกัน สรุปนี่เป็นอีก 1 ในหนังออริจินอลเน็ตฟลิกที่คุ้มค่ากับการดูครับ